ไอทีวีจ่อคิวลดสัมปทานอ้างช่อง7ไม่เป็นธรรม


ผู้จัดการรายวัน(10 กันยายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

เผยแนวโน้มไอทีวีขอลดค่าสัมปทานจากรัฐบาลส่อเค้าจริง อนุญาโตตุลาการจะพิจารณาให้ลดค่าสัมปทานได้ ชี้เหตุเพราะการต่อสัญญาของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 มีความไม่เป็นธรรมทำให้การแข่งขัน ไอทีวีมีปัญหา คาดเดือนตุลาคมนี้รู้ผล ขณะที่ไอทีวีปรับทัพใหม่ หลังผู้บริหารข่าว "วสันต์ ภัยหลีกลี้" โบกมือลา ไอทีวี พร้อมทีมงานดัน "อนันต์ อัศวนนท์" รักษาการกองบรรณาธิการไอทีวี

แหล่งข่าวจากปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ถึงความคืบหน้าในการพิจารณาการขอลดสัมปทานของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ซึ่งได้ทำหนังสือถึงปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีให้มีการพิจารณาเพื่อขอลดสัมปทานค่าเช่าสถานีโทรทัศน์ ไอทีวีจากสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เหตุผลที่นำมาอ้างในการขอลดสัมปทานค่าเช่าสถานี ไอทีวีเนื่องจากในสัญญาระบุว่าการแข่งขันจะต้องมีความเป็นธรรม แต่ปรากฏได้มีสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ได้มีการทำสัญญาเช่าสถานีจากกองทัพบกล่วงหน้าก่อนที่จะหมดสัญญา แถมยังได้รับค่าสัมปทานที่ถูก หากจะนำสัญญาของช่อง 7 สีมาเปรียบเทียบกับสถานีโทรทัศน์ไอทีวีแล้วจะเห็นว่าค่าเช่าสัมปทานต่างกันมาก

"การอ้างข้อสัญญาของช่อง 7 หากนำมาเปรียบเทียบกับไอทีวีก็จะเห็นว่ามีความแตกต่างกันจริง ทำให้การแข่งขันของไอทีวีไม่สามารถทำรายได้ให้มีกำไรเหมือนช่อง 7 ได้เพราะต้องจ่ายค่าสัมปทานให้กับรัฐสูงมาก เมื่อ เทียบกับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่ง ผลให้ไอทีวีมีภาระต้นทุนที่สูงกว่ารายอื่น" แหล่งข่าว คนเดียวกัน กล่าว

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีสถานีคู่แข่งขันรายใหม่ๆ เกิดขึ้นมากอีก เช่น สถานีโทรทัศน์ที่ทดลอง ออกอากาศของช่อง 11 ซึ่งมีรายการต่างๆ แถมมีการโฆษณาแฝงเข้ามาในรูปของผู้สนับสนุนรายการ นอกจากนี้ยังมีเคเบิลทีวีทางยูบีซีที่มีการแฝงโฆษณาเข้ามาในรูปแบบผู้สนับสนุนรายการ ตรงนี้ทางไอทีวียกมาเป็นข้ออ้างในการขอให้มีการพิจารณาลดค่าสัมปทานเพราะไปกระทบต่อรายได้ในการหาโฆษณาเช่นเดียวกัน

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า เหตุผลที่ไอทีวีเสนอมานั้นจะนำมาพิจารณาในคณะอนุญาโตตุลาการที่ตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาการลดสัมปทานให้กับไอทีวี ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในเดือนตุลาคมนี้

เป็นที่น่าสังเกตราคาหุ้นของสถานีโทรทัศน์ ไอทีวีมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนับ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้น มาระดับราคาหุ้นของไอทีวีอยู่ที่ราคา 8.45 บาท และปรับตัวมาอย่างต่อเนื่องขยับมาอยู่ที่ราคาเฉลี่ย 11.26 บาท ณ วันที่ 8 /9 /2526 ราคาปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2.81 บาท และ มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น และมีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเพราะมีกระแสข่าวการขอปรับลดค่าสัมปทาน

ผู้บริหารฝ่ายข่าวโบกมือลาไอทีวี

แหล่งข่าวจากสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่าขณะนี้ผู้บริหารของไอทีวีในระดับบรรณาธิการอำนวยการข่าว คือนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ได้ทำหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ จากสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ซึ่งจะมีผลให้ลาออกแล้วตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังมีทีมงานอื่นๆ อีก 2-3 คน คือ เช่น นายสำราญ รอดเพชร รองผู้อำนวยการฝ่ายข่าว และผู้ดำเนินรายการฟันธง , นายประกาศิต คำพิทักษ์ ผู้ช่วยบรรณาธิการฝ่ายข่าวได้ขอลาออกในครั้งนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ มีการคาดว่ามีความขัดแย้งในเรื่องการ นำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เช่น การทำข่าวบางชิ้นไปกระทบกับภาพพจน์รัฐบาล ในกรณีที่มีการนำเสนอเรื่องการตั้งเสาร์อากาศของเอไอเอสในพื้นที่ของ ส.ป.ก. ทำให้ผู้บริหารของสถานีไอทีวีไม่พอใจ และเกิดความขัดแย้งกัน

ทั้งนี้ เป็นที่รู้กันในวงการทำข่าวว่าผู้บริหาร ทั้ง 2 คนที่ลาออกจากสถานีโทรทัศน์ไอทีวีนั้นเป็น ผู้ที่มีประสบการณ์สูงในการทำงาน และเรียกได้ว่าเป็นมืออาชีพในการทำข่าว แต่ก็มาเกิดปัญหาการทำงานขึ้นซึ่งไปขัดแย้งกันทางการเมือง จนกระทั่งต้องลาออกจากไอทีวี

"ก่อนหน้านี้ผู้บริหารไอทีวีได้แต่งตั้งนาย อนันต์ อัศวนนท์ เป็นที่ปรึกษาฝ่ายข่าวเข้ามาบริหาร และดูแลงานข่าวแทนนายวสันต์ ซึ่งเป็นบรรณาธิการ อำนวยการข่าวแล้วมอบหมายงานให้นายวสันต์ไปดูแลงานด้านบริหารแทน ซึ่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในไอทีวีนั้นเกิดมาอย่างต่อเนื่อง" แหล่งข่าวในไอทีวี เล่าให้ฟัง

แหล่งข่าวจากผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไอทีวี กล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่ผ่านมาพบว่าสถานีโทรทัศน์ไอทีวีมีเลตติ้งผู้ชมค่อนข้างต่ำ จากผลสำรวจของ เอซีนีลเส็น ซึ่งเดิมสถานีมีความโดดเด่นกว่าหลายๆ สถานีและใช้เรื่องของสถานีข่าวเป็นจุดขายโฆษณามาโดยตลอด จึงนำเหตุผลเรื่องผลสำรวจจำนวน ผู้ชมลดน้อยลงมาเป็นข้ออ้างในการปรับเปลี่ยน ผู้บริหารฝ่ายข่าวและสร้างความอึดอัดใจให้กับ ผู้บริหารข่าวหลายคนจึงมีการตบเท้าลาออก ก่อนหน้านี้ทางผู้บริหารไอทีวีมักจะออกมาคัดค้านการสำรวจของบริษัทเอซีนีลเส็นว่ามีความไม่เที่ยงตรง ในการสำรวจ แต่ก็กลับนำเหตุผลดังกล่าวมาลดบทบาทของผู้บริหารฝ่ายข่าวในไอทีวี ซึ่งสร้างความสับสนให้กับกองบรรณาธิการของไอทีวี

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารไอทีวีกล่าวว่าการลาออกครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของฝ่ายข่าว ซึ่งสามารถหาคนมาทดแทนและดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งการปรับเป้าหมายให้ไอทีวีมีจุดเด่นในเรื่องของสถานีข่าวต่อไป และล่าสุดมีการปรับกลยุทธ์ด้วยการนำเฮลิคอปเตอร์เข้ามาใช้ในการทำข่าว และรายงานข่าวในกรณีที่มีเหตุการณ์เร่งด่วน และเริ่มนำมาใช้แล้ว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.