|
งบโฆษณายังไม่สะดุดท่อแต่ต้องพลิกไอเดีย-อายุสั้น
ผู้จัดการรายวัน(5 มีนาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
กูรูอุตสาหกรรมโฆษณา ฟันธง อย่างเก่งได้แค่ทรงตัว 2 เดือนที่ผ่านมา หนังโฆษณายังมีต่อเนื่อง เหตุลูกค้าเบื่อง่าย พบวิธีการสื่อสารการตลาดเปลี่ยนแปลงไป ลูกค้าคอนซูเมอร์ยังพร้อมเทเม็ดเงิน เหตุมองโฆษณาเป็นการลงทุน ส่วนภาครัฐพร้อมใช้เงินมากขึ้น ชี้สื่อออนไลน์รุ่ง เคเบิลทีวีน่าสนใจ วิทยุเป็นสื่อทางเลือกที่น่าจับตา คนโฆษณา เดินหน้าจัด “แอดแมน” ครั้งที่ 6 ชูงานสื่อสารการตลาดเป็นวาระแห่งชาติ
นายวิทวัส ชัยปาณี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ครีเอทีฟจูซ จีวัน เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยังไม่เห็นภาพชัดเจนว่ามีการชะลอตัวเกิดขึ้นแต่อย่างไร แต่พบว่ารูปแบบการสื่อสารทางการตลาดของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์โฆษณายังมีบทบาทสำคัญ เพราะตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ยังมีงานชิ้นใหม่ๆดีๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมองว่า เกิดจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ลูกค้าใช้เงินลดลงในการใช้สื่อ ดังนั้นภาพยนตร์โฆษณาจึงต้องตอบโจทย์ และเห็นผลชัดเจนมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้บริโภคในช่วง 2-3 ปีเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เบื่อง่าย ดังนั้นระยะเวลาของภาพยนตร์โฆษณาจึงสั้นลง เหลือ 3-4 เดือน จากปีก่อนจะใช้โฆษณาได้ราว 6 เดือน ถึง 1 ปี
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 ที่ผ่านมา เชื่อว่าปีนี้ไม่น่าจะมีอะไรเลวเท่า ซึ่งในส่วนของลูกค้าเองจากครั้งก่อนเมื่อเจอวิกฤติสิ่งแรกที่ทำคือการตัดงบโฆษณา แต่สำหรับในปีนี้ กลับแตกต่างออกไป โดยยังคงพร้อมใช้เม็ดเงินเพื่อการโฆษณา เพราะมองเป็นการลงระยะยาว ในการสร้างแบรนด์และสร้างความแข็งแกร่งให้กับสินค้า รักษาฐานลูกค้าเดิม ซึ่งจะเห็นชัดในกลุ่มผู้นำในแต่ละหมวดสินค้านั้น โดยเฉพาะในกลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักส์ ถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ยังพร้อมใช้สื่อโฆษณาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังพบว่า ปีนี้ภาครัฐเริ่มเห็นความสำคัญในการทำการสื่อสารการตลาด โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างภาพลักษณ์องค์กร จะเห็นว่ามีการจ้างมืออาชีพเข้ามาดูแลมากยิ่งขึ้น
จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ มองว่าสื่อออนไลน์ จะเป็นสื่อที่ลูกค้าจะหันมาใช้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเชิงของการทำแคมเปญ ภาพยนตร์โฆษณาที่ไม่สามารถออกอากาศทางฟรีทีวีได้ รวมถึงพัฒนาเว็บไซต์องค์กรอย่างต่อเนื่อง
นายตรง ตันติเวชกุล ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท วายแอนด์อาร์ ประเทศไทย จำกัด และในฐานะประธานคณะกรรมการตัดสินการประกวดสุดยอดงานโฆษณาและงานสื่อสารการตลาด “Adman Awards & Symposium” ครั้งที่ 6 กล่าวต่อว่า ทั้งปีมองว่าภาพรวมโฆษณาน่าจะทำได้ที่ที่สุดคือ ทรงตัวเท่าปีก่อน หรือตกลงเล็กน้อย โดยกลุ่มคอนซูเมอร์ยังเป็นกลุ่มที่ใช้เม็ดเงินมากที่สุด โดยให้น้ำหนักกับบีลว์เดอะไลน์ มากขึ้น ส่วนอะโบพเดอะไลน์ ยังใช้เท่าๆเดิม ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่พบว่าได้รับผลกระทบและมีการใช้เม็ดเงินลดลง คือ กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ และกลุ่มสถาบันการเงิน
ทั้งนี้มองว่าในสถานการณ์แบบนี้ สื่อวิทยุ เป็นสื่อที่ลูกค้าหันมาใช้มากขึ้น เพราะเป็นสื่อที่มีกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างกว้าง เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย และมีอิมแพ็คกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ส่วนกลุ่มเคเบิลทีวีมีแนวโน้มน่าสนใจ ยิ่งหากกฏหมายพร้อม เชื่อว่าจะมีการเติบโตที่ดีกว่าสื่อออนไลน์ ส่วนสื่อทีวียังเป็นสื่อหลักที่ลูกค้าพร้อมที่จะใช้ ถึงแม้ว่าจะมีตัวเลขลดลง แต่น่าจะขึ้นอยู่กับรายการที่อาจจะไม่เข้ากับสินค้ามากกว่า เพราะในทางเอเจนซี่ ยังพบว่าลูกค้ายังมีการทำภาพยนตร์โฆษณาออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองในภาพรวม ไตรมาส 1 นี้ โฆษณายังดีอยู่ ยังเห็นลูกค้าทำแคมเปญใหญ่ๆ ส่วนไตรมาส2-3 เป็นช่วงวัดผล และอาจจะมีการทำแคมเปญหรือโฆษณาต่อเนื่อง หรือรวมทั้งปีมองว่าน่าจะทรงตัวไม่ต่างจากปีก่อน
ล่าสุดปีนี้จะมีการจัดงาน Adman Awards & Symposium” ครั้งที่ 6 ขึ้นในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ภายใต้แนวคิด “วัดแอดแห่งชาติ งานฉลาด ชาติเจริญ” โดยมีประเภทชิ้นงานร่วมประกวดทั้งหมด 12 ประเภท มี สื่อโฆษณา Interactive and Digital media เพิ่มเข้ามาในปีนี้อีก 1 ประเภท โดยแต่ละผลงานจะต้องทำออกเผยแพร่สู่สาธารณชน ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2551 -30 มิ.ย. 2552 และสามารถส่งเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันที่ 1เม.ย.-4พ.ค.นี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|