ติดสปริง "เบตง" โกอินเตอร์ ต้องใช้ศูนย์ภาษาเป็นฐานรอง

โดย ปิยะโชติ อินทรนิวาส เจษฎา สิริโยทัย
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มีนาคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อ 14 ปีที่แล้วหญิงสาวหน้าใสสายเลือดมังกรไต้หวัน เธอตัดสินใจถอดชุดพยาบาลสีขาวที่เคยใฝ่ฝันอยากจะใส่มาตั้งแต่เด็ก แล้วหันหลังให้กับบ้านเกิด เพื่อติดตามสามีเดินทางกลับสู่เมืองชายแดนใต้สุดสยาม

ระหว่างทางที่ขับรถยนต์มาด้วยกัน เธอครุ่นคิดไปตลอดว่า เมื่อถึงบ้านเกิดของสามีแล้วจะประกอบอาชีพอะไรดี

ถนนบางช่วงสูงชัน บางช่วงต้องลัดเลาะหลบเหลี่ยมเขาและก็มีบ้างที่เลาะเลียบไปตามขอบแหล่งน้ำขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา

ขณะที่ทิ้งอารมณ์เพลิดเพลินจนจมดิ่งไปกับภาพเบื้องหน้า ซึ่งก็คือผืนป่าเขียวขจีกว้างใหญ่ไพศาลสองข้างทาง จิตสำนึกแห่งการต่อสู้และจริงจังกับการใช้ชีวิตได้กระตุกเตือนให้เธอเพ่งมองผืนป่าอย่างพินิจพิเคราะห์

ไม่นานนักคบเพลิงในสมองก็ลุกโชนสว่างจ้าด้วยสิ่งที่เห็นในสองฟากฝั่งถนนเบื้องหน้านั้น มันไม่ใช่ผืนป่าที่มีต้นไม้ระโยงระยางไร้ระเบียบแบบที่ธรรมชาติชอบรังสรรค์ไว้ แต่กลับเป็นป่าไม้ที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ถูกปลูกแบบจัดระเบียบเว้นระยะแต่ละต้นไว้เท่าๆ กัน

ที่แท้มันคือสวนยางที่ต่อเนื่องกันไปแบบยากจะหาจุดสิ้นสุด มองเผินๆ จึงเห็นเป็นผืนป่ากว้างใหญ่ไพศาล

ณ ห้วงเวลานั้น มันคือจุดเริ่มต้นของการกระโจนเข้าสู่ธรกิจแปรรูปไม้ยางพารา และกลายมาเป็นเจ้าของโรงงานที่ผลิตเพื่อส่งออกรายใหญ่แห่งอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ของสาวหน้าใสชาวไต้หวันที่กลายมาเป็นสะใภ้คนเบตงในวันนี้นั่นเอง

"การเดินทางมาเบตงในครั้งนั้นทำให้เราเห็นช่องทางทำการค้า ซึ่งความคิดแบบนี้คงอยู่ในสายเลือดเรามาตลอด เพราะพ่อและแม่ที่อยู่ไต้หวันก็ประกอบอาชีพทำการค้ามาตลอด เราเองแม้จะเรียนจบพยาบาลแต่ก็ชอบการค้าการขายมากกว่า" ซูเหวิน มงคลประจักษ์ อธิบายถึงที่มาที่ไปในการเข้าสู่ธุรกิจที่เบตง

ในวันนี้ซูเหวินเป็นเจ้าของบริษัท มงคลลัมเบอร์ จำกัด ที่มีโรงงานผลิตไม้ยางแปรรูปตั้งไม่ไกลจากตัวเมืองเบตง บนพื้นที่นับสิบไร่ มีคนงานกว่า 80 คน มียอดส่งออกในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 800 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือคิดเป็นมูลค่าราว 500 ล้านบาทต่อปี

บริษัท มงคลลัมเบอร์ผลิตไม้ยางแปรรูปส่งออกทั้งหมด โดยทำตามคำสั่งของลูกค้า ว่าต้องการแบบและขนาดเท่าใด เพื่อนำไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่ออีกทีหนึ่ง ซึ่งตลาดหลักอยู่ที่มหานครเซี่ยงไฮ้และมณฑลกวางตุ้งในสาธารณรัฐประชาชนจีนประมาณ 85-90% ที่เหลือเป็นตลาดเวียดนามประมาณ 10-15% โดยการส่งออกจะผ่านด่านเบตงและด่านสะเดาในจังหวัดสงขลา แล้วต่อไปยังท่าเรือน้ำลึกปีนังอีกทอดหนึ่ง

จากการที่ได้คลุกอยู่ในวงการธุรกิจของเบตง และต้องเดินทางไปหาแหล่งไม้ยางทั่วภาคใต้ และก็บ่อยต้องระเห็นไปในหลายประเทศ ทำให้เห็นเป็นประจักษ์ว่า ไซนีสคอนเนกชั่น (Chinese Connection) นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง และหากใครมีความรู้ในภาษาจีนและอังกฤษก็จะยังความได้เปรียบในทางธุรกิจ

เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของโรงงานแปรรูปไม้ยางรายใหญ่ของเบตงชี้ว่า การที่นายกเทศมนตรี เมืองเบตงผลักดันให้เกิดศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ โดยเน้นด้านจีนศึกษาเป็นหลักนั้น เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว ต่อไปคนไทยจะพูดภาษาเขาได้ นำไปสู่ความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีของเขา อนาคตคนไทยจะสามารถพัฒนาไปสู่การทำการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวกับต่างชาติได้อย่างสบาย โดยเฉพาะกับชาวจีนที่ถือเป็นตลาดใหญ่ในโลก

น่าเสียดายที่ทุกวันนี้สินค้าที่เราส่งออกเป็นวัตถุดิบทั้งนั้น อย่างยางแผ่นหรือน้ำยางดิบ พวกไม้ยางก็เช่นกัน ที่ส่งออกยังไม่ใช่สินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ความจริงคนไทยมีฝีมือไม่แพ้ชนชาติไหน แต่ติดที่ไม่รู้ภาษา อย่างเวลาลูกค้ามาที่บริษัท เถ้าแก่และเถ้าแก่เนี๊ย ไม่อยู่ก็ไม่ต้องค้าต้องขายกันแล้ว

อย่างไรก็ตาม ความที่เป็นคนหัวไว้ทางธุรกิจ และมีซิกซ์เซ้นส์ที่จะทำการค้าการลงทุน วันนี้เถ้าแก่เนี๊ยโรงงานแปรรูปไม้ยางได้เห็นช่องทางทำธุรกิจใหม่ๆ ที่สุกสดใสในเบตงขึ้นมาแล้ว

"ที่สนใจมากในเวลานี้คือ เรื่องของบ่อน้ำร้อนเบตง เรามองว่าสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งสปาที่มีระดับได้ โดยเฉพาะการยกระดับให้เป็นรีสอร์ตสปา แล้วจับตลาดไม่เฉพาะแค่มาเลเซียหรือสิงคโปร์เท่านั้น แต่ยังรองรับตลาดใหม่ๆ ได้อีกมาก โดยเฉพาะไต้หวัน ญี่ปุ่น และจีน" ซูเหวินบอก

นอกจากนี้ รอบๆ บ่อน้ำร้อนก็เป็นชุมชนชาวจีนที่พัฒนาให้เป็นอีกจุดขายได้ แล้วยังสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่อีโคทัวร์ในรูปแบบอื่นๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเดินป่า หรือทัวร์ชมหิ่งห้อยในป่ายาง เป็นต้น

ทั้งนี้ หากทำได้ดังที่กล่าวว่าก็จะสามารถเปลี่ยนโฉมหน้าเมืองท่องเที่ยวของเบตงได้เลย เป็นการยกระดับจากแหล่งบันเทิงสู่การท่องเที่ยวแบบมีคุณภาพ แล้วยังเป็นการช่วยยกระดับภาพพจน์เมืองเบตง ให้ขึ้นไปสู่ความเป็นแหล่งท่องเที่ยวในระดับอินเตอร์ได้ด้วย

"ซูเหวินกลับไปไต้หวันทุกปี เราก็จะหาเวลาไปศึกษายังสถานที่ท่องเที่ยวแบบสปา หรือสถานที่ท่องเที่ยวบนภูเขา ไปดูการบริหารงานของเขาที่เก่งมากเลย เชื่อไหมว่าห้องพักราคาสูงถึงสองหมื่นก็ยังมีคนจองเป็นคิวยาวเลย" ซูเหวินเผยความในใจที่หวังว่าสักวันจะก้าวรุกสู่ธุรกิจท่องเที่ยวในลักษณะนี้ให้ได้

เช่นเดียวกันคุณวุฒิ มงคลประจักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเบตง ก็เคยวาดฝันจะเห็นเบตงถูกพัฒนายกระดับให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวในระดับอินเตอร์เช่นกัน

เพียงแต่ในมุมมองของคุณวุฒิพุ่งเป้าไปจับตลาดลูกค้าคนละด้าน กล่าวคือ เมื่อสนามบินนานาชาติขนาดเล็กของเบตงแล้วเสร็จ เขาอยากให้มีการเชื่อมโยงการบินไปในประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวและปลอดภาษีอย่างดูไบในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ในส่วนของจุดขายของเมืองเบตงที่จะใช้เจาะตลาดประเทศในย่านตะวันออกกลางนั้น สิ่งที่จะนำไปโชว์เป็นจุดขายสำคัญคือ เมืองเบตงเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะชื่อเสียงของเมืองเก่าอย่างฟาตอนี หรือปัตตานีเป็นที่รู้จักของมุสลิมเกือบจะทั่วโลก

"เราหวังจะได้นักท่องเที่ยวกลุ่มกระเป๋าหนักจากตะวันออกกลาง แล้วก็เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับคุณภาพด้วย ซึ่งถ้าทำได้เช่นนั้นก็จะพลิกโฉมเมืองเบตงเลยทีเดียว" นายกเทศมนตรีเมืองเบตงบอก

การจะพัฒนาเบตงให้ยกระดับขึ้นสู่ความเป็นเมืองในระดับสากล ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และโดยเฉพาะการท่องเที่ยวมีศักยภาพหลากหลายรองรับอยู่นั้น ล้วนต้องอาศัยการขับเคลื่อนในเรื่องของการศึกษาให้เป็นผลโดยเร็ว โดยเฉพาะการปลุกปั้นให้เมืองเบตงเป็นศูนย์กลางการศึกษาในระดับนานาชาติ

วันนี้ สาวหน้าใสสายเลือดไต้หวันที่ได้มาเป็นสะใภ้เบตง จิตวิญญาณของนักสู้แบบเอาจริงเอาจังได้กระตุกเธออีกหนแล้ว แถมคบเพลิงในสมองก็ถูกจุดให้ส่องสว่างขึ้นอีกครั้งครา อีกนานไหมหนอที่เธอจะได้มีส่วนร่วมติดสปริงเมืองเบตงให้โกอินเตอร์ได้เป็นผลสำเร็จ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.