อัตราเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง 3 เดือน


ผู้จัดการรายสัปดาห์(20 เมษายน 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม 2552 ลดลง 0.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Year-on-Year) เท่ากับที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้คาดการณ์ไว้ โดยเป็นการติดลบติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 จากที่ลดลง 0.1% (YoY) ในเดือนกุมภาพันธ์

ในด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนนี้อยู่ที่ 1.5% (YoY) ต่ำลงจาก 1.8% ในเดือนก่อนหน้า สำหรับในช่วงไตรมาสที่ 1/2552 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.3% และ1.7% ตามลำดับ ลดลงจาก 2.2% และ 2.0% ในไตรมาสที่ 4/2551 ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2552 ไว้ที่ 0.0-0.5%

อัตราเงินเฟ้อที่ติดลบดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่สะท้อนกำลังซื้อที่อ่อนแอลง แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ติดลบนี้ ในด้านหนึ่งจะเป็นผลมาจากปัจจัยด้านอุปทานที่ได้รับอิทธิพลจากราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ แต่อีกด้านหนึ่งก็อาจสะท้อนความอ่อนแอของอุปสงค์ ที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยรวมหดตัวลง ตามภาวะการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นและรายได้ที่ลดลง

ขณะเดียวกัน ในด้านราคาสินค้านั้น ในขณะนี้ไม่ได้ปรับลดลงเมื่อเทียบเดือนต่อเดือน โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (Month-on-Month) มีทิศทางที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ตามทิศทางราคาน้ำมันและสินค้าอาหาร แต่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ติดลบอยู่ในขณะนี้เป็นการคำนวณโดยการเปรียบเทียบราคา ณ ปัจจุบัน กับราคาในช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า จึงต้องเปรียบเทียบกับฐานดัชนีราคาที่สูงอย่างมากในปีก่อน จากการที่ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งหากพิจารณาถึงภาวะเงินเฟ้อทั่วไปในกรณีหากไม่รวมผลของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาลภายใต้ 6 มาตรการ 6 เดือน พบว่าอัตราเงินเฟ้อยังเป็นตัวเลขบวก

โดยปัจจัยหนึ่งที่มีผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อติดลบในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาคือผลของ 6 มาตรการ 6 เดือน ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า น้ำประปา ค่ารถโดยสารประจำทางและรถไฟปรับลดลง ซึ่งหากขจัดผลของปัจจัยดังกล่าวนี้ออกไป พบว่า โดยแท้จริงแล้วอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังไม่ลงไปเป็นตัวเลขติดลบ

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) อาจจะยังคงมีตัวเลขติดลบที่รุนแรงขึ้นในช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เนื่องจากผลของฐานเปรียบเทียบที่สูงอย่างมากในปีก่อน สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะมีทิศทางชะลอลงต่อเนื่องในเดือนต่อๆ ไป โดยมีโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะติดลบบางเดือนในช่วงกลางปี

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจจะหดตัวลงประมาณ 1.0-1.8% และจะยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำไปจนถึงสิ้นไตรมาสที่ 3 ส่งผลให้แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อตลอดทั้งปี 2552 อาจจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ในช่วงลดลง 1.0% ถึงเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งเป็นอัตราที่ลดลงจาก 5.5% ในปี 2551 สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ค่าเฉลี่ยทั้งปีน่าจะยังคงเป็นตัวเลขบวก โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2552 จะอยู่ที่ประมาณ 0.0-1.0% ลดลงจาก 2.4% ในปี 2551

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีความเห็นว่า ในสภาวะที่เครื่องชี้เศรษฐกิจบ่งชี้การทรุดตัวลงรุนแรงมากขึ้นของการใช้จ่ายภายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุน ซึ่งเมื่อผนวกกับปัจจัยลบจากการหดตัวลงรุนแรงต่อเนื่องในภาคการส่งออกแล้ว จะยิ่งกดดันอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยให้ถดถอยลงรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรงขึ้นจะยิ่งซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจให้จมดิ่งลงลึกมากยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้น สภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องนี้ น่าจะเป็นปัจจัยที่เอื้ออำนวยให้ทางการยังสามารถใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงได้อีก เพื่อเสริมกับมาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.