ผมไม่ได้เขียนถึงบุรุษผู้นี้มานานถึง 2 ปีเต็ม อันเป็น ช่วงเดียวกับที่บทบาทของเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมากมาย ข้อต่อของสถานการณ์สำคัญได้เริ่มต้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่วิกฤติการณ์เมื่อ
5-6 ปีที่แล้ว
วันนี้เครือซิเมนต์ไทยเล็กไปเสียแล้วสำหรับชุมพล ณ ลำเลียง ดังนั้นคำถามที่ว่า
ใครจะมาแทนเขาเมื่อเขาจะเกษียณอายุใน 4-5 ปีข้างหน้า จึงกลายเป็นแนวคิดเก่าๆ
ที่ไม่สามารถอรรถาธิบายวิธีคิดของบุรุษผู้นี้ได้อย่างถูกต้อง
ชุมพลเพิ่งผ่านการดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่เครือซิเมนต์ไทยครบทศวรรษไปเมื่อต้นปีนี้
ว่าไปแล้วเป็นช่วงแห่งการฉลองที่น่ายินดีมากทีเดียว เครือซิเมนต์ไทยได้ผ่านขั้นตอนการแก้ไขวิกฤติการณ์ไปแล้ว
พร้อมๆ กับเขามีบทบาทใหม่กว้างขวางขึ้น และยิ่งใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน
มิติที่สำคัญประการหนึ่ง คือความต่อเนื่องของการจัดโครงสร้างใหม่เครือซิเมนต์ไทย
ให้ผู้บริหารกลุ่มแต่ละธุรกิจรับผิดชอบมากขึ้น ในแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจเมื่อต้นปี
2542 นั้น เป็นแผนที่ต่อเนื่องกับการวางบทบาทตนเองใหม่ ที่ปรากฏเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนในต้นปีที่ผ่านมา
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ย่อมปรากฏบางสิ่งบางอย่างที่ดูไม่ลงตัว หรือดูอาจไม่เหมาะสมอยู่บ้าง
ไม่ว่าจะเป็นความจำเป็นที่เขาต้องดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์
ในฐานะเจ้าหนี้เครือซิเมนต์ไทยในช่วงสั้นๆ เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว หรือล่าสุด
เครือซิเมนต์ไทยไม่ยอมแถลงข่าวใดๆ (เพราะชุมพลไม่อนุญาต) ในกรณีเขาเป็นประธาน
Singtel ยักษ์ใหญ่สื่อสารระดับภูมิภาคที่ถือหุ้นใหญ่ โดยรัฐบาลสิงคโปร์ (อ่านรายละเอียดใน
"ผู้จัดการ" ฉบับสิงหาคม 2546 หรือ www.gotomanager.com) บางคนมองว่า
ดูจะขัดแย้งกับบทบาทผู้จัดการใหญ่เครือซิเมนต์ไทย (ถือหุ้นใหญ่โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์)
ที่เชื่อมโยงกับภาพลักษณ์สังคมไทย
แต่สำหรับวงในแล้ว ชุมพล ณ ลำเลียง กำลังทำทำหน้าที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในฐานะผู้มีบทบาทในการดูแล
และแก้ปัญหาการลงทุนของสำนักงานทรัพย์สินฯ โดยแท้
Singtel ถือหุ้นใหญ่โดย Temasek Holding ซึ่งเป็นกิจการลงทุนของรัฐบาลโดยมีกระทรวงการคลังสิงคโปร์เป็นเจ้าของ
Temasek ถือหุ้นในกิจการใหญ่ในสิงคโปร์ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Singtel Singapore
Technologies Singapore Airlines DBS Bank จนถึง Capital Land
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ บริษัทในเครือของ Capital Land ที่ชื่อ Primus
International ซึ่งดำเนินกิจการบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
โดยร่วมทุนกับธนาคารไทยพาณิชย์ ทุนลดาวัลย์ (CPB Equity) บริษัทที่ดูแลการลงทุนของสำนักงานทรัพย์สินฯ
กลุ่มอิตัลไทย และอิสระ ว่องกุศลกิจ (กลุ่มน้ำตาลมิตรผล) ตั้งบริษัทพรีมัส
(ประเทศไทย) และแน่นอนที่สุดบริษัทนี้ได้เข้ามาจัดการบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือทรัพย์สินฯ
โดยเฉพาะกลุ่มอาคารไทยพาณิชย์พลาซา ย่านรัชดาภิเษก ซึ่งถือเป็นสำนักงานบริษัทพรีมัสด้วย
ความสำเร็จในการแก้ปัญหาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ว่านี้ ย่อมสัมพันธ์กับความสำเร็จของธนาคารไทยพาณิชย์ด้วย
ที่สำคัญมากมีอีก ธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่งแต่งตั้งกรรมการคนใหม่ไม่นานมานี้เป็นชาวสิงคโปร์
Peter Seah Lim Huat อดีตนายธนาคารที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี ปัจจุบันเป็นกรรมการคนหนึ่งของ
Capital Land และเป็นประธานกรรมการบริหาร Singapore Technologies ซึ่งทั้งสองบริษัทถือหุ้นใหญ่โดย
Temasek Holding ทั้งสิ้น จึงมีการคาดกันว่า ผู้ถือหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์มีสิงคโปร์อยู่ด้วยจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ในช่วง 10 ปีมานี้ วิกฤติครั้งใหญ่ในธุรกิจของสำนักงานทรัพย์สินฯ กว้างขวางกว่าที่คิด
ที่สำคัญมากที่สุดคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วพร้อมๆ
กับไม่มีมืออาชีพที่มีความสามารถ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ย่อมเป็นกระบวนการที่สัมพันธ์กับบทบาทใหม่ของชุมพล
ณ ลำเลียง ในฐานะ "ลูกจ้าง" คนใหม่ ของรัฐบาลสิงคโปร์ด้วย