"โชติกา"วางกลยุทธ์รุก 4 ด้าน ดันAUMบลจ.ไทยพาณิชย์7.5หมื่นล.


ผู้จัดการรายสัปดาห์(6 เมษายน 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

นายหญิงคนใหม่ตั้งเป้า AUM บลจ.ไทยพานิชย์ปีนี้ โต 20% หวังได้เม็ดเงินใหม่เพิ่ม ลั่นรักษาแชมป์อันดับ 1 กองทุนรวมต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์รุก 4 ด้าน แต่เน้นโตแบบอนุรักษ์นิยม เตรียมออกกองตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลอิตาลีอีก 2 กอง มั่นใจความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากในประเทศ ขณะที่ครึ่งปีหลังเล็งออกกองอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโรงแรมและคลังสินค้า

โชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ กล่าวในวาระเข้ารับตำแหน่งใหม่ว่า ในปีนี้ตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ(Asset Under Management: AUM)เติบโตเพิ่มขึ้น 20% หรือมีเงินทุนใหม่เพิ่มขึ้นอีก 7.5 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 3.58แสนล้านบาท โดยปัจจุบันยอด AUM อยู่ที่ 3.86 แสนล้านบาท

ขณะที่แบ่งเป็นธุรกิจกองทุนรวมที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่อันดับ 1 มีขนาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.22 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่ผ่านมา จำนวน 2.38 หมื่นล้านบาท ส่วนธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีขนาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 5.98 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8 พันล้านบาท และธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 4.53 พันล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาจำนวน 1.58 พันล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานปี 2552 จะเน้นนโยบายเชิงรุก ให้ความสำคัญกับการแบ่งกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน ทั้งรายย่อย สถาบันและลูกค้าที่มีเงินลงทุนสูง โดยมีแผนงานรองรับ 4 ด้านคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าต่อเนื่อง เน้นกองทุนความเสี่ยงต่ำให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารพาณิชย์

"บลจ. ไทยพาณิชย์ยังคงเดินหน้านโยบายการเติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะการรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ของกองทุนรวมให้ได้ แต่ทั้งนี้การเป็นอันดับ 1 ต้องมองในระยะยาวเราต้องวางรากฐานที่ดี จึงจะโตอย่างยั่งยืนไม่ใช้โตอย่างอ่อนไหว ดังนั้นในช่วงแรกต้องสร้างฐานให้แกร่ง คือการพัฒนาคนในองค์กร"

ส่วนการออกกองทุนใหม่ๆ ในปีนี้ยังคงเน้นการลงทุนที่อนุรักษ์นิยม แต่ให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ต้องสูงกว่าเงินฝากในประเทศไม่ต่ำกว่า 0.5% ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ออกกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ลงทุนในพันธบัตรประเทศอิตาลี อายุ 2 ปี และคาดว่าจะออกกองทุนใหม่อีก 2 กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้อิตาลี

"มีแผนว่าจะออกอีก 2 กอง เป็นเทอมฟันด์ระยะสั้น 6 เดือน คาดผลตอบแทน 1.3-1.4% ซึ่งเหตุที่เลือกอิตาลีเพราะมั่นใจความแข็งแกร่ง ภาคสถาบันการเงินไม่มีปัญหา และเห็นว่าความเสี่ยงต่ำเมื่อสวอปค่าเงินแล้วยังมีผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ ขณะที่อีกหลายประเทศทั้งเยอรมันฝรั่งเศส สเปน เราก็ดูอยู่ แต่ก็ไม่กล้าลงเพราะสวอปแล้วผลตอบแทนที่กลับมาอยู่ในรูปค่าเงินบาทแทบไม่เหลืออะไรเลย"

นอกจากนั้นในครึ่งปีหลังยังมีแผนออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งจะมีทั้งคลังสินค้า โรงแรมระดับ 4 ดาวและออฟฟิศ โดยมีทั้งรูปแบบที่เป็นเจ้าของเองและเช่าซื้อ ขนาดกองทุนละประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.