"BT-IFCT" จ้างที่ปรึกษาฯตรวจทรัพย์สินก่อนควบรวม


ผู้จัดการรายวัน(15 กันยายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

คลังเผย ต.ค.นี้ ได้เห็นภาพที่ชัดเจนของการควบรวม แบงก์ไทย-ไอเอฟซีที ล่าสุด 2 สถาบันการเงิน จ้างที่ปรึกษาสำรวจสินทรัพย์ โดยไทยธนาคารจ้าง "ธรรมนิต" ก่อนส่งแบงก์ชาติประเมินอีกรอบ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ไอเอฟซีที) โชว์ผลงานเดือนสิงหาคม 2546 ยอดอนุมัติสินเชื่อกว่า 4,000 ล้านบาท ตอกย้ำถึงความมั่นใจของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่อสถานภาพของการเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรม

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการควบรวมกิจการของธนาคารไทยธนาคาร (BT) และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ไอเอฟซีที) ว่า ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อทำหน้าที่ในการประสานงาน และวางกรอบแผนงานในการควบรวมกิจการ โดยคณะทำงานชุดนี้ประกอบด้วยตัวแทน 4 ฝ่าย ได้แก่ ตัวแทนจากกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ธนาคารไทยธนาคาร และไอเอฟซีที คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้ก็จะได้เห็นภาพที่ชัดเจนในการควบรวมกิจการ

ล่าสุดสถาบันการเงินทั้ง 2 ได้เริ่มจ้างที่ปรึกษาในการทำการตรวจสอบคุณภาพสินทรัพย์ โดยในส่วนของธนาคารไทยธนาคารได้จ้างบริษัท ธรรมนิติ จำกัดเป็นผู้ดำเนินการ แต่ในส่วนของไอเอฟซีทียังไม่ได้แจ้งราย ชื่อมา ทั้งนี้เมื่อสถาบันการเงินทั้ง 2 ทำการสำรวจแล้ว ทางธปท.เป็นตัวกลางในการดูแลเรื่องการประเมินราคาสินทรัพย์อีกชั้นหนึ่ง

สำหรับคณะทำงานนั้น ขณะนี้ได้เริ่มหารือถึงอุปสรรคปัญหาในการควบรวมหลายประเด็น ที่ยังหาทางออกไม่ได้ เช่น ในส่วนของไอเอฟซีที่มีเงินกู้จากเจ้าหนี้หลายประเภท และที่ผ่านมากระทรวงการคลังค้ำประกันหนี้ดังกล่าว แต่หากมีการควบรวมจะกระทรวงการคลังจะยังคงค้ำประกันหนี้อยู่หรือไม่ จะมีกฎหมายใดรองรับหรือไม่

ในส่วนของธนาคารไทยธนาคาร ยังมีปัญหาเรื่องข้อตกลงการแบ่งผลประโยชน์ (yield matainance) กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งจะต้องชำระให้หมดสิ้นภายในปี 2548 แต่เมื่อจะมีการควบรวมกิจการเป็นองค์กรใหม่ก็จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.