มาสเตอร์ แอด มั่นใจนักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้นไอพีโอ หลังเปิดขาย 17-18 ก.ย. ในราคาหุ้นละ
8 บาท ตั้งเป้าปีหน้าทำกำไรเท่ากับทุนจดทะเบียน 125 ล้านบาท หลังรับรู้รายได้จากสื่อป้ายโฆษณาในพื้นที่ที่ได้รับสิทธิบริหารจากการรถไฟฯ
รวมทั้งรายได้จากโรงงานประกอบป้ายไตรวิชั่น
วานนี้ (15 ก.ย.) บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) (MACO) ได้นำเสนอข้อมูลสรุป
ของบริษัท ให้แก่นักวิเคราะห์และนักลงทุนทั่วไป ก่อนที่จะเปิดจองขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไปจำนวน
25 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท เสนอขาย หุ้นละ 8 บาท ระหว่างวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ โดยจะเทรดซื้อขายหุ้นในวันที่
29 ก.ย. 2546
นายนพดล ตัณศลารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน)
(MACO) เปิดเผยว่าบริษัทมีความมั่นใจว่าการระดมทุนครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน
เนื่องจากเราคลุกคลีอยู่ในสื่อโฆษณามานาน 15 ปี และมีการพัฒนาสื่อให้มีความหลากหลาย
เพื่อสนองความต้องการลูกค้า รวมทั้งเป็นบริษัทที่ได้รับสิทธิติดตั้งป้ายโฆษณาจากหน่วยงานรัฐมากที่สุด
จนกลายเป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุด โดยปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 25%จากปีนี้
15-17%
ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของสื่อโฆษณาเพิ่มสูงขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยของประเทศไทยมีสัดส่วนเพียง
3% ของยอดการใช้สื่อโฆษณาทั้งหมด ขณะที่ประเทศพัฒนาทั้งยุโรป และสหรัฐฯ มีการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อดังกล่าวถึง
6% บ่งชี้ว่าธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกฯของไทยยังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก
ดังนั้นบริษัทตั้งเป้าหมายจะทำกำไรสุทธิเท่ากับทุนจดทะเบียนหลังการออกหุ้นเพิ่มทุน
หรือประมาณ 125 ล้านบาทภายใน 1 ปีหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI)
จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิกว่า 62 ล้านบาทสาเหตุที่บริษัทมีความมั่นใจว่าปีหน้าจะมีกำไรสูงถึง
125 ล้านบาทนั้น เพราะบริษัทจะรับรู้รายได้จากการค่าสื่อป้ายโฆษณาบริเวณเลียบทางรถไฟฟ้าแถวถนนวิภาวดีประมาณ
150 ล้านบาท และโรงงานประกอบป้ายไตรวิชั่น 10-20 ล้านบาท ผนวกกับรายได้จากสื่อป้ายโฆษณาเดิมที่มีอยู่และที่จะเพิ่มเติมในอนาคต
ครึ่งปีแรกกำไร 31.14 ล้าน
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกนี้ บริษัทมีรายได้รวม 169.06 ล้านบาท และมีกำไร
สุทธิที่ 31.14 ล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิของปีก่อน เกือบ 2 เท่าตัว โดยทั้งปี 2545
บริษัทมีกำไรสุทธิ 16.62 ล้านบาท ดังนั้นในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกกว่า
2 เท่าตัว หรือ ประมาณ 62 ล้านบาท สาเหตุที่ผลการดำเนินงาน เติบโตค่อนข้างมาก เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจ
ทำให้มีการใช้สื่อโฆษณาเพิ่มสูงขึ้น โดยสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยนั้น สามารถเข้าถึง
กลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจงกว่าสื่อโฆษณาอื่นๆ รวมทั้งยังมีราคาต่ำกว่าสื่ออื่นด้วย
ส่วนนโยบายการจ่ายเงินปันผลนั้น บริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40%ของกำไรสุทธิ
ซึ่งผลการดำเนินงานในปีนี้ จะจ่ายปันผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้น โดยบริษัทจะขอมติความเห็น
ชอบว่าจะจ่ายปันผลหรือจะนำผลกำไรมาขยายธุรกิจเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้น
MACO ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
นายพิทักษ์ กิตติอัครเสถียร กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์
ไอบี กล่าวว่าราคาหุ้น MACO ที่ 8 บาท/หุ้น มี P/E อยู่ที่ 13 เท่า โดยเราพิจารณาจากรายได้และกำไรในอนาคต
เนื่องจากธุรกิจนี้ไม่สามารถเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นใน SET ได้ แต่ถ้าพิจารณาถึงบริษัทที่ดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกันในต่างประเทศพบว่าจะมี
P/E สูงถึง 30-40 เท่า
แผนลงทุนในครึ่งปีหลัง
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จำนวน 200 ล้านบาท จะนำมาลงทุนในพื้นที่ภาค
เอกชนและหน่วยงานรัฐที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจสื่อป้ายโฆษณา ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่
ระหว่างการทำสัญญาเช่าพื้นที่ดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณถนนเลียบทางรถไฟสาย
เหนือริมถนนวิภาวดี จากวัดเสมียนนารีไปจนถึงดอนเมือง โดยจะทำการติดตั้งสื่อแบบบิลบอร์ด
117 จุด คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ และรับรู้รายได้ในต้นปีหน้า
นอกจากนี้จะนำมาใช้ตั้งโรงงานผลิตกลไกการหมุนระบบและประกอบป้ายโฆษณาแบบไตรวิชั่น
น่าจะใช้เงินลงทุนเพียง 10 ล้านบาท เริ่มดำเนินการผลิตได้ในต้นปีหน้านี้ ทำให้ลดต้นทุน
ในการสั่งซื้อป้ายไตรวิชั่นจากต่างประเทศ รวมทั้งจะใช้โรงงานเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังเอเชีย
ออสเตรเลียและสหรัฐฯ
โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมลงทุนกับบริษัทผู้ผลิตป้ายโฆษณาแบบไตรวิชั่น จากประเทศสวีเดน
โดยเรามีข้อตกลงร่วมกับให้ผู้ร่วมทุนสวีเดน โดยขอให้หยุดโรงงานผลิตป้ายไตรวิชั่นที่สวีเดน
หันมานำเข้าจากโรงงานในไทยแทน เนื่องจากมีต้นทุนต่ำกว่าโรงงานในสวีเดน รวมทั้งบริษัทมีแผนงานที่จะขยายการดูแลสิทธิประโยชน์ให้แก่นักกีฬารายอื่น
หลังจากบริษัทได้ร่วมกับ SFX Sport Group ซึ่งเป็นผู้ดำเนิน ธุรกิจจัด Sport Event
และดูแลสิทธิประโยชน์ นักกีฬาดังจากทั่วโลก รวมทั้งบริษัทยังได้ร่วมดำเนินธุรกิจกับ
Total Sport Asia ในการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับกีฬา ไปจนถึงการหาช่องทางการ ขยายการลงทุนในธุรกิจด้านบันเทิงที่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสื่อโฆษณาที่ดำเนินอยู่เพิ่มมากขึ้น ด้วยส่งผลดีต่อรายได้ในปี
2548
ส่วนกรณีที่กรุงเทพมหานครมีนโยบายจัดระเบียบป้ายโฆษณานั้น บริษัทเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบ
เพราะบริษัทมีป้ายโฆษณาที่เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายมากที่สุด หากมีการจัดระเบียบ
จะส่งผลดี เพราะคู่แข่งลดน้อยลงบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจให้
บริการและรับจ้างผลิตสื่อป้ายโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 100
ล้านบาท และเพิ่มทุนฯเป็น 125 ล้านบาท โดยบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 25 ล้านหุ้น
คิด เป็นสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียนให้กับประชาชนทั่วไป ณ 30 มิถุนายน 2546 บริษัทมีสินทรัพย์รวม
277.11 ล้านบาท หนี้สินรวม 115.55 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 161.55 ล้านบาท