ไทยธนาคาร ปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่ ตั้งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ฝ่ายค้าผลิต
ภัณฑ์การเงินเพิ่ม ด้านผู้บริหารหวังช่วย เสริมการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่าง ใกล้ชิด
รวมถึงขยายฐานธุรกิจและสร้างรายได้เพิ่ม
นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร หรือ BT กล่าวว่า
ธนาคารได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่ โดยแต่งตั้งนายปัญญา จรรยารุ่งโรจน์
เข้าดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อดูแลงานด้านบริหารเงินและค้าผลิตภัณฑ์การเงิน
(Treasury and Sales & Trading Division)
สำหรับนายปัญญา ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่นี้ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในงานด้านค้าผลิต
ภัณฑ์การเงินและบริหารเงิน จึงถือได้ว่าไทยธนาคารได้ผู้บริหารมืออาชีพอีกคนหนึ่งเข้ามาเสริมทีมให้แข็งแกร่งมากขึ้นอีก
จากในปัจจุบัน ที่ธนาคารได้รับการยอมรับจากลูกค้า เป็นอย่างดี โดยเฉพาะด้านค้าผลิต
ภัณฑ์การเงินที่สามารถขยายธุรกิจ และสร้างกำไรให้ธนาคารอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายปัญญา ปัจจุบันอายุ 46 ปี สำเร็จการศึกษาวิศวกรรม ศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยม)
จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทด้าน MBA จาก University of Virginia สหรัฐอเมริกา
มีประสบการณ์การทำงานในแวดวง ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศมาเป็นเวลากว่า
19 ปี ทั้งธนาคารซิตี้แบงก์ สาขากรุงเทพ ธนาคารซิตี้แบงก์ สาขาสิงคโปร์
พร้อมกันนี้ ไทยธนาคารยังได้แต่งตั้งนางพร้อมพร อังสุพันธุ์ เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ
ฝ่ายค้าผลิตภัณฑ์การเงิน ขณะที่ฝ่ายบริหารเงินนั้น ยังคงมีนายสุธีร์ โล้วโสภณกุล
เป็นผู้อำนวยการฝ่าย ดูแลงานดังกล่าว
สำหรับนางพร้อมพรนั้นจบการ ศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณะบริหารธุรกิจ
และปริญญาโทด้านการจัดการ จาก NORTH WESTERN UNIVERSITY สหรัฐอเมริกา ได้ทำงานในแวดวงธุรกิจและธนาคารพาณิชย์มากว่า
15 ปี อาทิ ธนาคารซิตี้แบงก์ สาขากรุงเทพ ล่าสุดดำรงตำแหน่ง Executive Director
บริษัท TURNAROUND โดยเป็นหัวหน้าทีมที่ปรึกษาทางการเงินให้กับกฟผ. (EGAT) ก่อนที่จะเข้าร่วมงานกับไทยธนาคารในปัจจุบัน
นายพีรศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและบริหารความมั่งคั่ง
ซึ่งถือเป็นธุรกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับธนาคารนั้น ไทยธนาคารได้แต่ง ตั้งให้นายพิศิษฐ์
เสรีวิวัฒนา ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทำหน้าที่บริหารงาน เนื่องจาก
นายพิศิษฐ์มีประสบการณ์และความรอบรู้ทั้งในด้านตลาดทุน ตลาดเงิน รวมถึงธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
และ Wealth Management เป็นอย่างดี
"การที่ธนาคารได้ผู้บริหารใหม่ทั้ง 2 คน มาร่วมในทีมงานด้าน บริหารเงิน
ตลอดจนการแต่งตั้งให้ นายพิศิษฐ์ เข้าดูแลงานด้านกองทุน สำรองเลี้ยงชีพและบริหารความมั่งคั่งในครั้งนี้
จะช่วยเสริมให้ธนาคารสามารถให้บริการแก่ลูกค้า แต่ละกลุ่มได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น
รวมถึงสามารถขยายฐานธุรกิจและสร้างรายได้ให้แก่ธนาคารมากขึ้นด้วย" นายพีรศิลป์
กล่าว