|
เตรียมงัดแผนเพิ่มวอลุ่มตลาดเว้นภาษี บจ.กำไรหุ้น-ใช้มาร์เกตเมกเกอร์
ผู้จัดการรายสัปดาห์(23 มีนาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
เตรียมปัดฝุ่นดึงมาตรการเก่าเสริมสภาพคล่องตลาดฯ หลังมูลค่าการซื้อขายหาย 50% เสนอยกเว้น ภาษีที่เป็นกำไรจากการลงทุนของนิติบุคคล เตรียมนำมาร์เก็ตเมคเกอร์ กลับมาใช้แก้ปัญหาสภาพคล่อง เริ่มนำมาใช้กับหุ้นไอพีโอก่อน ยื่นเรื่องให้เตรียมยื่น ครม.พิจารณาเปิดทาง บจ.เพิ่มทุนได้ ระหว่างอยู่ในโครงการซื้อหุ้นคืน
กัมปนาท โลหเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ผลจากการประชุมระหว่างสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ในเรื่องมาตรการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดทุนนั้น ในที่ประชุมได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องการซื้อขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสนใจในเรื่องของดีมานด์ โดยเสนอให้บริษัทจดทะเบียนสามารถลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนอื่นได้ โดยจะเสนอให้ยกเว้นการเก็บภาษีที่เป็นกำไรจากการลงทุน หรือเก็บในอัตราที่ต่ำ
"การยกเว้นภาษีจากกำไรให้กับนิติบุคคล ที่ได้กำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้น โดยปกติการลงทุนบริษัทจะต้องเสียภาษีรายได้นิติบุคคล 30% นั้น เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสร้างดีมานด์ ในตลาดระยะยาวได้ และคาดว่าจะไม่ผลกระทบต่อรายได้การเก็บภาษีของภาครัฐ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนไม่ได้มีการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนอื่น"
นอกจากการซื้อหุ้นคืน Treasury Stock ซึ่งก็ไม่เสียภาษีอยู่แล้ว โดยคาดว่าจะเสนอแนวคิดดังกล่าวผ่าน กรณ์ จาติกวณิช รวม.คลัง เพื่อพิจารณา ทั้งนี้ยังเสนอให้มีผู้ดูแลสภาพคล่อง(Market Marker) กลับมาพิจารณาเพื่อนำมาใช้ใหม่ รวมถึงการหากลุ่มนักลงทุนเสนอให้ เจาะกลุ่มลูกค้าโดยเน้นที่พนักงานของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจากการสำรรวพบว่า พนักงานมีศักยภาพในการลงทุนได้อีกประมาณ 1 แสนราย จากปัจจุบันที่ตลาดหลักทรัพย์เน้นเจาะกลุ่มลุกค้าแบงก์พาณิชย์เป็นหลัก
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีแนวคิดเสนอให้บริษัทหลักทรัพย์ลดทุนจดทะเบียนเพราะราคาหุ้นในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับปริมาณธุรกิจที่ 40 โบรกเกอร์ มีธุรกิจนายหน้าเป็นธุรกิจหลัก
รวมทั้งให้เพิ่มสินค้าอนุพันธ์ในตลาดให้เร็วขึ้น เช่น Interest rate Future และDerivative Warrant โดยคาดว่าจะออกได้ในปีนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุน หลังจากที่ปริมาณการซื้อขายอนุพันธ์โดยรวมใน TFEX เติบโต 60% ในปี 2551
อย่างไรก็ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หายไปถึง 50% ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน หลังจากที่นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไปในช่วงปีที่ผ่านมาและยังขายต่อเนื่อง ซึ่งการที่จะหวังให้นักลงทุนต่างประเทศกลับมาเป็นผู้ซื้อเพื่อเสริมสภาพคล่องคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นที่ต้องร่วมมือกันในการส้รางDemand เพื่อเสริมสภาพคล่อง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|