|
บ้านปูเล็งทุ่ม1.6พันล.ลงทุนเอทานอล-พลังลม
ผู้จัดการรายวัน(9 มีนาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
บ้านปูเร่งศึกษาความเป็นไปได้โครงการพลังงานทดแทนทั้งเอทานอลและพลังงานลม คาดจะเห็นความชัดเจนได้ในปลายปีนี้หรือต้นปี53 หลังวางนโยบายใช้เงินลงทุน 2%ของสินทรัพย์รวม หรือคิดเป็น 1.5-1.6 พันล้านบาท ขณะเดียวกันเร่งขายถ่านหินล่วงหน้าปี2553-2554 หลังราคาผูกกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่สู้ดี
นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการลงทุนพลังงานทดแทนว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนพลังงานทดแทนทั้งพลังงานลมและการผลิตเอทานอลโดยใช้โมลาสเป็นวัตถุดิบ คาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้นในปลายปีนี้หรือต้นปี 2553 ซึ่งรูปแบบการลงทุนอาจจะเป็นการร่วมลงทุนหรือลงทุนเองทั้งโครงการขึ้นอยู่กับความเหมาะสม แต่โครงการดังกล่าวจะต้องให้ผลตอบแทนที่ดี โดยไม่เป็นภาระให้กับบ้านปู
ทั้งนี้ บริษัทฯวางนโยบายที่จะลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนคิดเป็น 2%ของสินทรัพย์รวม โดยเม็ดเงินลงทุนนี้จะปรับเปลี่ยนแปลงไปตามสินทรัพย์ คาดว่าจะลงทุนประมาณ 1,500-1,600ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่จะลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท
"สาเหตุที่ให้ความสนใจธุรกิจพลังงานทดแทน เนื่องจากดูเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) การต่อยอดเทคโนโลยี และเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป ยอมรับโครงการผลิตเอทานอลมีคนทำเยอะ ทำให้ภาพรวมตลาดล้น หากจะลงทุนต้องใช้เงินประมาณ 700-800 ล้านบาท ซึ่งกำลังศึกษาตลาดอยู่ ขณะที่พลังงานลมได้มีข้อมูลผลศึกษาก่อนหน้านี้ ทางบริษัทก็จะดูรายละเอียดข้อมูลก่อนศึกษาเพิ่มเติม รวมทั้งหาพื้นที่ที่เหมาะสมซึ่งจะใช้เวลาหลายปี เพราะขนาดโครงการต้องใหญ่ "
นายชนินท์ กล่าวต่อไปว่า จากทิศทางราคาน้ำมันที่ค่อนข้างผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่หดตัวลง ทำให้ราคาถ่านหินในช่วงนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯมากนักเนื่องจากมีการทำสัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้าปีนี้ไปแล้ว57% ส่วนอีก 14%ได้ทำสัญญาขายแต่ราคาขายขึ้นอยู่กับดัชนีที่จะเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาที่ส่งมอบถ่านหิน อีก14%ได้มีการตกลงซื้อขายแต่ยังไม่กำหนดราคา คงเหลืออีก 15%ที่จะขายเป็นราคาตลาดจร
ดังนั้นสิ่งที่บริษัทฯเข้ามาดูแลมากขึ้นคือการขายถ่านหินล่วงหน้าปี 2553-2554 เนื่องจากราคาถ่านหินเป็นไปได้หลายอย่าง โดยราคาจะอ่อนตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ โดยส่วนใหญ่ลูกค้าหลักจะเป็นโรงไฟฟ้า ซึ่งต้นทุนค่าไฟจะต่ำกว่าโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯหรือน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทฯได้มีการทำสัญญาขายล่วงหน้าปี2553ไปบ้างแล้ว
"ที่ผ่านมา บ้านปูก็มีการขายถ่านหินล่วงหน้าในปีหน้าและปีถัดไป เพียงแต่ไม่เร่งรีบมากนัก แต่ปีนี้บริษัทฯจะเข้ามาดูแลเร่งขายถ่านหินล่วงหน้าเร็วขึ้น แต่การขายล่วงหน้าไม่ง่าย เพราะผู้ซื้อบางรายไม่อยากล็อกราคา รวมทั้งปรับลดต้นทุนการผลิตลง รวมถึงพิจารณาความต้องการใช้ถ่านหินในอนาคต เพื่อวางแผนรองรับ ประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤต โดยภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ยังดูไม่ออก"
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|