อสังหาฯจัดทัพโรดโชว์ตปท.


ผู้จัดการรายวัน(3 เมษายน 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

สมาคมอสังหาฯไทยพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ผนึกกรมฯส่งออกโรดโชว์โครงการอสังหาฯ ดึงโบรกเกอร์ใน 4 ประเทศเป้าหมายในกลุ่มสแกนดิเนียเวีย มารับฟังข้อมูลกับผู้ประกอบการไทยแยกตามตลาดก่อนจับคู่ซื้อขาย "สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม"ระบุช่วยเพิ่มช่องทางการขายสู่ตลาดใหม่ ส่วนผู้ซื้อในต่างประเทศมั่นใจมีหน่วยงานรัฐดูแล ด้านกรมฯส่งออกชี้เป็นการดึงเงินเข้าประเทศ หนุนเศรษฐกิจรวมให้เติบโต "ซีบี ริชาร์ดฯ"เผยตลาดอสังหาฯภูเก็ตยังได้รับความนิยม แม้จำนวนบ้านพักตากอากาศใหม่ลดฮวบ เหตุปริมาณล้มเลิกโครงการสูงขึ้น

ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงปรับฐาน อันเนื่องมาจากการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก จนส่งผลกระทบต่ออัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทำให้การส่งออกของไทยลดลง และฉุดจีดีพีไทยให้ปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกมูลค่าลดลง ความมั่งคั่งของลูกค้าต่างประเทศลดลงเช่นกัน ส่งผลต่อเนื่องมาถึงตลาดรวมอสังหาฯในไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมและวิลลาในเมืองท่องเที่ยวตามชายทะเลถูกกระทบจากกำลังซื้อที่หายไป

ล่าสุด ทางสมาคมอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การนำของนายแพทย์ สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม นายกสมาคมฯ นำร่องโครงการช่วยเหลือสมาชิกและการมีส่วนร่วมในการนำเงินตราต่างประเทศเข้าไทยให้มากที่สุด

ส.อสังหาฯผนึกกรมส่งเสริมฯทำแผนโรดโชว์

นายแพทย์สมเชาว์ เปิดเผยว่า โดยที่สำนักส่งเสริมธุรกิจบริการ กรมส่งเสริมการส่งออกกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายการส่งเสริมธุรกิจอสังหาฯกับผู้บริโภค หรือผู้ลงทุน ที่เป็นชาวต่างประเทศในช่องทางตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นทางคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เล็งเห็นถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดแก่สมาชิก จึงได้ประสานกับกรมส่งเสริมการส่งออก จัดให้มีการเจรจาธุรกิจกับตัวแทนขายอสังหาฯ(โบรกเกอร์)ในต่างประเทศ ซึ่งจะมีสำนักส่งเสริมธุรกิจบริการเป็นผู้ประสานงานกับตัวแทนให้

ในเบื้องต้น จะได้มีการประสานงานไปยังตัวแทนขายใน 4 ประเทศกลุ่มเป้าหมายก่อน ได้แก่ ประเทศเดนมาร์ก ,นอร์เวย์ ,สวีเดน และฟินแลนด์ ซึ่งแนวทางการประสานงานนั้น จะแยกเป็น รวบรวมผู้ประกอบการที่มีสินค้าอยู่ในความสนใจของผู้บริโภค 4 ประเทศเป้าหมายข้างต้น โดยสมาคมฯจะนำเสนอต่อสำนักส่งเสริมธุรกิจบริการให้แก่สมาชิก ขณะที่สำนักส่งเสริมธุรกิจจะคัดเลือกผู้ประกอบการตามข้อกำหนดคุณสมบัติ

เพื่อบรรจุให้เป็นผู้ประกอบการในโครงการนี้

ขณะที่แผนงานในการเจรจาในขั้นแรกจะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ นัดหมายให้โบรกเกอร์ต่างประเทศเดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อรับฟังบรรยายสรุป หลังจากนั้นจะนำเสนอของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ โดยจัดเป็นกลุ่มสินค้าแยกตามพื้นที่ เช่น ภูเก็ต,หัวหิน ,พัทยา เป็นต้น และเมื่อได้ข้อสรุปในการเจรจาธุรกิจ ก็สามารถดำเนินการทางด้านสัญญา รูปแบบนี้คาดว่าจะดำเนินการได้ประมาณไตรมาสที่ 2-3 ของปี 52

และผู้ประกอบการไทยนำสินค้าหรือบริการไปเสนอ 4 ประเทศ ทั้งในรูปแบบการออกบูทในงาน อินเตอร์ เนชั่นแนล แฟร์ รูปแบบนี้จะดำเนินการได้ประมาณไตรมาสที่ 4 ของปี 52

" เรากำลังมุ่งให้เกิดการซื้อขายอสังหาฯ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ โดยชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศเป้าหมาย ก็คุ้นเคยและชื่นชอบประเทศไทย มีการเดินทางมาพักผ่อนหลายครั้ง ขณะเดียวกัน การมีหน่วยงานภาครัฐอย่างกรมส่งเสริมการส่งออกมาเป็นประสานงาน และมีทูตพาณิชย์ของกระทรวงช่วยดูแล ทำให้คนที่จะไปขายสินค้าน่าจะได้รับเชื่อถือได้ มีผลงาน มีประวัติที่ดี เนื่องจากอสังหาฯมีความแตกต่าง เป็นสินค้าเฉพาะ ซึ่งผู้จะซื้อก็อยากเห็นของจริง ไม่ใช่ขายโครงการกระดาษให้ลูกค้า " นายกสมาคมฯกล่าวและว่า

ถึงแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกและลูกค้าต่างประเทศจะซบเซา การที่สมาคมฯร่วมมือกับกรมส่งเสริมการส่งออก จะยิ่งช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆ ทำให้อสังหาฯไทยดีขึ้น เกิดการหมุนเวียนของเงินทุนในประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ใช่ว่าจะเป็นต่างชาติ แต่ยังอาจจะรวมถึงคนไทยที่อยู่ยังต่างประเทศ กลุ่มนี้มีความต้องการที่อยู่อาศัยในไทยไว้สำหรับพักผ่อนในช่วงที่เดินทางเข้ามาในไทย

กรมฯส่งออกหนุนดึงเงินเข้าไทยฟื้นศก.

แหล่งข่าวจากกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า แนวทางดังกล่าวอยู่ในขั้นการเตรียมและวางแผน ซึ่งโดยรวมแล้วจะเป็นดีต่อประเทศไทย เพราะจะเป็นการดึงเงินตราต่างประเทศเข้าไทย เป็นการขายสินทรัพย์และร่วมลงทุนตามเกณฑ์ของกฎหมาย เช่น ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ซื้อห้องชุดรวมไม่เกิน 49% ของพื้นที่ขายทั้งหมดในโครงการ และวิลลาหรือบ้านราคาแพง สามารถถือกรรมสิทธิ์ในรูปแบบสิทธิการเช่าระยะยาว(Leasehold) ระยะเวลา 30 ปี

สำหรับคุณสมบัติในเบื้องต้นของผู้ประกอบการที่จะเข้าโครงการ ได้แก่1. เป็นสมาชิกสมาคมฯ 2.ต้องไม่เคยเบี้ยภาษี 3.มีประสบการณ์ที่ดี และ 4. จดทะเบียนนิติบุคคลขึ้น เป็นต้น

ซีบีฯชี้อสังหาฯภูเก็ตความนิยมไม่ตก

ฝ่ายวิจัยซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย ได้รายงานผลการสำรวจตลาดอสังหาฯในภูเก็ต ฉบับล่าสุด โดยพบว่า ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2551 เป็นจุดพลิกผันของตลาดอสังหาฯในภูเก็ตในด้านการปรับตัวของราคาและปริมาณการซื้อขาย เนื่องจากภาวะขาขึ้นที่มีมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมาได้หยุดชะงัก อันเป็นผลมาจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายอสังหาฯและการเปิดโครงการใหม่ลดลงเป็นอย่างมาก ในขณะที่การล้มเลิกโครงการก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นายเดวิด ซีมิสเตอร์ ประธานบริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย กล่าวว่า โดยปกติ ตลาดอสังหาฯของภูเก็ตเป็นตลาดที่ขับเคลื่อนโดยชาวต่างชาติ ทั้งนักท่องเที่ยว แขกที่เข้าพักในโรงแรม และผู้ซื้ออสังหาฯล้วนเป็นชาวต่างชาติทั้งสิ้น และแม้ตลาดอสังหาฯในภูเก็ตจะทรุดหนัก แต่เราก็ไม่ได้คาดการณ์ว่าตลาดภูเก็ตจะพังลงอย่างรวดเร็วเหมือนในประเทศสเปนหรือฟลอริดา

โดยจากรายงาน “ภูเก็ต พร็อพเพอร์ตี้ รีพอร์ต” ที่วิเคราะห์ตลาดอสังหาฯเชิงลึกรายไตรมาส ได้แสดงให้เห็นว่า วิลลาเกือบ 3,000 หลังที่การก่อสร้างแล้วเสร็จมียอดขายแล้ว 89% ตลาดคอนโดฯก็มีลักษณะใกล้เคียงกัน โดยคอนโดฯราว 2,000 ยูนิตในโครงการที่แล้วเสร็จ สามารถปิดการขายได้แล้วถึง 92% ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยของอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนบ้านพักตากอากาศใหม่ที่ลดลง เพราะความล่าช้าและการล้มเลิกโครงการ น่าจะเป็นผลบวกต่อภูเก็ตในระยะยาว

“ก่อนหน้านี้ เราได้ประเมินไว้ว่าจะมีคอนโดฯมากถึง 1,700 ยูนิตที่จะแล้วเสร็จในปี 2552 นี้ แต่เราเชื่อว่าจะมีบางโครงการที่ล่าช้าออกไป เนื่องจากมีอัตราการซื้อขายลดลง เช่นเดียวกันกับตลาดวิลลา เราพบว่า เพียงแค่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2551 มีโครงการวิลลามากกว่า 10 โครงการ ซึ่งมีวิลลารวมกันมากกว่า 450 หลังต้องหยุดชะงักหรือล่าช้าออกไป ในขณะที่ห้องพักในโรงแรมหรูราว 1 ใน 4 ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนั้นต้องหยุดชะงักเช่นเดียวกัน” นายนาบีล ฮัสเซน ผู้จัดการฝ่ายวิจัย ซีบี ริชาร์ดฯกล่าว

ศูนย์ข้อมูลฯชี้ลูกค้าต่างชาติน้อยลง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า ระบุว่า ภาพอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ จะมีอัตราการเติบโตลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการซื้ออสังหาฯของต่างชาติเริ่มชะลอ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะการซื้อคอนโดฯหรูริมทะเล อาทิเช่นภูเก็ต พัทยา หัวหินและสมุย เฉลี่ยลดลง 20-30% เพราะเป็นการซื้อเก็งกำไร จึงทำให้มีการตัดราคาขายเกิดขึ้น จากสถานการณ์ขณะนี้ คาดว่าคอนโดฯที่พัทยาจะมีการระงับโครงการที่ยังไม่ก่อสร้าง หรืออยู่ระหว่างก่อสร้างเกิดขึ้น นอกจากนี้ เริ่มมีสัญญาณที่น่าห่วงตรงที่ลูกค้าต่างชาติเริ่มทิ้งเงินดาวน์

"ชีวาทัย"เผยโรดโชว์สิงคโปร์ฟัน70ล้าน

บริษัท ชีวาทัย จำกัด โดย นายชาติชาย พานิชชีวะ ประธานกรรมการบริหาร เผยยอดขาย ณ ประเทศสิงคโปร์ 3 วัน มูลค่ารวมกว่า 70 ล้านบาท หรือ 19 ยูนิต จาก 26 ยูนิต พร้อมเปิดเผย ว่าเหตุผลในการตัดสินใจซื้อของชาวสิงคโปร์ เพราะทำเลที่ตั้งเป็นที่รู้จัก ประกอบกับราคาถูกเมื่อเทียบกับอสังหาฯภายในประเทศสิงคโปร์ และยังมั่นใจกับตลาดอสังหาฯในประเทศไทยว่า ยังคงมีเสถียรภาพสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โดยกลุ่มลูกค้าที่ซื้อในการเปิดตัว ณ ประเทศสิงคโปร์ มีสัดส่วน 50/50 ที่ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวและเพื่ออยู่อาศัยในช่วงวันหยุดยาว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.