พลังของดอกไม้

โดย ลักขณา ศิริวรรณ
นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ฉันเองไม่เคยคิดเช่นกัน จนเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีเวลาเดินซื้อของตาม ห้างใหญ่ๆ ในลอนดอน และสังเกตเห็นใบประกาศโฆษณาขายส่งดอกไม้ แบบ Direct Flowers ทุกแห่ง ทุกประเภท คือเห็นบริการแบบนี้จากร้าน Marks&Spencer ซึ่งเป็นร้านสรรพสินค้าใหญ่ระดับชาติ หรือ Waitrose ซึ่งเป็นร้านสรรพสินค้าระดับท้องถิ่น อาจจะไม่แปลกใจ แต่เมื่อเห็นโฆษณาแบบเดียวกันนี้จากร้าน NEXT ที่ทำธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ทำให้ฉุกคิดว่า เมืองนี้ประเทศนี้ดำเนินธุรกิจดอกไม้เป็นสายเลือดใหญ่สายหนึ่งเหมือนกัน

ถ้ามองย้อนไปในอดีต จะเห็นว่าสินค้าส่งออกหลักใหญ่ของอังกฤษ ที่เป็นที่รู้จักจะนิยมไปทั่วโลกมักจะติดกลิ่นและสีของดอกไม้ไปด้วยทั้งสิ้น

เริ่มแรกลองมาดูกันที่ YARDLEY LONDON ไม่ว่าหญิงหรือชายต้องรู้จักสินค้านี้ กว่า 200 ปีมาแล้ว เริ่มตั้งแต่ ค.ศ.1770 หนุ่มน้อย Yardley กำเนิดธุรกิจสบู่หอมสีม่วงที่ใช้สีและกลิ่นของดอกลาเวน เดอร์ ธุรกิจที่หอมหวนนี้เริ่มต้นจากสบู่ แล้วพัฒนาขยายสินค้าไปหลากหลาย ที่ใช้สีและกลิ่นของดอกไม้เป็นตัวนำ ชักจูงลูกค้า ไม่ว่าหญิงหรือชายวัยใดให้หลงใหลในกลิ่นของธรรมชาติอันคุ้นเคย

เครื่องหอมที่ใช้ดอกไม้มาเป็นส่วนผสมเริ่มต้นเป็นธุรกิจเรื่อยมา ไม่ว่า สบู่ หรือเครื่องประทินผิวชนิดต่างๆ ของผู้หญิงและผู้ชาย ทุกอย่างล้วนมาจาก English Roses หรือ English Lavender ดอกไม้ที่แสนอมตะที่สุดในอังกฤษทั้งสิ้น แม้ปัจจุบันจะมี Lily of the Valley เข้ามาแซมบ้าง แต่ความนิยมก็ยังไม่เข้าขั้นถึงกับท้าชิงแชมป์ได้

ปัจจุบัน CRABTREE & Evelyn เป็นบริษัทของอังกฤษ ที่ผลิตเครื่องหอมประทินผิวที่แสนแพงและแสนฟุ่มเฟือยที่สุดในอังกฤษก็ว่าได้ สโลแกนของ เขาใช้ว่า "Everyday luxury" ขณะนี้ชุดเครื่องหอมกลิ่นดอกไม้อังกฤษ 5 ชนิดที่ผลิตออกมาสู่ตลาดคือ wisteria, lily of the valley, freesia, rose และgardenia หรือดอกพุดของเรานั่นเอง

เมื่อเครื่องหอมจากดอกไม้ของอังกฤษขายได้ดีไปทั่วโลกแล้ว ยังมีส่วนไหนของดอกไม้แบบอังกฤษขายได้ดีอีก?

LAURA ASHLEY ผู้หญิงอังกฤษ แม่บ้านธรรมดา เริ่มต้นจากการนำผ้าลายดอกกุหลาบอังกฤษมาใช้แต่งบ้าน ตัดเสื้อใส่ จนเป็นที่สังเกตจาก ผู้คนที่พบเห็น เธอเริ่มธุรกิจเล็กๆ จากคนที่เข้ามาขอ ซื้อสิ่งที่เธอทำเพื่อตัวเองและขยายธุรกิจจนมีสาขาไปทั่วอังกฤษและเมืองใหญ่ทั่วโลก สินค้าลายดอกไม้ ของ LAURA ASHLEY ถือเป็นลายผ้าที่แสนคลาสสิก แสนแพง และมีรสนิยมสำหรับคนมีเงินจริงๆ

Royal Albert China เป็นบริษัทผลิตเครื่องจานชามกระเบื้องชั้นนำของอังกฤษ ที่นำลายดอกกุหลาบอังกฤษมาเป็นลายอมตะที่ชื่อ Old Country Roses ขายไปทั่วโลกในราคาแสนแพง ที่มีแต่คนมีเงิน ที่จะมีสิทธิซื้อไปเก็บใส่ตู้โชว์ เพียงแค่ลายกุหลาบบน จานสีขาวขอบทองบนถ้วยกระเบื้องใส่น้ำชาใบเดียว ราคาขายเกือบสองพันบาทเข้าไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เศรษฐี แล้วใครจะกล้าซื้อมาเก็บซื้อมาใช้

สำหรับ PORTMEIRION เป็นบริษัทผู้ผลิตกระเบื้องของอังกฤษที่นำลาย Botanic Garden มาใช้อย่างได้ผล กระเบื้องของบริษัทนี้แสนจะหนักและ หนาเทอะทะ แต่ด้วยเสน่ห์ลายเส้นดอกไม้แบบBotanic กลับดึงดูดผู้คนได้อย่างน่าทึ่ง ปัจจุบันทั้งรูปแบบและลวดลายของสินค้ามีให้เลือกมากเสียจนความคลาสสิกแบบเก่าๆ แทบจะไม่มี แต่อาจเป็นเรื่องของการขยายตลาดในวงการผู้นิยมดอกไม้ให้แพร่ขยายมากขึ้นก็ได้

ไม่เพียงสินค้าที่นำดอกไม้เข้ามาเป็นส่วนประกอบเท่านั้นที่ขายได้ในอังกฤษ แม้ธุรกิจการชมสวน ชมดอกไม้ตามธรรมชาติหรือปลูกจัดแต่งขึ้นมาเอง ล้วนทำเงินสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำสุดแท้ แต่จะคิด event marketing ออกมา ดังนั้นเราจะเห็นโฆษณาเที่ยวสวนตามบ้านในอังกฤษมากกว่าประเทศใดในโลก

น่าแปลกที่เมื่อก่อนถ่านหินถือเป็นพลังงานเป็นสินค้าที่สำคัญของอังกฤษ จะมีใครคาดเดาได้ว่า ในที่สุดก็หมดยุคของถ่านหินที่แสนจะมัวซัวลงได้

พลังของดอกไม้ในอังกฤษจึงเป็นเรื่องน่าคิดว่า สิ่งที่เราเห็นภายนอกว่ามีความงามเป็นจุดเด่นเพียงอย่างเดียว แท้จริงแล้วถ้ามองลึกลงไปใต้พลังของความงามกลับทำเป็นธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินสามารถหล่อเลี้ยงชีวิต สร้างชีวิตที่มีเลือดเนื้อให้เติบโตเจริญ เป็นอังกฤษอยู่ได้ทุกวันนี้เหมือนกัน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.