"ศรีไทย"ซื้อคืนหุ้นบ.ในเครือลดความสับสน


ผู้จัดการรายวัน(2 กันยายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ศรีไทยซุปเปอร์แวร์เตรียมซื้อหุ้นบริษัทในเครือฯจาก "ศรีไทยรุ่งเรืองทรัพย์ฯ" จ้างที่ปรึกษาการเงิน ประเมินราคาหุ้น คาดว่าจะเสร็จภายในไตรมาสแรกปี 47 หวังลดความสับสนในโครง สร้างการถือหุ้น ยืนยันงานนี้ไม่ ต้องควักเงิน แต่ใช้วิธีแลกหุ้น/ล้างหนี้

นายปริญช์ ผลนิวาศ รองกรรมการผู้จัดการด้านการเงินและบริหารบริษัทศรีไทยซุปเปอร์ แวร์ จำกัด (มหาชน) (SITHAI) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯครั้งที่ 7/2546 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2546 อนุมัติให้ศึกษาการซื้อหุ้นสามัญของบริษัทในเครือฯจากบริษัทศรีไทย รุ่งเรืองทรัพย์ (1999) จำกัด โดย ให้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อ ศึกษาความเหมาะสมของราคาหุ้น หลังจากนั้นจะ เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

เนื่องจากโครงสร้างการถือหุ้นบริษัทในเครือ หลายแห่งค่อนข้างสับสน เพราะมีการถือหุ้นโดย SITHAI และโดยบริษัท ศรีไทยรุ่งเรืองทรัพย์ (1999) จำกัด ไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นโครงสร้างใน ช่วงที่ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ จึงไม่เหมาะสมกับสภาพปัจจุบันของบริษัทฯที่มีฐานะการเงินมั่นคงแล้ว และมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยบุคคลสัญชาติไทยเกินกว่า 50%

"ในช่วงปรับโครงสร้างหนี้ เจ้าหนี้ต่างชาติของ SITHAI แปลงหนี้เป็นทุน ทำให้กลายเป็นบริษัทต่างด้าว จึงได้มีการตั้งบริษัท ศรีไทยรุ่งเรือง ทรัพย์ฯขึ้นมาเพื่อถือครองที่ดินและเงินลงทุนในบริษัทร่วมทุน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการถือครองหุ้นและทรัพย์สิน รวมทั้ง ถ้าบริษัทฯถือหุ้น ใหญ่ในเครือฯเกิน 25% เวลาได้รับเงินปันผลจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ฯ แต่หาก ถือต่ำกว่า 25% จะต้องเสียภาษีเงินปันผลที่ได้รับ"

ปัจจุบัน SITHAI ได้ออกจากการฟื้นฟูกิจการแล้ว จึงไม่เห็นความจำเป็น เพราะที่ผ่านมา การถือหุ้นพร้อมกันทั้งสองบริษัท ทำให้โครง สร้างไม่ซับซ้อน โดยมูลค่าการซื้อหุ้นบริษัทในเครือฯประมาณ 100-120 ล้านบาท บริษัทฯตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จภายใน ไตรมาสแรกของปี 2547 เพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ

อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นครั้งนี้ SITHAI ไม่ จำเป็นต้องใช้ในรูปเม็ดเงินเนื่องจากศรีไทยรุ่งเรือง ทรัพย์ฯติดหนี้ SITHAI อยู่ จึงใช้วิธีแลกหุ้น ล้าง หนี้แทน ซึ่งเป็นการหักกลบลบหนี้ทางบัญชี โดย ไม่มีผลกระทบต่อการโครงสร้างการบริหารงาน

ปัจจุบันบริษัท ศรีไทยรุ่งเรืองทรัพย์ (1999) จำกัด ถือหุ้นอยู่ในบริษัท ศรีไทยโมลด์ส จำกัด จำนวน 219,820 หุ้น หรือ 22% ของหุ้นทั้งหมด บริษัท ศรีไทย มิยากาวา จำกัด จำนวน 611994 หุ้น หรือ 51% บริษัท ศรีไทย ชิน-โอซาก้า จำกัด 216,000 หุ้น หรือ 36% บริษัท ศรีไทย-อ๊อตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด 91,995 หุ้น หรือ 46%

บริษัท ศรีไทย พลาสเคม (ประเทศ ไทย) จำกัด 26,999 หุ้น หรือ 36 % บริษัท ไทย เอ็มเอฟซี จำกัด 120,000 หุ้น คิดเป็น 6% บริษัท ทาคาฮาชิ พลาสติก จำกัด จำนวน 35,997 หุ้น คิดเป็น 18% บริษัท ไทยทาคาฮาชิ พลาสติก จำกัด จำนวน 12,000 หุ้น คิดเป็น 6% และบริษัท ทาคาฮาชิ โคราช (1995) จำกัด จำนวน 15% หรือ 89,992 หุ้น

ร่วมทุนผลิตสินค้าพลาสติก

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติให้บริษัทฯลงทุนในบริษัทจัดตั้งใหม่ เพื่อผลิตสินค้าพลาสติกโดยการใช้เทคนิคการผลิตระบบเหวี่ยง (Rotational Moulding) ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่ง ในการผลิตชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่น ในการออกแบบผลิตและไม่ต้องการผลิตจำนวน มากในคราวเดียวกัน เช่น ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ ถังขยะ เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ ตลอดจนเครื่องเล่นสนามของเด็ก เป็นต้น ซึ่งจะรองรับการขยาย ตัวของอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปลายปี 2546

ปัจจุบัน SITHAI ผลิตชิ้นงานพลาสติกด้วย เทคโนโลยีการฉีด (injection) ซึ่งมีข้อจำกัดที่แม่พิมพ์ที่มีราคาสูง และเหมาะสมกับการผลิตจำนวนมากในคราวเดียว

โดย SITHAI ลงทุนในบริษัทที่จัดตั้งใหม่ที่ผลิตชิ้นงานด้วยเทคโนโลยีการขึ้นรูปแบบ Rotational Moulding มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 40 ล้านบาท SITHAI ถือหุ้นจำนวน 1,200,000 หุ้น หรือ 30% ของทุนจดทะเบียน หุ้นสามัญส่วนที่เหลือถือหุ้นโดยบริษัท ไทย เอ็มเอฟซี จำกัด คิด เป็น 40% และบุคคลธรรมดา 30%

ค้ำเงินกู้ให้เวียดไทย

นอกจากนี้ บริษัทฯเข้าค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ Vietthai Industrial Plastic Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า พลาสติกในเวียดนาม ในวงเงินไม่เกิน 100,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หลังจากบริษัทฯดังกล่าวยังไม่สามารถดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียน 500,000 เหรียญสหรัฐได้ เนื่องจากต้องได้รับการ อนุมัติจากทางการเวียดนามก่อน

SITHAI ถือหุ้นในบริษัทเวียดไทย 90% ของทุนจดทะเบียน เมื่อไม่สามารถใส่เงินเพิ่มทุน ได้ แต่เวียดไทย มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการซื้อสินค้าจากผู้จำหน่าย และเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตผ่านธนาคาร จึงเข้าไปค้ำประกันสินเชื่อให้แทน หลังจากเวียดไทยมีแนวโน้มยอด ขายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ราคาหุ้น SITHAI วานนี้ ปิดตลาดที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 60 สตางค์ เปลี่ยนแปลง 5.71% มูลค่าการซื้อขาย 176.58 ล้านบาท



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.