|
RMFเม็ดเงินนิ่ง 2เดือนเพิ่ม83ล. บลจ.เชียร์ลงทุน
ผู้จัดการรายวัน(23 มีนาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
เม็ดเงินกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟคลานเป็นเต่า แม้มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง พบ 2 เดือนแรกปี 52 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 83 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงครึ่งเดือนมีนาคมยอดเงินกลับลดลง 26 ล้านบาท เหตุนักลงทุนที่ครบกำหนดทยอยไถ่ถอนรับเงินก้อน มากกว่าปริมาณซื้อหน่วยลงทุน ผู้จัดการกองทุนยอมรับต้องเร่งประชาสัมพันธ์ประโยชน์จากการลงทุนมากขึ้น เพื่อดึงนักลงทุนรายใหม่เข้ามาช่วยขยายฐาน "สมจินต์"ชี้ปีนี้ถือเป็นปีทองแห่งสำหรับลงทุน
สมาคมบริษัทจัดการลงทุน(สมาคมบลจ.) รายงานถึงมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(เอ็นเอวี )ของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) โดยพบว่ามูลค่าเอ็นเอวี ณ วันที่ 13 มีนาคม 2552 อยู่ที่ 39,586,105,716.04 บาท ซึ่งปรับตัวลดลง 26,807,092.57 บาท จากสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ที่มี 39,612,912,808.61บาท แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 ที่ มี 39,529,614,703.11 บาท เป็นจำนวน 56,491,012.93 บาท
ขณะเดียวกัน เมื่อนำมูลค่าเอ็นเอวี ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552 มาเปรียบเทียบกับเม็ดเงิน ณ สิ้นปีที่ผ่านมา พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 83,298,105.50 บาท จากจำนวนกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟทั้งหมด 80 กองทุนด้วยกัน
นายธวัชชัย เหลืองสุรรังษี ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สมาคมบลจ. กล่าวถึง มูลค่าเอ็นเอวีของกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่าเม็ดเงินดังกล่าวไม่มีการขยับตัวมากนัก โดยมีสาเหตุมาจากการครบกำหนดอายุโครงการของกองทุน นั่นคือ 5 ปีปฏิทิน อีกทั้ง ในปีที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขกฎเกณฑ์ของกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟใหม่ คือ ให้นักลงทุนมีการขายคืนหน่วยลงทุนได้ ก็ต่อเมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี และต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งที่ผ่านมามีนักลงทุนทั้งไถ่ถอนหน่วยลงทุนคืนออกบ้างและมีนักลงทุนบางรายได้กลับเข้ามาลงทุนใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟ เป็นกองทุนรวมที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าต้องลงในสินทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยมีนโยบายลงทุนทั้งแบบเน้นการลงทุนในหุ้น เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ หรือลงทุนในแบบผสมตามความต้องการของนักลงทุน โดยที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันดีเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้ส่งผลให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน จึงส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินของกองทุนดังกล่าว
สำหรับเม็ดเงินที่เพิ่้มเข้ามา มองว่าเป็นเม็ดเงินที่มาจากการทยอยเข้าลงทุนของพนักงาน โดยนักลงทุนกลุ่มนี้ได้ลงทุนมาจากการหักเงินออกจากบัญชีเงินฝากทุกสิ้นเดือน เพื่อเป็นเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณ อย่างไรก็ตามเม็ดเงินก้อนใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟ จะมีเข้ามาอีกครั้งในช่วงกลางปี เพราะนักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี โดยที่ผ่านมาพบว่ามีเม็ดเงินไหลออกจากกองทุนประเภทนี้มากกว่าไหลเข้า เพราะเวลาที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนจะทยอยลงทุนเรื่อยๆ แต่เวลาไถ่ถอนคืนนักลงทุนจะได้รับเงินก้อนกลับไป
"การเติบโตของกองทุนรวมเพื่อเลี้ยงชีพนั้น ในปีนี้คาดว่าจะทรงตัว จนกว่าจะมีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน การที่นักลงทุนรายเก่าที่หน่วยลงทุนครบอายุโครงการแล้วกลับเข้ามาลงทุนนั้น ไม่ได้ทำให้กองทุนมีการเติบโตมากนักเพราะเป็นเม็ดเงินก้อนเดิม ทั้งนี้จึงจำเป็นที่จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ ให้นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจการลงทุนผ่านกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของนักลงทุนที่มีฐานรายได้สูง เพื่อให้เห็นถึงคุณค่าของการออมและการเข้ามาลงทุนในกองทุนชนิดนี้ ซึ่งถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการลดหย่อนภาษีสำหรับนักลงทุนกลุ่มนี้ด้วย"นายธวัชชัยกล่าว
ด้านนายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า การเติบโตของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพนั้นจะเป็นมีการเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ โดยจากปีที่ผ่านมาปัญหาทางเศรษฐกิจอาจจะทำให้มูลค่าของกองทุนลดลงไปบ้าง ซึ่งเป็นไปตามตลาดทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบนอกจากนี้หากกองทุนจะมีการเติบโตน่าจะมาจากการมีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการลงทุนในกองทุนดังกล่าวในปีนี้ ตลาดการลงทุนค่อนข้างที่จะเอื้ออำนวยต่อกองทุนมากกว่าในปีก่อนๆ ทั้งนี้โดยหลักการของกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟ ถือเป็นหลักการที่ดีสำหรับนักลงทุน แต่ไม่ใช่ว่าการลงทุนชนิดนี้จะไม่มีความผันผวนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งการลงทุนในกองทุนชนิดนี้ถือเป็นการลงทุนในระยะยาวดังนั้นนักลงทุนที่สนใจลงทุนจะต้องดูถึงผลตอบแทนของกองทุนว่าให้ผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อได้หรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน นอกจากนี้ จากปีที่ผ่านมาการลงทุนในกองทุนดังกล่าวทำให้นักลงทุนประสบกับภาวะขาดทุน แต่นักลงทุนก็มีความเข้าใจว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ดังนั้นหากไม่มีกองทุนประเภทนี้ นักลงทุนเองก็จะไม่มีเงินออมเพื่อใช้ในยามเกษียณอายุ รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีอีกด้วย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|