|
นินเทนโดเมินลดราคาสู้ เชื่อมั่นตลาดเกมเพลย์ฝ่าวิกฤติได้
ASTVผู้จัดการรายสัปดาห์(4 พฤษภาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
ขณะที่ผู้ประกอบการในหลายธุรกิจต้องพากันปรับลดราคา เพื่อกระตุ้นยอดขายในภาวะที่เศรษฐกิจย้ำแย่เกือบทุกตลาดทั่วโลก ก็เห็นจะมีผู้ประกอบการรายนินเทนโดผู้นำอันดับต้นๆ ของเครื่องเล่นเกมเพลย์ ที่กล้าออกมาประกาศยืนยันว่าไม่มีนโยบายที่จะปรับลดราคาขายสินค้าเครื่องเล่นเกมเพลย์ของตน เพราะความนิยมในสินค้าของนินเทนโดยังคงอยู่ในระดับสูง จนไม่มีความจำเป็นต้องกระตุ้นยอดขายแต่อย่างใด
ปัจจัยที่ทำให้นินเทนโดมีความเชื่อมั่นอย่างมากมายต่อผลิตภัณฑ์ของตน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นรุ่นนินเทนโดวี (Wii) หรือนิว นินเทนโด ดีเอสไอ (Nintendo DSi)
ประการแรก สินค้าที่นินเทนโดนำออกมาขายนั้น ไม่ใช่สินค้าที่เป็นของกินของใช้ประจำวันทั่วไปและไม่ใช่ของเล่นธรรมดาๆ เหมือนของเล่นอย่างอื่น หากแต่เป็นของขวัญที่เด็กๆ ทุกคนใฝ่ฝันหรือปรารถนา และกว่าจะได้มาก็ต้องอ้อนวอนขอแล้วขออีก และจะได้ก็ต่อเมื่อถึงเทศกาลพิเศษหรือวันพิเศษเท่านั้น
ประการที่สอง ตำแหน่งทางการตลาดของนินเทนโดไม่ใช่สินค้าที่จะปรับลดราคาง่ายๆ แถมการลดราคาอาจจะเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เพราะการปรับลดราคาอาจทำให้ลูกค้ามองว่าเครื่องเล่นเกมของนินเทนโด เป็นสินค้าที่มีคุณค่าต่ำลง เสียภาพลักษณ์ของสินค้าจากที่วางเป้าหมายไว้
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า นินเทนโดไม่มีทางจะปรับลดราคาสินค้าของตนเองเอาเสียเลย หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ภายใต้สถานการณ์และเงื่อนไขที่เหมาะสมในอนาคต นินเทนโดอาจพิจารณาว่าเหมาะสมที่จะปรับลดระดับราคาเครื่องเล่นเกมของตนก็ได้
ประการที่สาม แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวหรือแม้กระทั่งถดถอยในบางตลาดก็ตาม แต่จากการติดตามและประเมินผลของผู้บริหารของนินเทนโด ทำให้งานตลาดของนินเทนโดเชื่อว่า ยอดขายที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จากปีก่อนหน้า จะยังคงเป็นสภาพที่ดำเนินการต่อไปในอนาคต
ประการที่สี่ จากการโหวตของตลาดได้พบว่า เครื่องเล่นเกมของนินเทนโดได้รับคะแนนโหวตว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่เล่นง่ายหรือใช้งานง่าย และประทับใจนักเล่นเกมมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการเล่นวีดีโอเกม รวมทั้งนักเล่นเกมที่สูงอายุด้วยการออกแบบปุ่มที่ใช้กดเมื่อต้องเล่นเกมง่ายไม่ทำให้วุ่นวายยุ่งยากเหมือนเครื่องเล่นเกมอย่างอื่น
จากเหตุผลหลักๆ ที่กล่าวมาแล้ว ทำให้นินเทนโดมั่นใจว่ากลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้อยู่มีประสิทธิภาพอย่างเพียงพอที่จะทำให้เครื่องเล่นเกมของตนครองใจในฐานะของขวัญยอดปรารถนาอันดับ 1 ของโลก
ทั้งนี้ดูได้จากยอดจำหน่ายเกมโปเกมอนและซูเปอร์มาริโอผ่านเครื่องเล่นเกมไวสูงเกินกว่า 50 ล้านเครื่องทั่วโลก นับจากปลายปี 2006 และมากกว่า 10 ล้านเครื่องเล่นเกมวี สูงเกินกว่า 50 ล้านเครื่องทั่วโลก นับจากปลายปี 2006 และมากกว่า 100 ล้านสำหรับเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นนินเทนโดดีเอส
ที่ผ่านมา เครื่องเล่นเกมไวจำหน่ายในระดับราคาเครื่องละ 250 ดอลลาร์ และไม่เคยปรับลดราคามาก่อนเลย เมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าของคู่แข่งขัน อย่างเช่นเครื่องเล่นเอ็กซ์บ็อกซ์ 360 ของไมโครซอฟท์ และเครื่องเล่นเกมเพลย์สเตชั่น ที่ต้องยอมปรับลดราคาลงเพื่อดึงดูดใจลูกค้า ให้หันมาซื้อสินค้าของตน
อย่างเช่น โซนี่เพิ่งประกาศปรับลดราคาเพลย์สเตชั่น 2 จากระดับราคา 129.99 ดอลลาร์เหลือ 99.99 ดอลลาร์
ในขณะที่เครื่องเล่นเกมรุ่นดีเอสไอ ซึ่งเริ่มนำออกขายเมื่อปลายปีที่แล้วในญี่ปุ่น และเมื่อไม่นานมานี้ เครื่องเล่นเกมในสหรัฐฯ และยุโรปกลับเป็นสินค้าฮิตในตลาด อย่างในสหรัฐฯ เครื่องเล่นเกมดีเอสไอ จำนวน 300,000 เครื่อง ขายได้หมดภายในเวลาเพียง 2 วัน และอีก 300,000 เครื่องก็ใช้เวลาเพียง 2 วันในการจำหน่ายสินค้าดังกล่าวในตลาดยุโรป
สำหรับเครื่องเล่นเกมชนิดนี้ ตลาดที่มีขนาดใหญ่ 3 ตลาดก็คือ ตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกาเหนือ ในขณะที่ผู้ประกอบการในสินค้าประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นนินเทนโดหรือโซนี่ อาจจะพยายามกระจายฐานทางธุรกิจไปสู่ตลาดอื่นๆ อย่างเช่น ตลาดอินเดียด้วยการใช้เกมที่เป็นภาษาท้องถิ่น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|