|
"ดีเซเว่น" ชี้ตลาดกาแฟกระป๋องวูบ ลุยคนเมืองทดแทนผู้ใช้แรงงานล่วง
ผู้จัดการรายวัน(5 กุมภาพันธ์ 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
ดีเซเว่น ระบุโรงงานปิดตัว ผู้ใช้แรงงานตกงาน กระทบตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม 9,000 ล้านบาท ไม่โต อัดฉีดกว่า 100 ล้านบาท พร้อมปั้นรสชาติใหม่ เจาะคอกาแฟคนเมืองชิงฐานลูกค้าเนสกาแฟ ทดแทนรายได้วูบ สิ้นปีโกยแชร์จาก 3-4% เป็น 5% กวาด 500 ล้านบาท
นายพิชญ ส่งศักดิ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยแอทลาส โกลบอล ฟูด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม ดีเซเว่น เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดในปีนี้ บริษัทมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนเมืองในเชิงรุก เพื่อทดแทนกับกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้แรงงานหรือสาวโรงงานที่ลดลง จากการปิดตัวของโรงงาน โดยพบว่าคนตกงานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน กระทั่งปัจจุบันกว่า 1 ล้านคน ส่งผลให้ตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มหดตัว 20-30% ในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา โดยปีที่ผ่านมาตลาดมูลค่า 8,500 - 9,000 ล้านบาท ไม่เติบโตและคาดว่าปีนี้ไม่เติบโตเช่นเดียวกัน
สำหรับงบการตลาดปีนี้ทุ่มกว่า 100 ล้านบาท โดยบริษัทมุ่งเน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์มากกว่าอะโบฟเดอะไลน์ และในเดือนพฤษภาคม นี้ เตรียมเปิดตัวกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มรสชาติใหม่ ขยายฐานลูกค้าคนเมืองเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันฐานลูกค้าหลักเป็นตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก มีด้วยกัน 2รสชาติ ได้แก่ โรบัสต้า สัดส่วนรายได้ 60% และเอ็กซ์ตร้าริช 40%
ล่าสุดดำเนินแคมเปญต่อเนื่อง "กาแฟกระป๋อง ดีเซเว่น หอม เข้ม สะกิดใจ" เป็นปีที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์การสร้างความสดใหม่ให้กับแบรนด์ เป็นการสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดกาแฟกระป๋องได้คึกคักกันทั้งปี นำร่องจัดกิจกรรม "ปฏิบัติการ D7 GIRLS SEARCH" ค้นหาสาวสวย มั่นใจ สไตล์ ดี เซเว่น อายุตั้งแต่ 18-24 ปี โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์กับป๋อ-ณัฐวุฒิ สะกิดใจ ซึ่งภาพยนตร์เริ่มออกอากาศเดือนเมษายน นี้
"ที่ผ่านมาฐานลูกค้าของดีเซเว่น เป็นกลุ่มคนเดินทางมากกว่ากลุ่มผู้ใช้แรงงาน โดยเป้าหมายการเปิดตัวกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนเมือง ช่วงชิงฐานลูกค้าของเนสกาแฟ เนื่องจากกลุ่มคนเมืองมีกำลังการซื้อ และไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน "
พร้อมกันนี้ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย จัดโปรโมชันเพื่อแลกสินค้าฟรี และสื่อ ณ จุดขาย ผ่านทางร้านค้า ยี่ปี๊ว ซาปั๊ว และตู้แช่ทั่วไป ในตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก เพื่อกระตุ้นให้สินค้าขายออกจากตู้แช่ได้ง่ายและเร็วขึ้น อีกทั้งยังมีทีมกิจกรรมลงพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อแจกสินค้าทดลองชิมให้กับผู้บริโภค และเพื่อกระจายสินค้าให้ครอบคลุมเตรียมเพิ่มตัวแทนจำหน่ายจาก 20-30 ราย เป็น 40 ราย โดยเฉพาะในส่วนภาคอีสานและภาคกลาง
นายพิชญ กล่าวว่า ส่วนแผนการแตกโปรดักส์ไลน์เครื่องดื่มชูกำลัง บริษัทเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด ด้วยสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยต่อการทำตลาด และตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่ไม่เติบโตมากนัก โดยบริษัทมุ่งเน้นการทำตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเป็นหลัก หลังจากปีที่ผ่านมา มีส่วนแบ่งตลาด 3-4% ต่ำกว่าเป้าที่ตั้ง 5%
สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าดีเซ่นมีส่วนแบ่ง 5% หรือมีรายได้ 500 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีที่ผ่านมา 300 ล้านบาท เติบโต 20-30% ส่วนปี 2555 มีส่วนแบ่ง 10% หรือรายได้ 1,500 ล้านบาท รั้งอันดับ 3 ของตลาด ส่วนเนสกาแฟ 20-25% และผู้นำตลาดเบอร์ดี้ 60-65%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|