"ชิน โสภณพนิช หนังเหนียวกว่าที่คิด"


นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2531)



กลับสู่หน้าหลัก

ตอนที่ชิน โสภณพนิชต้องระเห็จไปอยู่ที่ฮ่องกงเมื่อปี 2501 นั้น ใครต่อใครก็นึกว่าชินคงจะต้องปักหลักอยู่ที่นั่นไปตลอด ทิ้งแบงก์กรุงเทพให้บุญชู โรจนเสถียรดูแล

สาเหตุที่ชินอยู่เมืองไทยไม่ได้ก็เพราะตอนนั้นผ้าขะม้าแดงกำลังแรงฤทธิ์ ธุรกิจของชินตอนนั้น ชิน โสภณพนิชมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับกลุ่มซอยราชครูอันมี จอมพลผิน ชุณหะวัณและพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์เป็นแกนนำ เส้นสายของกลุ่มนี้ล้วนมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการในกิจการของชิน โสภณพนิช เป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างผลประโยชน์ทางธุรกิจกับการปกป้องจากอำนาจทางการเมือง ปี 2500 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ทำรัฐประหารโค่นล้มจอมพล ป. พิบูลสงคราม แล้วก็ถอนรากถอนโคนกลุ่มซอยราชครูที่เป็นศัตรูทางการเมืองของตน อำนาจของสฤษดิ์ตอนนั้นล้นฟ้าขนาดชี้นกให้เป็นไม้และชี้ไม้ให้เป็นนกได้ ด้วยมาตรา 17 ที่จะสั่งให้ใครตายก็ได้ ชินจึงต้องไป การไปอยู่ที่ฮ่องกงของชินกลับเป็นผลดีอันใหญ่หลวงต่อธนาคารกรุงเทพในเวลาต่อมา เพราะชินไม่ได้อยู่เฉย ๆ กลับมองหาลู่ทางที่จะขยายการลงทุนของแบงก์กรุงเทพที่นี่ พร้อมทั้งใช้ฮ่องกงเป็นฐานในการทำธุรกิจกับต่างประเทศ

แล้วชินก็กลับมาหลังจากการตายของสฤษดิ์ในปี 2506

เมื่อกลางปี 2530 ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์หลาย ๆ ฉบับพร้อมใจกันลงประวัติของชินอย่างละเอียด ภายหลังข่าวการป่วยหนักของชินเผยออกมา ชินเข้าโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ตั้งแต่หลังตรุษจีนด้วยอาการที่เกิดจากเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบ นอกจากโรคหัวใจ ความดันและเบาหวานที่เป็นอยู่ก่อนบวกกับความชราภาพของคนวัยเกือบ 80 ชินต้องนอนห้องไอ.ซี.ยู ตลอด และต้องให้ออกซิเจนช่วยหายใจ ใคร ๆ ก็เป็นห่วงว่านายห้างชินจะไม่รอด พนักงานแบงก์กรุงเทพสำนักงานใหญ่บางส่วนวางมือจากงานประจำชั่วคราวเพื่อเตรียมพิธีการสำหรับชินเป็นครั้งสุดท้าย มีการติดต่อวัดเทพศิรินทร์เอาไว้แล้ว แต่แล้วก็มีการยกเลิกในเวลาต่อมา หนังสือรายสัปดาห์บางฉบับที่ลงประวัติของชินเป็นตอน ๆ ต่อเนื่องกันมาก็หยุดพิมพ์ต่อทั้ง ๆ ที่เรื่องยังไม่จบ

ชิน โสภณพนิช ได้รับการยกย่องว่าเป็นชาวจีนโพ้นทะเลที่ประสบความสำเร็จในทางธุรกิจมากที่สุดคนหนึ่ง เขาเกิดในครอบครัวจีนแต้จิ๋วที่ยากจน เมื่อเรียนจบชั้นประถมแล้ว ก็เดินทางไปเรียนต่อในโรงเรียนพาณิชย์ที่ประเทศจีน เขาผ่านการทำงานมาอย่างโชกโชนนับตั้งแต่เป็นกุ๊ก กรรมกรท่าเรือ เจ้าของร้านค้าวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารกรุงเทพในปี 2487 และเป็นผู้สร้างธนาคารแห่งนี้จนเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.