ตลาดจอภาพร้อน แอลซีดียังไปได้สวย แต่คู่แข่งเร่งหาจอคุณถาพสำหรับโทรศัพท์ 3G


นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2544)



กลับสู่หน้าหลัก

โทรศัพท์ 3G จะแจ้งเกิดได้หรือไม่นั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับจอภาพ ที่ต้องใหญ่ขึ้น และดีขึ้นกว่าโทรศัพท์มือถือ ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เพราะมิฉะนั้น แล้วก็ไม่อาจรองรับวิดีโอ และภาพเคลื่อนไหว ที่จะนำเข้าไปใช้ในเทคโนโลยีนี้ ซึ่งจะ "เปลี่ยนวิธีเล่น และวิธีทำงานของเราไปจากเดิม"

ใครก็ตาม ที่พัฒนาจอภาพคุณภาพเยี่ยมได้ก่อน ก็จะครองตลาดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐได้ ดัง ที่ โทโมฮิโร มูราตะ นักวิเคราะห์แห่ง มอร์แกน สแตนลีย์ ดีน วิตเตอร์ในโตเกียวกล่าวว่า "บริษัทต่างๆ กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในด้านการพัฒนาจอภาพสำหรับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่" ญี่ปุ่นนั้น เคยเป็นผู้นำมาก่อนเมื่อครั้ง ที่นักวิจัยคิดค้นเทคโนโลยีจอภาพแอลซีดี (Iquid crystal displays) เพื่อใช้กับจอเครื่องคิดเลขในปี 1973 และแม้ว่าจะ มีการปรับปรุงคุณภาพแอลซีดีขึ้นจากเดิมไปมากแล้ว แต่ก็ยังใช้ไม่ได้กับเทคโน โลยี 3G ดังจะเห็นได้ว่าจอแอลซีดีสี ที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดก็ให้ภาพ และภาพเคลื่อนไหว ที่มืด และไม่ชัดเจน

นักวิจัยคนสำคัญรายหนึ่ง ที่กำลังมุ่งมั่นคิดค้นจอภาพสำหรับ 3G ก็คือ ชุมเปอิ ยามาซากิ ซึ่งเป็นวิศวกร ที่มีหัวคิดสร้างสรรค์ที่สุดคนหนึ่งของญี่ปุ่น ปัจจุบันยามาซากิอายุ 57 ปี เป็นกรรม การผู้จัดการใหญ่ของบริษัทวิจัย "เซมิคอนดักเตอร์ เอเนอร์จี แลบอราทอรี่" ซึ่งเป็นสถาบันวิจัย ที่ร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ทีดีเค คอร์ป รายได้ของบริษัทของยามาซากิ นั้น อยู่ ที่ราว 90 ล้านดอลลาร์ในปี 1999 โดยมาจากสิทธิบัตร 2,600 รายการ ยามาซากิเป็นนักบุกเบิกคนหนึ่งในธุรกิจ เซมิคอนดักเตอร์ เขาเริ่มคิดค้นเรื่อง แผงวงจรรวม ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยา ลัย และได้รับสิทธิบัตร 130 รายการ ใน วัยยี่สิบเศษ ปัจจุบันเขามุ่งความสนใจไป ที่จอดิสเพลย์ ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนผ่านสำคัญนับแต่มีเซมิคอนดัก เตอร์เกิดขึ้น เขายอมรับว่านี่เป็นสิ่งท้า ทายมาก "มนุษย์ได้รับข้อมูลโดยการฟัง และมอง แต่จอภาพ ที่มีขีดความสามารถ สูงจะช่วยสื่อถึงอารมณ์ความรู้สึก และปลุกจินตนาการที่คำพูดให้ไม่ได้"

ก่อนหน้านี้ ยามาซากิ และคู่แข่งเคยชิงกันสร้างเทคโนโลยี ที่เรียกว่า "organic electroluminescence" (OEL) มาก่อน เทคโนโลยีดังกล่าวให้ การเรืองแสงเมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านไปยังชั้นบางๆ ของธาตุ ที่มีคาร์บอนเป็นพื้น ฐาน และ OEL ยังใช้พลังงานน้อย และให้ภาพ ที่คมชัดกว่าแอลซีดีด้วย ผู้คิดค้น OEL ขึ้นในปี 1987 ก็คือ อีสต์แมนโกดัก แต่ทีดีเคได้เข้าซื้อเทคโนโลยีนี้ไว้ และพัฒนาต่อจนมีจอภาพ OEL ครั้งแรกในปี 1995 จุดนี้เอง ที่ทำให้ชุนจิโร ไซโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารของทีดีเคตระหนักว่า ธุรกิจ ที่เคยทำรายได้ก้อนโต ให้กับบริษัทอย่างจอภาพแบบใช้หลอดรังสีแคโทดนั้น ล้าสมัยเสียแล้ว

งานแรกของยามาซากิ ที่เข้าร่วมมือกับทีดีเคก็คือ การพัฒนาเทคโนโลยี OEL แต่ยามาซากิไม่ได้รับการยอมรับเท่า ที่ควรเขาจึงลาออกไปทำกิจการของตนเอง โดยในขั้นแรกเขาตั้งทีมร่วมกับยักษ์ใหญ่ด้านแอลซีดีอย่างชาร์ป คอร์ป พัฒนาเทคโนโลยีแอลซีดีให้ดียิ่งขึ้น จนเมื่อต้นปี 2000 นี้เองหลังจาก ที่บริษัทได้รับสิทธิบัตรพื้นฐานสำหรับเทคโน โลยีวงจร OEL ที่เรียกกันว่า "active matrix OEL" ที่จะปรับปรุงคุณภาพภาพวิดีโอให้ดียิ่งขึ้นได้ เขาจึงได้ให้ตัวอย่างบางส่วนกับคู่แข่งของทีดีเคคือ "โตโฮกุ ไพโอเนียร์" ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของผู้ผลิตเครื่องเสียงไพโอเนียร์ โตโฮกุนั้น ได้เขี่ยทีดีเคตกเวทีไปแล้วในด้านจอ OEL สำหรับวิทยุในรถยนต์เมื่อปี 1997 และก้าวขึ้นเป็นผู้นำโดยจำหน่าย OEL ให้กับโทรศัพท์ของโมโตโรล่าด้วย

บริษัทอื่น ที่เบียดตัวเข้ามาในตลาดนี้ยังมีอีกหลายแห่งอาทิ ซันโย อิเล็กทริก ที่ร่วมมือกับอีสต์แมน โกดัก พัฒนาจอภาพสีแบบบางเฉียบเป็นต้นแบบ และตั้งเป้าจำหน่ายในปี 2002 ชาร์ป ซึ่งเข็นแอลซีดีคุณภาพสูงออกมาก็คุยว่า จอภาพใช้ดูภาพเคลื่อนไหวได้ชัดเหมือนจอโทรทัศน์ โดยจะวางตลาด เพื่อใช้กับโทรศัพท์ของ "เจ-โฟน" ขณะเดียวกัน ชาร์ปก็มีแนวทางรับมือกับ OEL อย่างระมัดระวัง และชี้จุดอ่อนสำคัญของเทคโนโลยี OEL ว่าอยู่ ที่ภาพสี และความคงทนของจอภาพ ซึ่งไม่แน่นักว่าจะเหมาะกับการผลิตจำหน่ายในตลาดล่างได้

ที่ยังไม่อาจสรุปได้ในตอนนี้ก็คือ ใครจะเป็นฝ่ายชนะในการชิงส่วนแบ่งตลาด OEL อาจเป็นต่ออยู่ในการที่จะขึ้น เป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดเทคโนโลยีดิสเพลย์ เนื่องจากศักยภาพมีสูงมาก เป็นที่คาดว่าตลาด OEL จะขยายจาก 500,000 หน่วยต่อปี ในปัจจุบันไปเป็น 40 ล้าน ในปี 2005 ยามาซากิจึงรอช้าไม่ได้ เพราะเขาต้องการได้แจ็กพอตอีกครั้งในตลาดจอภาพนั่นเอง



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.