|
มือถือเปลี่ยนธุรกิจบันเทิง เกิดโมเดลสายพันธุ์ใหม่
ASTVผู้จัดการรายสัปดาห์(4 พฤษภาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
*มือถือทุกวันนี้ทำได้ทุกอย่าง แม้แต่ธุรกิจที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้บนโลกโมบาย
* โมเดลธุรกิจสายพันธุ์ใหม่กับการเชื่อมโลกบันเทิงกับมือถือกำลังทยอยก่อตัวขึ้น
* จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ล้างภาพอดีตอย่างชิ้นเชิง อย่างการฉายหนังครั้งแรกบนมือถือ
* และนี่คือสื่อที่ทรงพลังที่พร้อมกลายเป็นขุมทรัพย์ที่ทำให้ธุรกิจมีลูกค้านับล้านในพริบตา
'เราไม่เคยคิดว่าโทรศัพท์มือถือจะทำได้ขนาดนี้'
เป็นคำกล่าวของ จิรัฐ บวรวัฒนะ รองประธานกรรมการสายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และว่า ความบันเทิงทุกวันนี้กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จากวันที่ทุกคนดูรายการทีวีผ่านหน้าจอโทรทัศน์ การดูหนังผ่านจอโรงภาพยนตร์ การดูวิดีโอออนดีมานด์ผ่านจอคอมพิวเตอร์ วันนี้ทุกอย่างได้มาอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้คือทุกคน ทุกธุรกิจกำลังโฟกัสไปที่คนในเจเนอเรชั่นใหม่ หรือที่เรียกว่าเจเนอเรชั่นเอ็ม เพราะคนยุคนี้คุ้นเคยกับการใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นไลฟ์สไตล์แบบออนเดอะมูฟ ทำให้ปัจจุบันนี้โทรศัพท์เป็นมีเดียที่มีศักยภาพอย่างมาก
แนวทางการดำเนินธุรกิจของโรสฯ จึงต้องมองหานิวมีเดียที่จะสามารถทำให้ธุรกิจบันเทิงของบริษัทสามารถสร้างรายได้ให้ได้มากที่สุด จึงเป็นที่มาของการนำความบันเทิงที่หลากหลายไปไว้บนโทรศัพท์มือถือ
ในการนำธุรกิจบันเทิงไปไว้บนโทรศัพท์มือถือเพื่อตอบสนองกับความต้องการของกลุ่มเจเนอเรชั่นเอ็มที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลให้เกิดโมเดลธุรกิจสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตลาด โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาช่องทางในรูปแบบเดิมๆ อย่างในอดีตที่ผ่านมา
โมเดลธุรกิจสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดที่เกิดขึ้น ก็คือการฉายหนังฟอร์มยักษ์เข้าใหม่บนโทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรก และจะฉายบนมือถือเท่านั้น โดยจะไม่เข้าฉายตามโรงภาพยนตร์
ความร่วมมือในโมเดลธุรกิจใหม่ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างโรสฯ และเอไอเอส กับธุรกิจแนวใหม่ 'มูฟวี่ออนโมบาย' ที่เอ็กซ์คลูซีฟและสมบูรณ์ที่สุดด้วยการเปิดฉายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าใหม่บนมือถือของเอไอเอสเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนเกมตลาดไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นครั้งแรกของโลกที่ภาพยนตร์เรื่องใหม่จะเปิดฉายบนโทรศัพท์มือถือเป็นที่แรก (First Window) โดยไม่มีการเข้าฉายตามโรงภาพยนตร์
'นี่คือความท้าทายทางธุรกิจที่เรามองว่าน่าจะเป็นอนาคต' จิรัฐ กล่าวและว่า 'ทุกวันนี้มือถือเอไอเอสมีการใช้งานทีวีออนโมบายสูงถึง 4.5 แสนรายต่อเดือน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือเป็นตัวเลขที่มากและยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จุดนี้เองทำให้เรากล้าที่จะเปิดโมเดลธุรกิจเพื่อรองรับกับความต้องการใหม่ที่เกิดขึ้น'
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่จะฉายบนโทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรก คือ The Spirit ฮีโร่หน้ากากดำ พันธุ์มหากาฬ หนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์จากทีมผู้สร้าง 300 และ SIN CITY โดยหนังมีความยาว 99 นาที ในการฉายบนมือถือจะมีแบ่งเป็นตอนๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการชมครั้งละ 10-15 นาที
ทั้งนี้ อัตราค่าบริการอยู่ที่เรื่องละ 40 บาทต่อสัปดาห์ (ไม่รวมค่า GPRS) เมื่อสมัครแล้ว ผู้ใช้สามารถคลิกเข้าไปดูหนังเมื่อไรก็ได้ จะดูกี่รอบก็ได้ ภายใน 1 สัปดาห์ โดยจะมีหนังใหม่เข้าให้เลือกชมทุกเดือน นอกจากนี้ยังมีรายการบันเทิงประเภทอื่น ทั้งการ์ตูน ซีรีส์ และเพลงให้เลือกชมในรูปแบบของ Live และวิดีโอออนดีมานด์
'เอไอเอสพยายามสร้างตลาดดิจิตอลมีเดีย เพื่อทำให้มือถือเป็นสื่อบันเทิงส่วนตัวเคลื่อนที่พกพาติดตัวไปได้ทุกที่ ขณะที่ตลาดผู้ให้บริการคอนเทนต์เองก็ให้ความสำคัญกับมือถือ ว่าเป็นช่องทางจัดจำหน่ายคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถเจาะเข้าถึงตัวผู้บริโภคได้ ทั้งยังปลอดการละเมิดลิขสิทธิ์ 100%' ปรัธนา ลีลพนัง ผู้อำนวยการสำนักการตลาดบริการเสริม เอไอเอส กล่าวและว่า
'ความบันเทิงราคาถูกเป็นสิ่งที่ผู้คนในยุคนี้ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ต้องการอย่างมาก เพราะคอนเทนต์บันเทิงไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรทุกคนก็ต้องการความบันเทิงอยู่ดี'
จิรัฐ มองว่า จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ธุรกิจบันเทิงต่างๆ ชะลอตัว ทั้งนี้ บริษัทโรสฯ ได้รุกทำตลาดเชิงรุกทุกด้าน โดยหลังประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเปิดตัวช่องการ์ตูน Gang Cartoon Channel จนพัฒนาไปสู่โมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่พร้อมสร้างความบันเทิงบนมือถือ ที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง ภายใต้ชื่อ ROSE entertainment on MOBILE ด้วยการนำคอนเทนต์ลิขสิทธิ์ที่มีอยู่ทั้งหมดของโรส มีเดียฯ มาเปิดให้บริการ และจัดจำหน่ายบนมือถือของเอไอเอส ให้ลูกค้าเอไอเอสกว่า 27 ล้านรายทั่วประเทศ จนล่าสุดได้เปิดมูฟวี่ออนโมบายฉายหนังใหญ่ครั้งแรกบนมือถือเท่านั้น
โรส มีเดียฯ มองว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้มือถือ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสามจอที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบัน จึงเป็นโอกาสที่ทำให้โรส มีเดียฯ สามารถนำเสนอความบันเทิงในช่องทางใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค รวมทั้งมีการปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น
หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันในตลาดของโรส มีเดียฯ นั้น โรส มีเดียฯ ถือว่าได้เปรียบคู่แข่งในตลาด อาทิ ความแข็งแกร่งด้านคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร สดใหม่ และเป็นที่ต้องการของตลาด ด้วยจุดแข็งของการเป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์ในรูปแบบ All Rights ทำให้บริษัทสามารถรวบรวมลิขสิทธิ์ Mobile Rights ในการเปิดตัวเอนเตอร์เทนเมนต์ออนโมบายที่ครบครันเป็นบริษัทแรกในประเทศไทย ทั้งภาพยนตร์ การ์ตูน ซีรีส์ และเพลง
ทั้งยังมีช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์และกิจกรรมการตลาดที่เจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย มาช่วยสนับสนุนโปรโมตบริการอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งทีวีดาวเทียม รายการทีวี แมกกาซีน และ Gang Cartoon Shop รวมถึงกิจกรรมในรูปแบบอินเตอร์แอกทีฟ ด้วยระบบ SMS และ MMS
ในช่อง โรส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ออนโมบาย มีรายการบันเทิงให้เลือกทั้งแบบ 1.แบบสด (Live) เปิดให้ชมฟรี ไม่คิดค่าคอนเทนต์ คิดเฉพาะค่า GPRS ได้แก่ ช่องแก๊งการ์ตูน และเร็วๆ นี้จะเปิดให้บริการอีก 2 ช่อง ได้แก่ ช่องเฉลิมไทย เพลงเก่าอมตะ และช่องเอเชียนมูฟวี่ และ 2.แบบวิดีโอออนดีมานด์ มีให้เลือกชมทั้งภาพยนตร์เข้าใหม่ทุกเดือน การ์ตูนฮิต ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 4 เรื่อง ได้แก่ Reborn, Full Metal Alchemist, หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ และ Domo โดยคิดค่าบริการ 5 บาทต่อวัน หรือ 40 บาทต่อเดือน รวมทั้งซีรีส์เกาหลีที่จะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้
ปรัธนา กล่าวในตอนท้ายว่า ด้วยเครือข่ายของเอไอเอสบนระบบ 2.5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย ผู้ใช้มือถือมั่นใจได้ว่าสามารถรับชมทีวีบนมือถือได้ทั้งคุณภาพความคมชัดของภาพและเสียง โดยไม่จำเป็นต้องรอระบบ 3จี ซึ่งปัจจุบันเอไอเอสมียอดผู้ใช้บริการทีวีออนไลน์อยู่ที่ 400,000 กว่าราย มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ทำให้เอไอเอสมั่นใจว่าตลาดทีวีออนโมบายยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|