เซ็นทรัลปี47ขายเพิ่ม20% ลงทุนหมื่นล้านบาทคลุม3ปี


ผู้จัดการรายวัน(3 กันยายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล คาดจะมีอัตราเติบโตยอดขายปี 2547 เพิ่มขึ้นจาก ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20% ปีนี้จะมีอัตราเติบโต 30-40% จากปี 2545 ยอดขาย 3.6 พันล้านบาท ขณะที่บริษัทวางแผน 3 ปีข้างหน้า ลงทุนศูนย์การค้าเพิ่มอีกหมื่นล้านบาท

เนื่องจากมีรายการรับรู้รายได้ศูนย์การค้าเปิดใหม่สาขาพระราม 2 เต็มจำนวน และสาขาเซ็นทรัล เวิลด์ หรือเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์เดิม เริ่มทยอยรับรู้รายได้บางส่วน รวมทั้งช่วงครึ่งปีหลังจะรับรู้รายได้จากการเปิดสาขาเชียงใหม่เพิ่ม

นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เซ็นทรัล พัฒนา กล่าวว่าปีนี้บริษัทมีแผนจะซื้อกิจการศูนย์การค้าขนาดพื้นที่ประมาณ 3-5 หมื่นตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่คุ้มค่าการลงทุน ซึ่งบริษัทต้องเป็นเจ้าของร่วม ไม่ใช่จะบริหารเพียง อย่างเดียว

ปีนี้บริษัทมีแผนจะซื้อศูนย์การค้าประมาณ 1-2 ราย รายแรกที่เจรจาแล้ว อยู่ระหว่างตกลงขั้นสุดท้าย ได้แก่ ศูนย์การค้า ที่ชลบุรี ซึ่งคาดว่าจะประกาศเป็นทางการได้ภายในเดือนนี้ อีก แห่งอยู่ระหว่างสำรวจหาพื้นที่น่าสนใจ

เขากล่าวว่า บริษัทมีแผนจะเปลี่ยนแปลงสัดส่วนสัญญาเช่ารูปแบบคิดส่วนแบ่งจากยอดขายเพิ่มขึ้น จาก 20% เป็น 40 % ปี 2548 การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลบริษัทรายได้ เพิ่มขึ้นมาก และต้องป้องกันความเสี่ยงจากการที่ยอดขายไม่แน่นอน ปี 2547 ตามสัญญา บริษัทต้องปรับขึ้นค่าเช่าเฉลี่ยทุกพื้นที่อีก 5% ปัจจุบัน ค่าเช่าเฉลี่ยพื้นที่ทุกตารางเมตรเฉลี่ย 1,000 บาทต่อตารางเมตร

สำหรับการถือหุ้นของตระกูลจิราธิวัฒน์ ระยะ 3 ปี จะยังไม่เปลี่ยนแปลงสัดส่วนลงทุนบริษัท ส่วนจะเพิ่มทุนอีกหรือไม่ ขึ้นกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และการลงทุนของบริษัทที่จะ มีโครงการต้องใช้เงินมากหรือไม่ เบื้องต้นตระกูลจิราธิวัฒน์พอใจถือหุ้น 60% 3 ปีใช้หมื่นล้านบาท

ทางด้านนายนริศ เชยกลิ่น กรรมการ บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่าแผนใช้เงิน ลงทุนของบริษัทระยะ 3 ปี จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท พัฒนาศูนย์การค้าโครงการต่างๆ แผนใช้เงินบริษัทมั่นใจว่ากระแส เงินสดที่บริษัทมีปีละประมาณ 3 พันล้านบาท น่าจะเพียงพอ

แต่บริษัทเพิ่มทุนได้หากเงินลงทุนไม่เพียงพอ เนื่องจากหากเพิ่มทุน หลังเพิ่มทุนบริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 0.8 เท่า แต่ระดับที่ฝ่ายบริหารบริษัทต้องการจะรักษาระดับ 1 เท่า ดังนั้น บริษัทสามารถจะกู้เงินจากสถาบันการเงินได้อีก 1.5 พันล้านบาท

อาจออกกองทุนรวมอสังหาฯ กอง 1 อีก 2 เดือน

รวมถึงบริษัทมีแผนจะตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กอง 1 เพื่อเสนอขายนักลงทุนรายย่อยทั่วไป ภายใน 1-2 เดือนนี้ มูลค่าขั้นต่ำ ที่จะเสนอขาย 5 พันล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่าง ตัดสินใจว่าจะเสนอขายหรือไม่

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะรักษาอัตราทำกำไร ขั้นต้นปีนี้ 49% จากครึ่งแรกปีนี้ ที่ลดลง เนื่องจาก ปีนี้ บริษัทมีค่าใช้จ่าย และลงทุนเปิดศูนย์การค้า ใหม่ แต่ปีต่อๆ ไปอัตราทำกำไรขั้นต้นต้องปรับ ตัวขึ้น เนื่องจากการลงทุนลดลง เชื่อว่าปีหน้า อัตราทำกำไรขั้นต่ำสุด 50%



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.