CPFอวดปี51โกยกำไร3.1พันล.เหตุยอดขายเพิ่มทุกสายธุรกิจฟุ้งปีนี้โตต่อเนื่อง


ผู้จัดการรายวัน(26 กุมภาพันธ์ 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

เจริญโภคภัณฑ์อาหาร อวดผลงานงวดปี 51 โกยกำไร 3.1 พันล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนกว่า 145% เนื่องจากยอดขายเพิ่มทุกสายธุรกิจ พร้อมจ่ายเงิน ปันผลหุ้นละ 0.19 บาท เชื่อปีนี้โตต่อเนื่อง หลังโรงงานในรัสเซียเปิดดำเนินการหนุนรายได้เพิ่ม

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF) แจ้งผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 51 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 51 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 3,128.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,275.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,853.27 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 145.34%

โดยบริษัทมียอดขายรวมของบริษัทและบริษัทย่อย 156,238 ล้านบาท เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเป็นยอดขายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจและจำหน่ายในประเทศไทย 63% ธุรกิจส่งออก 16% และยอดขาย ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ 16% ซึ่งในทุกสายธุรกิจมีการ เติบโตในอัตราที่น่าพอใจ โดยเฉพาะ ธุรกิจเนื้อสัตว์ในประเทศไทยที่พลิกกลับจากภาวะขาดทุน 1,135 ล้านบาท ในปี 50 กลับสู่ภาวะการค้าปกติเว้นแต่ไข่ไก่ซึ่งยังคงประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ในปี 51 ที่ผ่านมานั้น เป็นปีที่ ท้าทายในการดำเนินธุรกิจจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น สินค้าโภคภัณฑ์ อันรวมถึง น้ำมันและวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ของ CPF มีความผันผวนค่อนข้างมากได้ปรับตัวสูงต่อเนื่อง และปรับตัวลงอย่างมากในช่วงปลายปี ซึ่ง CPF ได้ชะลอการลงทุนและขยายงาน พร้อมๆ ไปกับการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและการทำงาน เพื่อให้มีต้นทุนที่ลดลง

อย่างไรก็ดี ในปี 52 นี้ วิกฤตเศรษฐกิจโลกอาจจะยังถดถอยต่อเนื่องมาจากปลายปีที่ผ่านมา และยังไม่มีแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ตัวเลขการว่างงานในแต่ละประเทศก็มีเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะกระทบต่ออัตราการบริโภคทั่วโลก CPF คงต้องดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ ทั้งด้านการผลิต การตลาด และการเงิน แต่จากการที่สินค้าของบริษัทเป็นสิ่งที่จำเป็น และจากการที่ CPF ปรับตัวในการขยายธุรกิจเข้าสู่สินค้าอาหารพร้อมรับประทานภายใต้ตราสินค้าซีพี มากขึ้นประกอบกับการเริ่มดำเนินธุรกิจในรัสเซียปี 52 นี้ คาดว่าผลการดำเนินงานน่าจะดีขึ้นจากปี 51 ที่ผ่านมา

สำหรับผลการดำเนินงานปี 51 ที่ผลงานเติบโตระดับที่น่าพอใจนั้น คณะกรรมการบริษัทจึงได้ประกาศจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 2 ครั้ง ทั้งสิ้น 0.19 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 58% จากกำไรสุทธิเฉพาะบริษัท โดยจ่ายไปแล้วเมื่อ 11 ก.ย.51 อัตรา 0.08 บาท และจ่ายเมื่อ 25 ก.พ.52 หุ้นละ 0.11 บาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.