เซ็นทรัลไม่แข่งพารากอนชูทาวเวอร์ชมวิวกลางกรุง


ผู้จัดการรายวัน(5 กันยายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

พื้นที่ค้าปลีกสยาม-ราชประสงค์คึกคัก 2 ยักษ์ใหญ่สยามพารากอน-เซ็นทรัล เดินหน้าก่อสร้างเต็มสูบ "เซ็นทรัล" ชี้หลัง 2 ศูนย์ยักษ์เปิดตัวด้วยแม่เหล็กครบมือ ศูนย์เล็กในพื้นที่เดี้ยง ระบุเซ็นทรัลจับลูกค้าทุกกลุ่มต่างจากพารากอนเน้นคนมีตังค์ ดึงภัตตาคารหรูต่างประเทศเปิดบริการบน อาคารสำนักงานชั้น 50-51 หวังขายวิวใจกลางเมือง เล็งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ส่วน"อัมรินทร์ พลาซ่า" ดิ้นปรับตัวส่ง "เอราวัณ แบงค็อก"ร้านค้า หรูจับไฮเอนด์

หลังจากรัฐบาลประกาศนโยบายผลักดันกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์การท่องเที่ยวและชอปปิ้งเอเชีย หรือชอปปิ้ง สตรีท ทำให้ภาพ การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกตั้งแต่ย่านสยามสแควร์ถึงสี่แยกราชประสงค์คึกคักอย่างเห็น ได้ชัด โดยปลายปี 2548 จะมีศูนย์การค้าระดับหรูอย่างสยามพารากอนที่ใช้งบลงทุน 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนของค่าย ผู้นำค้าปลีกในประเทศไทยอย่างสยามเซ็นเตอร์และเดอะมอลล์จะเปิดบริการเพิ่มอีกแห่ง

ส่วนโครงการเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า พื้นที่เดิม ของศูนย์การค้าเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ที่ได้มืออาชีพอย่างเซ็นทรัลพัฒนาเข้าไปบริหารและเป็นเจ้าของใหม่ ได้เดินหน้าปรับปรุงพื้นที่ในอาคารมาได้ระยะหนึ่งแล้ว คาดว่าการปรับปรุงทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2548 ด้วยงบประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท เช่นกัน

ความเคลื่อนไหวของยักษ์ใหญ่ในวงการค้าปลีกไทย ทำให้ผู้ประกอบการรายเดิมในพื้นที่ราชประสงค์ต้องเร่งปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันในอนาคตเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มอัมรินทร์ที่บริหารพื้นที่อัมรินทร์พลาซ่า ได้เตรียมเปิดตัวโครงการศูนย์การ ค้าไฮเอนด์ในชื่อเอราวัณ แบงค็อก ในปลายปี 2547

เซ็นทรัลชี้ศูนย์ฯเล็กถูกบีบ

นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เข้าไปพัฒนาโครงการเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ในพื้นที่ศูนย์การค้าเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์เดิม ตัวโครงการแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และโรงแรม โดยมีพื้นที่ในโครงการทั้งหมด 7-8 แสนตารางเมตร ถือว่าใหญ่ที่สุดในย่านใจกลางเมืองขณะนี้

ปัจจุบันเซ็นทรัลพัฒนาได้เข้าไปปรับปรุงพื้นที่แล้วทั้งศูนย์การค้าและอาคารสำนักงาน ที่มีโครงสร้างอาคารเก่าอยู่แล้ว โดยพื้นที่ศูนย์การค้าหลักๆ ที่จะปรับปรุงคือ เพิ่มพื้นที่ห้างสรรพสินค้าเซน จาก 18,000 ตารางเมตร เป็น 36,000-40,000 ตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยขยายพื้นที่เข้าในส่วนพลาซ่า

ปรับปรุงพื้นที่พลาซ่าบริเวณส่วนกลางอาคาร ด้วยการจัดโซนร้านค้าใหม่ นอกจากนี้ในพื้นที่เอนเตอร์เทนเมนต์ ชั้น 7-8 จะเพิ่มแม่เหล็กประเภทบันเทิงใหม่ๆเข้ามาอีก โดยพื้นที่ศูนย์การค้าส่วนแรก จะเสร็จปลายปี 2547 และเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการปลายปี 2548

ส่วนอาคารสำนักงานเซ็นทรัล เวิลด์ ทาวเวอร์ สูง 51 ชั้น พื้นที่ขายรวม 1 แสนตารางเมตร ได้เริ่มเข้าไปก่อสร้างแล้วด้วยงบประมาณ 4,200 ล้านบาท และจะเปิดให้บริการในเดือน ส.ค.2547

ในปี 2548 ที่ 2 ศูนย์การค้าใหญ่ทั้งสยามพารากอน และเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า เปิดดำเนินการอย่างสมบูรณ์แบบ คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากกับศูนย์การค้าพื้นที่ที่มีขนาดเล็ก มีสินค้าและบริการเฉพาะอย่างเท่านั้น ซึ่งศูนย์การค้าเหล่านี้จะต้องวางตัวให้ชัดเจนว่าจะจับลูกค้ากลุ่มใด เพื่อให้อยู่รอด ท่ามกลางการแข่งขันสูง จาก 2 ศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ที่ตั้งเป้าโกยลูกค้าทุกระดับชั้น

พารากอนจับไฮเอนด์ไม่ใช่คู่แข่ง

นายกอบชัย กล่าวต่อว่า แม้ว่าสยามพารากอน และเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่าจะเป็นศูนย์การค้าที่มีพื้น ที่ขนาดใหญ่ และมีบริการที่หลากหลาย แต่บริษัทมองว่าเซ็นทรัลยังแตกต่างตรงที่สยามพารากอนมุ่งจับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ชาวต่างชาติ จากการมีร้านเพชรพลอยในศูนย์ฯจำนวนมาก ขณะที่เซ็นทรัลมีร้านค้าและบริการหลากหลายจับกลุ่มลูกค้าได้ทุกระดับชั้น

"เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่าจะจับกลุ่มลูกค้าทุกระดับชั้นที่มีวิถีชีวิตทันสมัย ตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา วัยเริ่มต้นทำงาน ไปยังวัยชราที่ยังรักการใช้ชีวิตเพื่อหาความสุขในศูนย์การค้า จากบริการและสินค้าหลากหลาย ที่ทุกกลุ่มลูกค้าจับจ่ายใช้สอยได้" นายกอบชัย กล่าว

ขายจุดเด่นทาวเวอร์ชมวิวกลางเมือง

สำหรับอาคารสำนักงานเซ็นทรัล เวิลด์ ทาวเวอร์ สูง 51 ชั้น บริษัทจะพัฒนาชั้น 50 และ 51 ให้เป็นร้านอาหารหลากหลายสไตล์จากหลายสัญชาติ ซึ่งนำ รูปแบบมาจากภัตตาคารบนอาคารสูงในต่างประเทศ เช่น อาคารจอห์น แฮนด์ค็อก ที่ชิคาโก สหรัฐฯ อาคารราฟเฟิล ซิตี้ ที่สิงคโปร์ โดยต้องการพัฒนาเป็นจุดชมวิวใจกลางเมืองที่สวยที่สุดและสูงที่สุด เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวได้ซื้อโอกาสขึ้นมาชมวิว และรับประทานอาหารกลางเมือง และในอนาคตจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของกรุงเทพฯ

จากนโยบายของภาครัฐที่จะผลักดันให้เกิดชอปปิ้ง สตรีท บนถนนสุขุมวิท สำหรับนักท่องเที่ยว ต่างชาติ จึงได้เตรียมสร้างสะพานลอยใต้รางรถไฟฟ้า บีทีเอส ระหว่างสถานีสยามเซ็นเตอร์ถึงชิดลม เพื่อให้ นักท่องเที่ยวเดินชอปปิ้งระหว่างสยามสแควร์ ราชประสงค์ โดยเซ็นทรัลได้เตรียมงบ 160 ล้านบาท ทำ ทางเชื่อมบริเวณสะพานลอยใต้รางรถไฟฟ้าเข้าสู่ โครงการเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ทั้งจากสถานีสยามฯ และชิดลม

ส่วนการขายพื้นที่อาคารสำนักงานขณะนี้มีผู้แจ้งความจำนงเข้ามาแล้ว 60,000 ตารางเมตร ส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติ แต่คาดว่าจะมีผู้เช่าจริง 50% เท่านั้น โดยตั้งเป้าปิดการขายพื้นที่ทั้งอาคารภายใน 1 ปี หลังจากเปิดบริการในเดือน ส.ค.2547

อาคารเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ถือเป็นอาคารสำนักงานย่านศูนย์กลางธุรกิจ(CBD) แห่งสุดท้าย ที่ยังมีพื้นที่ว่างเหลืออยู่ เพราะอาคารสำนักงานในย่าน นี้ที่เป็นอาคารสร้างใหม่ คือ ออลซีซั่น เพลส ขายพื้นที่ เต็มหมดแล้วในปีนี้ สำหรับราคาค่าเช่าต่อตารางเมตร ต่อเดือน ในย่านซีบีดีประมาณ 500 บาท ซึ่งเซ็นทรัล เวิลด์ ทาวเวอร์ จะให้เช่าในอัตราดังกล่าวเช่นกัน อย่าง ไรก็ตามคาดว่าการลงทุนทั้งศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานจะคุ้มทุนได้ใน 8-9 ปี

ผุดโรงแรม 4 ดาว 2 พันล้านบาท

ส่วนโรงแรมในโครงการจะอยู่ด้านหลังศูนย์การค้าอิเซตัน ซึ่งบริษัทจะปล่อยเช่าพื้นที่ระยะยาว 30 ปี ให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาลงทุน ขณะนี้มีผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศติดต่อเข้ามาแล้วหลายราย โดยจะเปิดกว้างให้ผู้ลงทุนที่อยู่นอกเครือเซ็นทรัลเสนอโครงการเข้ามาด้วย และเลือกผู้ที่ให้ผลประโยชน์สูงสุด

ในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นโรงแรมระดับ 4-4 ดาวครึ่ง จำนวน 400 ห้อง ใช้งบลงทุน 2,000 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวผู้ลงทุนในเดือน ต.ค. นี้ ส่วนการก่อสร้างจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี

"เอราวัณ แบงค็อก" เล็งจับไฮเอนด์

นายวิวัฒน์ เจริญสวัสดิพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท อัมรินทร์ พลาซ่า จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่าง ปรับปรุงอาคารห้างสรรพสินค้าโซโก้เก่า ส่วนที่อยู่ด้าน หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ โดยจะปรับเป็นศูนย์การค้าระดับไฮเอนด์ภายใต้ชื่อ "เอราวัณ แบงค็อก" (Erawan Bangkok)

คอนเซ็ปต์ของศูนย์ฯจะประกอบด้วยร้านค้าอินเตอร์แบรนด์จากต่างประเทศ แต่จะเป็นรูปแบบร้านค้าที่แตกต่างจากเกษร ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยจะหาร้านค้าแบรนด์เนมระดับหรูที่ยังไม่เปิดบริการในประเทศไทย หรือร้านที่ยังไม่มีสาขาอยู่ในพื้นที่ย่านราชประสงค์มาเปิดบริการ 60-100 ร้านค้า รวมร้านค้าในประเทศด้วย

ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้เช่าไปตกแต่งภายในเดือนเม.ย.2547 คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในเดือน ต.ค. 2547 โครงการดังกล่าวลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท มีพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.