|
น้ำสิงห์รุกช่องทางโฮรีก้าตอดแชร์“คริสตัล-น้ำทิพย์”
ผู้จัดการรายวัน(24 มีนาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
สิงห์ฯ ผุดโรงงานบางเลน –เพิ่มไลน์ผลิต รองรับกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ – เบียร์ โต อัดฉีดงบ 400 ล้านบาท ปั๊มยอดขายกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ ลุยน้ำดื่มขยายช่องทางโฮรีก้า เพิ่มหน่วยรถกระจายสินค้าทั่วประเทศกลางปีหน้า หวังชิงชิ้นเค้กช่องทางโฮรีก้า “คริสตัล-น้ำทิพย์” ตอกย้ำผู้นำทุกช่องทาง สิ้นปีโต 20% กวาด 7,200 ล้านบาท โกยแชร์ 35%
นายสันต์ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการกลุ่มการตลาดเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่ม-โซดาตราสิงห์ เปิดเผยว่า บริษัทได้สร้างโรงงานแห่งใหม่ ที่บางเลน จากปัจจุบันมี 7 โรงงาน เพื่อขยายกำลังผลิตเบียร์และนอนแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งเพิ่มไลน์การผลิตน้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร 6 ลิตร และ 15 ลิตร ที่โรงงานสามเสน เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ
ส่วนงบการตลาดกลุ่มเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์ปีนี้บริษัททุ่มงบ 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10% โดยกลุ่มน้ำดื่มและโซดาสิงห์ มุ่งเน้นการทำตลาดเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาด ส่วนฟังก์ชันนัลดริงก์บีอิ้ง เน้นสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายในเชิงรุก
สำหรับแผนการตลาดน้ำดื่มสิงห์ เน้นการขยายช่องทางโฮรีก้าหรือผ่านทางร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม เพราะเป็นช่องทางใหญ่มีสัดส่วนกว่า 50% จากปัจจุบันน้ำดื่มสิงห์ขวดเพ็ทเป็นผู้นำตลาดในช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อครองส่วนแบ่ง 36% และซูเปอร์มาร์เก็ต-ไฮเปอร์มาร์เก็ต 26% ขณะที่ช่องทางโฮรีก้าสินค้าคู่แข่งคริสตัลและน้ำทิพย์เป็นผู้นำตลาด จากการมีเครื่องดื่มน้ำอัดลมและการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง
โดยบริษัทเตรียมเพิ่มรถหน่วยกระจายสินค้าจาก 60 คัน เป็น 150 คัน และกลางปีหน้าพร้อมกระจายสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อขยายช่องทางโฮรีก้า เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งจากช่องทางดังกล่าว 2-3%
พร้อมกันนี้ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ใช้งบมากกว่าปีที่ผ่านมากว่า 10 ล้านบาท เพื่อรองรับกับตลาดที่แข่งขันโปรโมชันอย่างรุนแรง ล่าสุดเปิดตัวหนังสือ “รู้ 100 TRICKS ชีวิตปลอดภัย” รวบรวมเรื่องภัยต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้รอบตัวเรา เทคนิคเอาตัวรอด 100 ทริค เพื่อเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุกคาดว่าผลักดันส่วนแบ่งน้ำดื่มสิงห์ทั้งขวดเพ็ทและขวดแก้วเพิ่มจาก 32% เป็น 35%
แนวโน้มตลาดน้ำดื่มมูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท ปีนี้เติบโต 14% จากปีที่ผ่านมาเติบโต 6% เนื่องจากกระแสสุขภาพที่มาแรง ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อย่างไรก็ตามผลพวงภาวะเศรษฐกิจถดถอยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ภาวะตลาดเครื่องดื่มซบเซา ซึ่งบริษัทคงต้องรอดูสภาพตลาดอีกครั้งในช่วงกลางปีว่าต้องมีการปรับเป้าหมายหรือไม่
จากสิ้นปีนี้กลุ่มน้ำดื่มบริษัทตั้งเป้าโต 20% หรือราว 7,200 ล้านบาท จากรายได้ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ขวดเพ็ท 4,000 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่ง 25% และขวดแก้ว 2,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่ง 55% ขณะที่โซดารายได้ปีนี้ เติบโต 5% หรือ 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนกรณีที่ภาครัฐห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายโซดา เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคซื้อสินค้ากักตุนไว้ก่อน ส่วนบีอิ้งยอดขายปีนี้เพิ่มจาก 300 ล้านลิตร เป็น 400 ล้านลิตร
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|