|
คนเดินห้างระวังกระเป๋าฉีก กองทัพอินสโตร์ มีเดีย ฟัดกันเดือด
ผู้จัดการรายสัปดาห์(20 เมษายน 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
* เมื่อผู้บริโภคเคลื่อนที่หาตัวจับยาก เจ้าของแบรนด์พร้อมใจดักรอที่ปลายทาง ใช้สื่อในห้างชิงเม็ดเงินจากกระเป๋า
* ค่ายอินสโตร์มีเดีย แอปโซลูท อิมแพค - อาร์เอส อินสโตร์ เดินหน้าพัฒนาสื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคสูงสุด
* เตรียมยกระดับสู่สื่ออินเตอร์แอคทีฟที่จะกระตุ้นกำลังซื้อ พร้อมวัดผลสำเร็จของสื่อให้เห็นชัดๆ
สื่ออินสโตร์ในวันนี้ไม่ใช่สื่อหน้าใหม่ของวงการสื่อสารการตลาดอีกต่อไป ในวันที่พฤติกรรมผู้บริโภคมีการแตกเป็นกลุ่มเล็ก กลุ่มน้อยตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตน เคลื่อนที่ไปมา หาสื่อใดๆ ที่จะเข้าถึงได้ยากลำบาก แต่อินสโตร์มีเดีย กลับกลายเป็นสื่อเดียวที่ผู้บริโภคเดินเข้ามาหา ทำให้เจ้าของแบรนด์คอมซูเมอร์โปรดักส์ส่วนใหญ่ เลือกที่จะหันมาให้ความสำคัญกับการสื่อสารแบรนด์ผ่านช่องทางอินสโตร์อย่างคึกคัก จึงเป็นโอกาสให้เจ้าของสื่อเดินหน้าปรับศักยภาพสื่อเพื่อสร้างโอกาสในการขายที่มีประสิทธิภาพสูงสุดไว้คอยรองรับ
สื่ออินสโตร์จากการสำรวจของนีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช ระบุว่า มีเม็ดเงินหมุนเวียนใช้สื่ออยู่ราวปีละ 500-600 ล้านบาท แต่ปริน ชนันทรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอปโซลูท อิมแพค จำกัด(มหาชน) หนึ่งในผู้ให้บริการสื่ออินสโตร์รายใหญ่ของเมืองไทย คิดคำนวณไว้ว่าตลาดน่าจะมีมูลค่าอยู่ในราว 700-800 ล้านบาท
'ผู้เล่นในตลาดอินสโตร์มีเดียรายใหญ่ มีเพียง 2-3 รายเท่านั้น ที่เหลือเป็นรายย่อยนับไม่ถ้วน ซึ่งส่วนใหญ่ให้บริการด้านงานสติกเกอร์ที่ติดตามชั้นวางสินค้า ที่มีมูลค่ามหาศาล แต่ไม่ถูกนีลเส็นฯ นับรวม นอกจากนั้นเม็ดเงินที่บริษัทซึ่งให้บริการสื่ออินสโตร์เก็บจากลูกค้าโดยปกติจะมี 2 ส่วน คือ ค่าสื่อ และค่าผลิต นีลเส็นฯ จะเก็บข้อมูลเฉพาะค่าสื่อเท่านั้น ทำให้ตัวเลขการใช้เงินในสื่ออินสโตร์แต่ละปี ไม่ตรงกับความเป็นจริงในตลาดเท่าไรนัก'
ปรินกล่าวว่า อินสโตร์มีเดียเติบโตอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2549 ในขณะที่สื่อหลักอย่าง วิทยุ และสิ่งพิมพ์เริ่มตกต่ำลง อินสโตร์มีเดียที่เคยมีเม็ดเงินอยู่ในระบบเพียง 114 ล้านบาท ในปีก่อนหน้า กลับขยายตัวขึ้นเป็น 307 ล้านบาท เติบโตสวนกระแสสื่ออื่นถึง 168% ก่อนเติบโตขึ้นเป็น 584 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อไปอีกในปีนี้ ต่างจากสื่ออื่นๆ ที่เม็ดเงินร่วงหล่นถ้วนหน้า
'เวลานี้สื่ออินสโตร์ได้รับการตอบรับจากเอเยนซีอย่างดีมาก ย้อนกลับไปในช่วงปี 2549 2550 เอเยนซีไม่เคยมีการจัดงบประมาณในการซื้อสื่อในห้างอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนใหญ่เป็นงบที่เหลือมาจากการซื้อสื่อหลัก แต่ในปีที่ผ่านมาเริ่มมีการตั้งงบให้กับสื่ออินสโตร์โดยเฉพาะ และเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ บริษัทเกิดปัญหาสภาพคล่อง แน่นอนว่างบโฆษณาต้องถูกตัดเป็นลำดับแรก แต่ก็ไม่สามารถตัดได้ทั้งหมดเพราะการตลาดก็ยังต้องเดินหน้า จึงจำเป็นต้องใช้เงินที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เม็ดเงินส่วนนี้จึงถูกนำมาลงในสื่อ ณ จุดขาย'
ด้าน วิญญลักษณ์ โสรัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย จำกัด อีก 1 ผู้ให้บริการสื่ออินสโตร์รายใหญ่ ให้ความเห็นว่า ภาพรวมของธุรกิจอินสโตร์มีเดีย ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือด แม้ว่าเจ้าของสินค้าบางบริษัทจะมีการตัดงบประมาณด้านการสื่อสารตลาดบางส่วนออกไป แต่ก็ไม่ได้กระทบกับกลุ่มอินสโตร์ มีเดีย เพราะถือเป็นจุดสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจซื้อ ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เคยซื้อสินค้าครั้งละหลายชิ้น ก็จะลดลง มีการเลือกแบรนด์ที่คุ้มค่ามากที่สุด และมีการเพิ่มความถี่ในการซื้อเพิ่มมากขึ้น ตรงจุดนี้เองทำให้สื่ออินสโตร์ มีเดีย ยังคงมีความสำคัญในปีนี้ ซึ่งในส่วนของบริษัทฯ ได้เล็งเห็นแนวโน้มของตลาดจึงมีการเตรียมแผนงานที่จะรุกในธุรกิจนี้อย่างเต็มสูบ
อาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย รุกเต็มสูบ สื่อจอแอลซีดี ดาว์นโหลด เสริมทัพวิทยุ
ปัจจุบันอาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย จำกัด ได้รับสัมปทานในการบริหารสื่อวิทยุหรือ P.O.P Radio ในโมเดิร์นเทรดแบรนด์ดัง ได้แก่ เทสโก้ โลตัส, โลตัส เอ็กซ์เพรส, บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, คาร์ฟูร์ และท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งหมดกว่า 746 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 51 จังหวัด โดยมีคนเข้ามาใช้บริการประมาณ 21 ล้านคนต่อเดือน
วิญญลักษณ์กล่าวว่า การดำเนินงานผ่านสื่อวิทยุในโมเดิร์นเทรดของอาร์เอส อินสโตร์ ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าการตอบรับจากลูกค้าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก เพราะมียอดจองซื้อสื่อตลอดทั้งปี ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าสื่อดังกล่าวใช้ได้ผลกับการสื่อสารทางการตลาดที่มีผลกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการจดจำ และเกิดการซื้อ ประกอบกับรูปแบบรายการที่มีการผสมผสานระหว่างการโฆษณาเข้ากับเสียงเพลง รวมไปถึงการนำคอนเทนต์ต่างๆ ของบริษัทแม่ อาร์เอส มาใช้ ก็ทำให้เกิดความหลากหลายมากขึ้น
'แผนการสื่อสารการตลาดในวันนี้ ลูกค้าจะไม่ใช้เพียงแค่ Traditional Media อย่างสื่อทีวี สิ่งพิมพ์ หรือวิทยุ ในการสร้างภาพลักษณ์แต่เพียงอย่างเดียว หากแต่จะมองหาสื่อที่สามารถกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าควบคู่ไปด้วย ซึ่งเราเชื่อว่าสื่ออินสโตร์ มีเดีย จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้' วิญญลักษณ์ กล่าว
แต่แม้การตอบรับจากสื่ออินสโตร์ ในรูปแบบการจัดรายการวิทยุจะได้ผลตอบรับที่ดี และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยการแข่งขันในธุรกิจอินสโตร์มีเดียที่เริ่มเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีลูกค้าให้ความสนใจเพิ่มขึ้น ในปีนี้อาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย จึงยังคงหากลยุทธ์ใหม่ๆ เข้ามานำเสนอแก่ลูกค้า ล่าสุดมีการเพิ่มบทบาทหน้าที่ของดีเจที่ประจำอยู่ตามซูเปอร์มาร์เก็ต ที่แต่เดิมจะเปิดเพลง และร่วมสร้างกิจกรรมเฉพาะในบูธ มาในปีนี้รูปแบบของดีเจจะมีมากกว่า คือสามารถเดินเข้าไปจัดกิจกรรมที่จุดขายร่วมกับพนักงานพีซีหรือพริตตี้ ถือเป็นการกระตุ้นการขาย ซึ่งรูปแบบใหมที่มีการนำเสนอนี้ลูกค้าสามารถซื้อเป็นแพคเกจในราคาพิเศษ ที่ถือว่าถูกกว่าซื้อแยกส่วน
กลยุทธ์ต่อมาที่อาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย มั่นใจว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเดิมไว้ได้คือ การรุกสื่อภาพ หรือ Dynamic Digital Signage(DDS) โดยการนำเสนอสื่อผ่านจอภาพของอาร์เอส อินสโตร์ มีเดียจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบจากสื่อภาพในซูเปอร์มาร์เก็ตแบบเดิมๆ เป็นเพียงป้ายโฆษณานิ่งๆให้มีการเคลื่อนไหว มีการใส่เนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์เข้าไป ลดต้นทุนในการผลิตสื่อให้น้อยลงแต่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และการเปลี่ยนจากการสื่อสารแบบทางเดียวให้เป็นแบบสองทาง
'ในเริ่มแรกของการติดตั้งจอ DDS เราต้องนำพาลูกค้าให้มารู้จักกับเราก่อน หลังจากนั้นค่อยดูกันต่อไปว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง และจะนำเสนอลูกเล่นในรูปแบบใด ซึ่งระหว่างนี้ก็จะมีการให้ความรู้และมีการสื่อสารออกไปอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับสื่อก่อน นอกจากนั้น เรายังมีคอนเทนต์หลากหลายรายการจากอาร์เอสที่สามารถนำมาใช้เพื่อการสนับสนุนให้สื่อมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ จะมองความต้องการของผู้บริโภคว่า มีความต้องการให้เรานำเสนอคอนเทนต์ใด ก็จะนำเสนอออกไป'
ในด้านทำเลที่ตั้งที่จะทำให้สื่อภาพ DDS เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด จากเดิมที่มีการติดตั้งบริเวณแคชเชียร์ จุดชำระเงินที่กลุ่มเป้าหมายทุกคนต้องเดินผ่าน ก็จะมีการติดตั้งเพิ่มเติมบริเวณ ตู้แช่อาหารสด และมุมสินค้าความสวยความงาม โดยเนื้อหาของคอนเทนต์ที่จะนำเสนอ มีตั้งแต่การรวบรวมเอาสูตรเด็ด เคล็บลับ หรือจะเป็นการเล่นเกมชิงของรางวัล เปิดให้ผู้บริโภคที่ต้องการร่วมสนุกเพื่อชิงรางวัล หรือต้องการข้อมูลสูตรต่างๆ สามารถส่งเอสเอ็มเอส หรือดาว์นโหลดข้อมูลตามเงื่อนไขที่แจ้งไว้ที่หน้าจอ ซึ่งกลยุทธ์ที่มีการนำเสนอผ่านสื่อภาพครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสร้างลูกเล่นใหม่ให้กับลูกค้าผู้ซื้อสื่อแล้ว ในด้านอาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย ยังสามารถนำคอนเทนต์จากอาร์เอสที่มีอยู่มากมายมาซินเนอยี ตามแผนการของอาร์เอสที่ต้องการให้ธุรกิจทั้งหมดสนับสนุนซึ่งกันและกัน
วิญญลักษณ์กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เตรียมแผนในการการสร้างความคุ้นเคยให้กับสื่อใหม่ อย่างสื่อภาพ DDS โดยจะมีการจัดให้มีกิจกรรมร่วมสนุกแจกของรางวัลทุกวัน และจะมีการมอบของรางวัลใหญ่ไตรมาสละ 1 ครั้ง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา อาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย ได้ทดลองจัดกิจกรรมและพบว่าผู้บริโภคให้ความสนใจไม่น้อย ประกอบกับการใช้สื่อวิทยุ P.O.P. Radio ทำหน้าที่คอยกระตุ้น ก็ช่วยทำให้การเข้าหาสื่อ DDS เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยกลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะให้ความสนใจกับสื่อภาพ DDS เป็นกลุ่มแม่บ้านอายุประมาณ 30-40 ปี
ปัจจุบัน สื่อภาพ DDS ได้เริ่มติดตั้งไปแล้วที่ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต 10 สาขา และกำลังจะขยายไปสู่คาร์ฟูร์ คาดว่าภายในปีนี้จะสามารถติดตั้งที่ท็อปส์และคาร์ฟูร์ได้ครบทุกสาขา อย่างไรก็ตามการขยายสาขาแต่ละแห่งนั้นต้องดูความต้องการของตลาดควบคู่ไปด้วย
วิญญลักษณ์ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า นอกเหนือจากการรุกอย่างเต็มสูบทั้งในส่วนของสื่อวิทยุ P.O.P. Radio และสื่อภาพ DDS แล้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ อาร์เอส อินสโตร์ ยังมีแผนการที่จะสรรหาลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาสู่ธุรกิจสื่ออินสโตร์ ซึ่งคาดว่าผลจากการรุกตลาดตลอดทั้งปีนี้จะทำให้รายได้ที่เคยทำได้ในปีที่แล้วจำนวน 130 ล้านบาท เพิ่มเป็น 170ล้านบาท ในปีนี้ เติบโต 30% โดยสื่อวิทยุจะยังคงเป็นสื่อหลักที่สร้างรายได้ มีสัดส่วนกว่า 65% และสื่ออื่นๆ อีก 35%
แอปโซลูทฯ ยึดสื่อในเดอะมอลล์ ชูจุดขาย Total Mall Total Media
ชื่อของแอปโซลูท อิมแพค ในวันนี้ไม่ใช่บริษัทมีเดียเล็กๆ อีกต่อไป บริษัทที่มีอายุเพียง 4 ปีเศษ ชูจุดขายยุคแรกเริ่มในการเข้าสู่ธุรกิจสื่ออินสโตร์ ด้วยการนำจอภาพ 3 มิติ เข้ามาใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นรายแรก ก่อนขยายไปสู่การใช้งานใน 2 ศูนย์การค้าหรูของกรุงเทพฯ ดิ เอ็มโพเรียม และสยามพารากอน ผ่านมาถึงวันนี้ แอปโซลูท อิมแพค กลายเป็นบริษัทสื่ออินสโตร์รายเดียวที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ซึ่งแน่นอนว่า ก้าวเดินก้าวใหญ่ของแอปโซลูท อิมแพค ต้องสะท้อนมาจากความสำเร็จในคอร์บิสสิเนสของบริษัท คือธุรกิจอินสโตร์มีเดียอย่างแน่นอน
แอปโซลูท อิมแพค เคยมีจุดขายสำคัญในการยึดทำเลการวางสื่อดิจิตอลอยู่กับกลุ่มเดอะมอลล์ เริ่มตั้งแต่ จอ 3D Digital Signage ในดิ เอ็มโพเรียม และสยามพารากอน, จอแอลซีดี บนหัวเชลฟ์ในซูเปอร์มาร์เก็ตโฮมเฟรชมาร์ท รวมไปถึงในบิ๊กซี และสื่อ Tunnel Media, Shelf Media และ Mall Wrap ในเครือเดอะมอลล์ทั้งหมด
แต่ในปีนี้แอปโซลูท อิมแพค สามารถขยายเข้าคลุมแนวรบสื่อภายในกลุ่มเดอะมอลล์ได้หมด ทั้งส่วนของสื่อดิจิตอล และนอนดิจิตอล ภายในเดอะมอลล์ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ทั้ง 9 สาขา โดย ปริน วางคอนเซปต์ในการนำเสนอว่า 'Total Mall Total Media'
'วันนี้แอปโซลูท อิมแพค มีสื่อในเดอะมอลล์ครบทุกอย่าง ในอดีตเราทำหน้าที่เพียงการส่งเซลล์ออกไปขายสื่อจอสามมิติในพารากอน เอ็มโพเรียม ทำพรีเซนเทชั่น แต่ขณะนี้ ผมสามารถวางแผนสื่อภายในเดอะ มอลล์ให้กับลูกค้าได้ครบถ้วน และได้ประสิทธิภาพสูงสุด ถ้ามีสินค้าจะลอนช์ สมมติมีงบประมาณ 2 ล้านบาท คุณใช้ซื้อสื่อทีวีได้ไม่กี่ครั้ง แต่นำมาให้เราวางแผน เริ่มตั้งแต่กลุ่มเป้าหมายขับรถเข้ามาในเดอะมอลล์ บริเวณตู้ยาม ที่จอดรถ เดินมาเจอที่ประตู เข้าไปในลิฟท์ หรือขึ้นบันไดเลื่อน เข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต เจอจอสามมิติ ที่ชั้นวางสินค้า ไปจนถึงแคชเชียร์ ทุกจุดเราสามารถวางสื่อให้ได้ทั้งหมด เมื่อพูดถึงพารากอน เอ็มโพเรียม หรือเดอะมอลล์ เราจะนึกออกทันทีว่าคนเดินคือคนกลุ่มไหน คนที่ใช้เงินในนั้นชัดเจน บีบวกขึ้นไป แม้แต่โฮม เฟรช มาร์ต หรือบิ๊กซี ที่เราได้เข้าไปบริหารทั่วประเทศ ก็มีความชัดเจนว่าคนที่เดินที่นั่นคือใคร'
ในส่วนของเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ ของสื่ออินสโตร์ จากแอปโซลูท อิมแพคในปีนี้ ปริน กล่าวว่า จะมีการยกระดับสื่ออินสโตร์ให้สามารถสื่อสารสองทาง กลายเป็นสื่ออินเตอร์แอคทีฟมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน นอกจากนั้นในส่วนของเน็ตเวิร์กของห้างที่แอปโซลูท อิมแพค ได้วางไว้ ก็จะมีการนำลูกเล่นใหม่ๆ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามานำเสนอ และจุดสำคัญที่จะมีการพัฒนาขึ้นในปีนี้ คือการวัดผลสื่ออินสโตร์จากผู้บริโภคโดยตรงว่า มีกลุ่มเป้าหมายเห็นสื่อจำนวนเท่าไร และมีการตัดสินใจซื้อเพราะได้ข้อมูลจากสื่อจำนวนเท่าไหร่ เนื่องจากวันนี้การใช้เงินของลูกค้าในการซื้อสื่อต้องคุ้มค่าที่สุด แอปโซลูท อิมแพค จึงต้องการหาคำตอบให้กับโจทย์ของลูกค้าได้ว่า ใช้เงินซื้อสื่ออินสโตร์จากแอปโซลูท อิมแพค แล้วคุ้มค่าหรือไม่ เพราะหากสื่อไม่สามารถวัดผลใดๆ ได้ ลูกค้าคงมองว่าไม่มีประโยชน์ จึงต้องมีการยกระดับสื่ออินสโตร์ให้เป็นอินเตอร์แอคทีฟเพื่อการวัดผล คาดว่าจะได้เห็นภายในปีนี้
ปรินยังกล่าวถึงการแข่งขันในธุรกิจสื่ออินสโตร์ปัจจุบันว่า เริ่มดุเดือดและมีมากจนอาจกลายเป็นมลภาวะ เนื่องจากบางห้างมีนโยบายที่จะมุ่งหารายได้จากการขายสัมปทานพื้นที่โฆษณาภายในห้างของตนอย่างเป็นกอบเป็นกำ มีการซอยพื้นที่ให้กับหลายๆ บริษัท และตั้งเป้ารายได้จากสัมปทานที่สูงสุด ทำให้ผู้รับสัมปทานก็ต้องหาโฆษณาอย่างเต็มที่ อัดแน่นกันอยู่ภายในชั้นวางสินค้าแต่ละชั้น ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเจ้าของแบรนด์ที่มาลงโฆษณา เพราะสภาพเช่นนั้นไม่สามารถสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้ แต่กลับกลายเป็นความเลอะเทอะที่ทำลายแบรนด์มากกว่า
เซ็นทรัล วางเป้าเป็น Brand Contact วางสื่อไฮเทคเจาะไลฟ์สไตล์ลูกค้า
ด้านศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ กลุ่มเซ็นทรัล ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวคิดในการสร้างจุดขายให้กับอินสโตร์ มีเดีย ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลว่า บริษัทฯ ต้องการให้สถานที่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็นพื้นที่ในการทำ Brand Contact ระหว่างเจ้าของแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้าที่มาจัดงานที่เซ็นทรัล จะไม่ใช่เพียงแค่การมาขายสินค้า แต่เราต้องทำให้ลูกค้าสามารถสร้างแบรนด์ได้ด้วย โดยจะมีการนำสื่อต่างๆ ภายในห้างมาช่วยสนับสนุน เช่น กรณีเบียร์ไฮเนเก้นจัดเทศกาลเบียร์ปาร์ค ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ทางเซ็นทรัลก็จะมีการนำมาสคอต สัญลักษณ์ของงานไปวางในจุดต่างๆ สร้างให้เป็น Overall Brand Contact เพื่อให้คนที่มาทำงานกับเราได้ประโยชน์สูงสุด
'ที่เซ็นทรัลมีแบรนด์สินค้าชื่อดังรายใหญ่ เข้ามาจัดงานอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่จัดอีเวนต์ เราจะแนะนำว่า ควรใช้สื่อในห้างเพื่อสนับสนุนเพื่อกระตุ้นการขายให้มากขึ้นควบคู่ไปด้วย เพราะในเซ็นทรัลเรามีลูกค้าระดับบีขึ้นไปเดินวันละนับล้านคน มีกำลังซื้อมูลค่ามหาศาล ซึ่งเวลานี้มีแบรนด์เข้ามาจัดอีเวนต์ในเซ็นทรัลเป็นจำนวนมาก เพราะมั่นใจว่าตรงทาร์เก็ต และสามารถวัดยอดขาย วัด Brand Experience วัด Performance ได้
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวถึงแผนการในการพัฒนาสื่ออินสโตร์ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลว่า เนื่องจากเซ็นทรัลวางตำแหน่งเป็นศูนย์การค้าที่โฟกัสไปที่ไลฟ์สไตล์ มีสินค้าไลฟ์สไตล์หลากหลาย จำเป็นที่จะต้องก้าวเดินไปตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยี คาดว่าอีกไม่นานสื่อป้ายโฆษณาเดิมๆ ภายในห้างจะหมดไป กลายเป็นสื่อเทคโนโลยี ภาพเคลื่อนไหว ดาวน์โหลดทั้งสื่อบลูทูธ ออนไลน์ อินเตอร์แอคทีฟ เพื่อเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีที่จะเข้ามา อนาคตสื่ออินสโตร์ภายในเซ็นทรัลจะถูกพัฒนาสู่ความสามารถในการส่งข้อมูลข่าวสาร หรือส่งคูปองลดราคาเข้าสู่โทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|