มนูญ สุวรรณพลาย นับเป็นคนหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็วบนถนนธุรกิจ
ในเวลาเพียงไม่กี่ปีชื่อของเขาก็เป็นที่รู้จักกว้างขวางเสียแล้ว กล่าวโดยเฉพาะแวดวงคอมพิวเตอร์แล้วนั้นใครไม่รู้หรือไม่เคยได้ยินชื่อ
"หนุ่มสมองกล" รายนี้เห็นทีคงเชยไม่เสร็จ
กฤษณ์ อัสสกุล นายใหญ่เครือไทยสมุทรพาณิชย์ประกันภัยอาจลืมไปแล้วก็ได้ว่า
ท่ามกลางหนวดปลาหมึกที่เข้าไปเกาะเกี่ยวธุรกิจหลายหลากสาขาของเครือไทยสมุทรฯ
นั้นยังมีบริษัทคอมพ์. อีดีพี. ที่ดำเนินธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์และเครื่องมือโทรสารต่างๆ
รวมอยู่ด้วยบริษัทหนึ่ง
คนในไทยสมุทรฯ เองก็คงคิดเช่นนั้นเหมือนกัน!!
คอมพ์. อีดีพี. ถูก "แช่แข็ง" แทบตายทั้งเป็นเสียหลายปี ไม่จำเป็นจริงๆ
แล้วไม่มีใครอยากแผ้วพานผ่านเข้าไปแตะต้องกับมันมากนัก บ้างก็ว่าที่นี่เหมือนสนามทดลองที่จะเคี่ยวกรำความสามารถของคนที่จะมีสิทธิขึ้นไปใหญ่ใน
"เครือไทยสมุทรฯ" โดยแท้จริง
คอมพ์. อีดีพี. น่ากลัวน่าหวั่นหวาดปานนั้นจริงๆ หรือ ประเด็นนี้หากมองย้อนกลับไปบนเส้นทางการค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ในบ้านเราเมื่อ
7-8 ปีก่อนก็ต้องยอมรับกันว่า "ธุรกิจนี้เป็นของใหม่สดซิงๆ จริงๆ"
ด้วยค่าที่ไม่มีใครใคร่รู้จักอรรถประโยชน์ใช้สอยก็เลยมองข้ามความสำคัญกันไป
กอปรกับเส้นทางสายนี้ว่าไปแล้วมียักษ์ใหญ่อย่าง "ไอบีเอ็ม" และอีกหลายยี่ห้อยืนแยกเขี้ยวคำรามลั่นขวางหน้าอยู่ด้วยแล้วนั้น
ลำพัง คอมพ์. อีดีพี. ที่เป็นเพียงตัวแทนยี่ห้อซึ่งไม่โด่งดังมากนักอย่าง
"ฟูจิตสึ" หากสามารถผ่านด่านเหล็กเหล่านั้นไปได้สักกระผีกหนึ่งก็ต้องยกโป้งให้กันว่า
"เก่งจริงๆ"
และแน่นอนที่สุด…สำหรับคนที่กุมบังเหียนอยู่ก็ไม่เกินเลยที่จะบอกกล่าวกันว่า
"คนอย่างนั้นต้องเรียกเขาว่า ซือแป๋ ยกให้เป็นอาจารย์"…
ที่จริงลักษณะการท้าทายอย่างนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าท้าพิสูจน์อยู่ไม่น้อย
แต่ความที่มองเห็นความสำเร็จว่ามันเกิดขึ้นได้ยากเลยไม่มีใครสนใจ กระทั่งเมื่อคำสั่งย้าย
"มนูญ สุวรรณพลาย" จากบริษัทอโศกอินเตอร์ฯ ให้เข้ามารับภาระหน้าที่ในคอมพ์.
อีดีพี. ปรากฏการณ์ใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิดเช่นกัน…
"อายุผมมันไม่มากนัก ลองดูสักตั้งก็สนุกดีเหมือนกัน" มนูญเคยกล่าวสั้นๆ
กับ "ผู้จัดการ" ครั้งที่เขาเข้าไปรับตำแหน่งผู้จัดการของคอมพ์.
อีดีพี. เมื่อ 4 ปีก่อน
มันเป็นเรื่องยากยิ่งจริงๆ สำหรับการเจาะช่องว่างตลาดที่มียักษ์ใหญ่โถมทับอยู่เต็มแล้ว
แต่แล้วมนูญก็ค้นพบทางออกที่สดใสขณะที่ใครต่อใครมัวแต่แก่งแย่งแข่งขันช่วงชิงลูกค้าที่เป็นบริษัทธุรกิจกันอยู่นั้น
คอมพ์. อีดีพี. และมนูญ กลับไพล่ไปเล่นกับลูกค้าที่เป็นกลุ่มโรงเรียนระดับมัธยมต่างๆ
ทั่วประเทศ
เป็นการสุ่มเสี่ยงที่ได้ผลเกินคาดจริงๆ ในครั้งนั้น เพราะหลังจากที่คอมพ์.
อีดีพี. พยายามเข้าไปมีส่วนช่วยเหลือเพิ่มพูนความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ให้แก่โรงเรียนและนักเรียนทั่วประเทศ
เพียงไม่นานนักก็ปรากฏว่าทางกระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณางบประมาณก้อนมหึมาก้อนหนึ่ง
ให้กับโรงเรียนมัธยมทั่วประเทศนำไปจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์
สถานการณ์อย่างนั้นคนที่ตกลงไปในบ่อทองอย่างเต็มตัวจะเป็นใครไหนอื่นไปไม่ได้นอกเสียจาก
"คอมพ์. อีดีพี." และจากจุดนั้นเองที่สร้างภาพพจน์ทางการตลาดและความภักดีในตัวสินค้าให้เกิดขึ้นกับคอมพ์.
อีดีพี. เป็นอย่างมาก ประจวบกับมนูญมีโครงการเพิ่มความรู้ด้านนี้ให้กับสื่อมวลชนก็เลยยิ่งได้รับแรงสนับสนุนอย่างท่วมท้นเพิ่มขึ้นไปอีก…
อนาคตของคอมพ์. อีดีพี. กาวาวเสียยิ่งนัก!!!
แต่แล้วสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในราวกลางปี 2530
เมื่อจู่ๆ คนที่สั่งสมความสำเร็จให้กับคอมพ์. อีดีพี. อย่างมากมายเช่น "มนูญ
สุวรรณพลาย" ได้ยื่นหนังสือลาออกสร้างความงุนงงกันไปทั่ว
"ไม่มีอะไรมากผมเห็นว่าทำให้คนอื่นรวยมามากแล้ว ขอลองวัดดวงรวยด้วยตัวเองบ้าง"
มนูญให้เหตุผลสั้นๆ กับ "ผู้จัดการ" ซึ่งตื้นลึกหนาบางจะเป็นอย่างไรนั้นคงมีเฉพาะตัวเขากับผู้บริหารระดับสูงของเครือไทยสมุทรฯ
เท่านั้นที่รู้เรื่องดี แต่ที่แน่ๆ การสูญเสีย "สมองกล" รายนี้ก็ทำให้สถานการณ์ของคอมพ์.
อีดีพี. ในปีถัดมาอ่อนยวบยาบลงทันควัน ถึงกับมีเสียงเล็ดลอดให้ได้ยินกันดังๆ
ว่า "คอมพ์. อีดีพี. ในขณะนี้ทำได้ดีเพียงแค่รักษาลูกค้าเก่าไม่ให้หลุดไปก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว"
มนูญภายหลังอำลาจากเครือไทยสมุทรฯ ก็เข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทไอดีซี.
ที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านคอมพิวเตอร์ และที่นี่ทำให้มนูญได้มองเห็นการเติบโตของตลาดคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีสิทธิรั้งให้อยู่
ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องลาออกจาก ไอดีซี. กลับคืนสู่เมืองไทยเพื่อร่วมหุ้นกับลูกค้าเก่าสมัยที่ยังทำคอมพ์.
อีดีพี. ก่อตั้ง "บริษัท เอ็มเอส. สตาร์" ขึ้นมา โดยมีตัวเขาเป็นหุ้นใหญ่
รับเป็นตัวแทนให้กับคอมพิวเตอร์ยี่ห้อ "สตาร์" ซึ่งเดิมที "สตาร์"
นั้นมีคอมพ์. อีดีพี. เป็นตัวแทน
"ไม่มีอะไรโกรธเคืองกันนะ สตาร์เขาเชื่อมือผมเลยถอนยวงตามมา"
มนูญกล่าวถึงที่มาของการเป็นตัวแทน "สตาร์" นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างตลาดใหม่
"เอ็มเอส. สตาร์" เลยใช้กลยุทธ์การขายเป็นแพคเกจ ด้วยการรับเป็นตัวแทนให้กับ
โลจิคราฟ. ขายพรินเตอร์ให้กับสตาร์และจัดวางระบบเน็ทเวิร์คให้กับโนว์เวลของอเมริกา
1 ขวบปีที่กำลังจะผ่านไปของเอ็มเอส. สตาร์ มนูญบอกกับ "ผู้จัดการ"
ด้วยใบหน้าที่ยิ้มระรื่นและท่าทีที่ถ่อมตนมากขึ้นว่า ขณะนี้เขามีลูกค้าอยู่ในมือแล้ว
88 ราย และกำลังจะทำให้ได้สูงถึง 200 รายภายในสิ้นปี ซึ่งคงไม่เหลือบ่ากว่าแรง
พร้อมกันนี้ก็มีคอมพิวเตอร์อีกหลายยี่ห้อที่สนใจจะให้บริษัทเอ็มเอส. สตาร์เป็นตัวแทน
"จากสัญญาณดังกล่าวนี้เองผมจึงกล้าที่คุยว่าในปีหน้าจะต้องเป็นปีทองของเราอย่างแน่นอน
และผมก็วางแผนขยายตลาดในปีหน้าไว้แล้วว่า จะพุ่งเป้าไปสู่ส่วนภูมิภาคให้มากขึ้น
พร้อมกับการวางฐานตัวเองให้เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือประจำสำนักงาน (OFFICE
AUTOMATION) อย่างครบเครื่อง" มนูญสาธยายโครงการให้ "ผู้จัดการ"
รับรู้
ย่างก้าวต่อไปของมนูญจะเป็นเพียง "ผีพุ่งไต้" หรือ "ดาวประดับฟ้าตลอดกาล"
นั้นย่อมขึ้นอยู่กับตัวเขาเองที่จะเป็น "ผู้พิพากษา" คนสำคัญและคนอย่างเขาฝันเกินไปนักหรือที่จะหาญหักเขย่าบัลลังก์แชมป์ของ
"ไอบีเอ็ม" ให้โยกคลอน!!?