เชลล์ยอมรับสภาพตลาดน้ำมันในไทยยังต้องเผชิญ ภาวะการแข่งขันที่ดุเดือดไปอีกอย่างน้อย
1-2 ปีนี้ซึ่งสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำตั้งแต่ปี 2540 ทำให้ภาวะความต้องการน้ำมันลดลงอย่างหนัก
แต่ค่าใช้จ่ายยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องทำให้ผลตอบแทนยังไม่ดีขึ้น เร่งปรับแผนธุรกิจสอดคล้องนโยบายบริษัทแม่
เล็งดึงเอทานอล ขายในปั๊มหากมีกำลังผลิตพอเพียง
นายธีรพจน์ วัชราภัย ประธานกรรมการบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าขณะนี้เชลล์ได้มีการปรับแผนการดำเนินงานต่างๆ
ให้สอดคล้องกับภาวะการแข่งขันใน ปัจจุบันที่ยังคงพบว่ามีการแข่งขันที่รุนแรงเช่นเดิมและคาดว่าในอนาคตจะยังคงมีอยู่อีกในระยะ
1-2 ปีนี้ ทั้งนี้เนื่องจากนับตั้งแต่วิกฤติ เศรษฐกิจความต้องการน้ำมันของคนไทยได้ลดลงไปกว่าครึ่งหนึ่งแต่
ค่าใช้จ่ายของปั๊มยังสูงต่อเนื่องทำให้ ผลตอบแทนที่ได้ต่ำลงและแม้ว่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ดีนักคงจะต้องรอภาวะเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวต่อเนื่องอีกซึ่งหากโตระดับ
8% ในปีหน้าตามที่รัฐบาลประกาศก็จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมาก
"หากความต้องการเติบโตในระดับ 6-7% คงจะใช้เวลา 3-4 ปีในการที่จะทำให้ปริมาณความต้อง
การเท่ากับการผลิตน้ำมันในไทย อย่างไรก็ตามแต่ถ้าเศรษฐกิจเติบโต ก้าวกระโดดได้ก็น่าจะช่วยให้ตลาด
น้ำมันฟื้นตัวได้เร็วเช่นกันซึ่งขณะนี้ ผลตอบแทนเรากลับมา 5% ก็ถือว่า ดีมากแล้วแต่เชลล์ทั่วโลกกำหนดที่
15%" นายธีรพจน์กล่าว
ทั้งนี้เชลล์ได้มีการปรับแผนบริหารอย่างต่อเนื่องแต่คงจะต้องลงมาดูให้มากขึ้นกับธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเพื่อมองว่าจะทำอย่างไรกับตลาดค้าปลีกดังกล่าวซึ่งแน่นอนว่า
คู่แข่งสำคัญของเชลล์คือปั๊มเจ็ท
ดังนั้น ปั๊มน้ำมันขณะนี้หากเป็นปั๊มที่ไม่สามารถอยู่ได้ทางบริษัทก็จะตัดสินใจปิดปั๊มนั้นแล้วเมื่อเปิดปั๊มน้ำมันแห่งใหม่ก็จะเข้าไปบริหารเองทั้งหมดซึ่งปัจจุบันมีปั๊มน้ำมันทั้งสิ้น
640 แห่งทั่วประเทศ และเป็นปั๊มบริหารเองแล้ว 60-70 แห่งซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา
ส่วนแนวโน้ม ปั๊มน้ำมันคาดว่าจะมุ่งไปสู่ถนนสาย หลักหรือไฮเวย์มากขึ้นเพราะมีผู้ค้ารองรับอยู่แล้วคือผู้ใช้รถยนต์
นายธีรพจน์ยังได้กล่าวถึง การส่งเสริมการใช้เอทานอลผสมกับเบนซินเพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศว่าเชลล์พร้อมที่จะนำ
เอทานอลมาจำหน่ายยังปั๊มน้ำมันเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เพราะเอทานอลจะมีราคา
ต่ำกว่าเบนซินออกเทน 95 ประมาณ 50 สตางค์ต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคงจะอยู่ที่ว่า เอทานอลจะมีการผลิตได้เมื่อใดและเพียงพอกับความต้องการหรือไม่สำหรับในเรื่องของการขายหุ้นของเชลล์ในบริษัทไทยเชลล์
ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในไทยนั้นนายธีรพจน์กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่คิดที่จะขายแต่
ก็ยอมรับว่ากำลังพิจารณาถึงความจำเป็นและความคุ้มทุนในการดำเนินการอยู่