โยคะ สไตล์ สุธีร์ พันทอง

โดย อรวรรณ บัณฑิตกุล
นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

เพราะเป็นโรคเบาหวานขั้นร้ายแรง ทำให้สุธีร์ พันทอง ผู้ทำงานทางด้านจิวเวลรี่มานานเกือบ 20 ปี ต้องหันมาสนใจการออกกำลังกายอย่างจริงจัง

ในช่วงแรกเขาลองเล่นกีฬาหลายประเภท เพื่อให้ร่างกายซึ่งมีน้ำหนักถึง 71 กิโลกรัมดีขึ้น แต่ไม่ได้ผลเท่าที่ควร จนวันหนึ่งไปเห็นคนเล่นโยคะในสวนลุมพินี จึงได้สนใจศึกษาและฝึกเล่นอย่างจริงจัง พบว่าร่างกายผอมลงและแข็งแรงขึ้น จนในที่สุดได้กลายเป็นอาจารย์ที่สอนโยคะมาประมาณ 5 ปีแล้ว

ลูกศิษย์หลายคนของสุธีร์เป็นดาราและนักร้อง เช่น ธงไชย แมคอินไตย์ ทาทา ยัง ญาญ่า หญิง รวมทั้งอดีตประธานศาลฎีกา ประมาณ ชันซื่อ ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่เขาต้องแวะเวียนไปสอนโยคะให้ที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ

โยคะเหมือนสินค้าชิ้นหนึ่งที่มีหลายยี่ห้อเพราะมีที่เรียนมากมาย แต่ละแห่งหลักสูตรการสอนอาจไม่เหมือนกันบางหลักสูตรเน้นการเคลื่อน ไหวแบบช้าๆ บางหลักสูตรเน้นที่การออกกำลังกายเพื่อความแข็งแกร่งของร่างกาย เช่น การกระโดด บางหลักสูตรเน้นที่การนั่งสมาธิ คนเรียนต้องทดลองหลายๆ แบบก่อนที่จะเลือกเรียนในแบบที่ชอบและพอใจเอง

สุธีร์เองได้รวบรวมท่าอาสนะต่างๆ จากโยคะหลายแนวที่ได้ฝึกมา เช่น Hatha, lyengar, Vinyasa, Ashtanga แล้วนำเอาจุดเด่นของแนวทางเหล่านั้นมาเลือกสรร ผสมผสาน และถ่ายทอดในรูปแบบของตนเอง ชุดการเคลื่อนไหวร่างกายในเวลา 1 ชั่วโมงของเขาจึงเป็นการเรียนรู้ทั้งปราณยมะ (หลักการหายใจ) อาสนะ (หลักการวางท่าสรีระ) และหลักการทำสมาธิ ซึ่งจะทำให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง

นอกจากนี้หลักการสอนจะเน้นให้ความรู้ทางสรีรศาสตร์ คือ ท่าอาสนะต่างๆ ที่ช่วยปรับปรุงส่วนต่างๆของร่างกาย เพราะท่าอาสนะทุกท่าเกี่ยวข้องกับต่อมต่างๆ ระบบหายใจ ระบบประสาท และอวัยวะทุกส่วน "โยคะ ไม่ใช่แฟชั่นตามสมัยนิยม การฝึกโยคะต้องมีความต่อเนื่อง และผู้ฝึกต้องมีความอดทน เพื่อให้ผลในระยะยาวต่อร่างกาย ต้องฝึกสม่ำเสมอ ร่างกายจะได้ค่อยๆ ปรับให้ยืดหยุ่นตามสภาพร่างกายของแต่ละคน" สุธีร์อธิบาย

วันนี้น้ำหนักของเขาลดลงเหลือเพียง 54 กิโลกรัม และยังรับสอนตามบ้านอีกวันละ 5-6 ที่ ซึ่งคาดว่าต่อไปจะลดลงเพื่อเต็มที่กับโยคะสุตราให้มากขึ้น

สำหรับอายุของคนที่มาเล่นโยคะนั้นไม่จำกัด สามารถเล่นได้ทุกวัยตั้งแต่เด็กเล็กจนกระทั่งผู้สูงอายุมากกว่า 50 ปี และจากประสบการณ์ที่ผ่านมาเขาพบว่า ลูกค้าที่มาเล่นส่วนใหญ่มักจะมาจากผู้ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เช่น ปวดหลัง ปวดเอว นอนไม่หลับ หรือบางคนอยากจะลดน้ำหนักซึ่งผลที่ได้ต่อเนื่องก็คือ สุขภาพแข็งแรง ผิวพรรณดีขึ้น เพราะท่าที่เล่นส่วนใหญ่จะทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ต่อมฮอร์โมนในร่างกายได้รับการกระตุ้น กล้ามเนื้อได้รับการฝึกให้ยืดหยุ่น รวมทั้งผลในระยะยาวจะช่วยในเรื่องสมาธิที่ดีขึ้น เพราะเวลาฝึกทุกคนต้องเงียบ และตั้งใจกำหนดลมหายใจเข้าออกไปพร้อมๆ กับการออกท่าทาง

ก่อนการเล่นจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรให้ท้องว่างก่อนการฝึกประมาณ 2 ชั่วโมง เพราะการทำท่าก้ม-เงย ถ้ารับประทานอาหารมาจะทำให้เกิดอาการอึดอัดไม่สบายท้อง การฝึกสม่ำเสมอควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน

สำหรับผู้ที่ฝึกจนชำนาญสามารถเล่นได้ทั้งท่าง่ายๆ และท่าที่ยากขึ้น ที่สำคัญควรจะได้รับการฝึกอย่างสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นแล้วปัญหาที่เคยเกิดกับร่างกายอาจจะกลับมาได้อีก สุธีร์ย้ำอีกครั้งว่า

"ต้องทำให้ "โยคะ" เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตให้ได้ตลอดไป"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.