ปี 2530 เป็นปีที่มารวยใช้ป้ายเอ็นพีและเอสพีเปลืองที่สุด ผลจากความสุร่ยสุร่ายอันนี้
ทำให้มารวยโดนอัดพอหอมปากหอมคอโทษฐานทำให้หุ้นตก เป็นการขัดผลประโยชน์ของนักเก็งกำไรบางคนในตลาดหุ้น
แต่ถ้ามารวยทำเป็นเหนียวเสียดายป้าย ป่านฉะนี้ก็คงถูกอัดจนน่วมอีกนั่นแหละฐานไม่ดูแลตลาดให้ดี
ตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2530 มีการซื้อขายกันอย่างคึกคักเพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหลักทรัพย์สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก นักลงทุนจึงแห่กันมาซื้อหุ้นแทน
ในจำนวนนี้ก็มีนักเก็งกำไรผสมโรงมาด้วยไม่น้อย ปริมาณการซื้อขายโดยเฉลี่ยที่เคยอยู่ในระดับ
100 กว่าล้านบาทต่อวันในปี 2529 พุ่งขึ้นเป็น 600-800 ล้านบาทต่อวันดัชนีราคาขึ้นจาก
170 จุดในปี 2529 เป็น 343 จุดในเดือนกรกฎาคม 2530 ความเป็นห่วงว่าตลาดจะพังเหมือนเมื่อปี
2522 ทำให้ทางตลาดหลักทรัพย์ต้องเข้ามาควบคุมอย่างใกล้ชิด เพราะดูแล้วราคาที่พุ่งสูงขึ้นไปเกิดจากการปั่นหุ้นมากกว่าความเป็นจริง
รัฐมนตรีคลังต้องออกมาเตือนนักเลงหุ้นทั้งหลายให้ระวังประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
ช่วงนี้มารวยต้องงัดเอาป้ายเอ็นพีและเอ็นเอสออกมาใช้อยู่หลายครั้ง เพื่อพักการซื้อขายหุ้นที่ราคาพุ่งขึ้นสูงแบบอธิบายไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร
และเป็นการเตือนนักเล่นหุ้นไปในตัว ทำให้ถูกด่าทั้งคนที่พูดและคนที่ใช้ป้ายว่าเป็นตัวการทำให้ตลาดซบเซา
ราคาและปริมาณการซื้อขายตกลงมาอยู่พักหนึ่งแล้วก็พุ่งขึ้นสูงอีก จนสร้างสถิติใหม่ให้กับตลาดนับแต่ก่อตั้งมาในปี
2518 ด้วยดัชนีราคาที่ 460 และมูลค่าการซื้อขาย 1,300 ล้านบาท เมื่อเดือนตุลาคม
2530 มารวยต้องออกมาเตือนเป็นระยะสลับกับยกป้ายเอ็นพี
แล้วสถานการณ์ก็พลิกกลับ เมื่อตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุด ราคาหุ้นตกกราวรูดผลกระทบส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงตลาดหุ้นในโตเกียว
ฮ่องกงจนมาถึงเมืองไทย ดัชนีราคาลดลงถึง 36 จุดในวันเดียวกัน ทำลายสถิติอีกเหมือนกัน
หลังจากนั้นก็มีแต่ทรงกับทรุด ดัชนีราคาตกมาอยู่ที่ระดับ 200 กว่ามูลค่าการซื้อขายอยู่ในระดับ
300-400 ล้านบาทต่อวัน
มารวยก็เลยต้องเก็บป้าย แล้วหันมาหาทางปลุกตลาดให้คึกคัก ด้วยการผลักดันให้มีการตั้งกองทุนรับซื้อหุ้นในหมู่โบรคเกอร์
และชักชวนนักลงทุนต่างชาติมาลงทุน พร้อมกับมาตรการที่จะปลุกชีพตลาดหุ้น
มารวยเข้ามาเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เมื่อเดือนกันยายน 2528 ปัจจุบันอายุ
57 ปี มารวยเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน ค่อนข้างจะประนีประนอม แต่ถ้าเห็นว่าเรื่องใดจะทำให้เกิดปัญหาแล้ว
มารวยก็ตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาด