|
Eyewitness: American Economy in Collapse (no.3)
โดย
มานิตา เค.เบนท์ลี่ย์
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กุมภาพันธ์ 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
รัฐบาลโอบามาเริ่มต้นงาน "Remaking America" วันแรกด้วยการระงับการขึ้นเงินเดือนชั่วคราวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูง ประกาศสร้างรัฐบาลมือสะอาด วางกฎการล็อบบี้ ยกหูคุยกับผู้นำตะวันออกกลาง และร่วมพิธีสวดมนต์ก่อนเริ่มงานวันแรก
หลังเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนและการเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกาคนที่ 44 อย่างเป็นทางการของบารัค โอบามา ในคืนวันที่ 20 มกราคม 2009 เช้าวันรุ่งขึ้น ประธานาธิบดีคนใหม่ของ สหรัฐฯ พร้อมด้วยสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มิเชล โอบามา รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ภริยา จิล ไบเดน รัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน และอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เริ่มต้นการทำงานอย่างเป็นทางการ ด้วยการเข้าร่วมพิธีสวดมนต์แห่งชาติครั้งที่ 56 ณ วิหารแห่งชาติในมหานครวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้นประธานาธิบดีโอบามาเริ่มปฏิบัติงานที่ทำเนียบประธานาธิบดี โดยมีภารกิจดังนี้ ประกาศระงับการขึ้นเงินเดือนข้าราชการอาวุโสในทำเนียบที่มีรายได้มากกว่า 100,000 เหรียญต่อปี จำนวนข้าราชการอาวุโสเหล่านี้มีอยู่ประมาณ 100 คน ถือเป็นมาตรการเบื้องต้นที่ใช้ปฏิบัติเป็นการชั่วคราวในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจนี้
เขากล่าวกับเหล่าข้าราชการว่า "ทุกครอบครัวกำลังอยู่ในภาวะต้องรัดเข็มขัด ที่วอชิงตันก็ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน" ถือเป็น มาตรการเบื้องต้นที่สามารถปฏิบัติใช้ได้ทันที ก่อนที่เขาและทีมเศรษฐกิจจะประกาศ แผนฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยละเอียดที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนั้นเกี่ยวกับกระบวนการล็อบบี้ อันเป็นที่มาของการคอร์รัปชั่น เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาที่เขาใช้ในการรณรงค์หาเสียงและเพื่อเป็นการสร้างความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือให้แก่คณะรัฐบาลโอบามา เขาประกาศกฎระเบียบจำกัดขอบเขตกระบวนการล็อบบี้ โดยห้ามข้าราชการในรัฐบาลของเขาที่ลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับตำแหน่งใหม่ในภาคเอกชน กลับเข้ามาล็อบบี้ คนในรัฐบาลของเขาอย่างน้อยเป็นเวลา 2 ปี ร่วมทั้งห้ามเหล่าล็อบบี้ยิสต์ที่เข้ามาแล้วในช่วงรัฐบาลเก่าและยังคงอยู่ร่วมทีมรัฐบาลปัจจุบัน ดำเนินการวิ่งเต้นใดๆ และห้ามข้าราชการในรัฐบาลของเขารับของขวัญจาก บรรดาล็อบบี้ยิสต์ ไม่ว่าจะเนื่องด้วยโอกาสใดๆ ก็ตาม
โอบามาตระหนักดีว่า แม้กฎระเบียบ เกี่ยวกับกระบวนการล็อบบี้นี้จะเคร่งครัดมากกว่ารัฐบาลก่อนๆ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะกู้ ระบบที่ล้มเหลวในวอชิงตันได้ทันที เขาจึงต้องออกกฎสำหรับทีมงานในรัฐบาลของเขา ด้วย ซึ่งข้อตกลงในการทำงานร่วมกันที่โปร่งใส ต้องประกอบด้วยกันทั้งสองฝ่ายทั้งผู้รับและผู้ให้ (สินบน) อย่างน้อยประเทศได้เริ่มต้นเข้าสู่ยุคของความซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นความหวังและความต้องการของเขาที่จะสร้างรัฐบาลให้เป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจในสายตาของประชาชนชาวอเมริกัน
ทั้งนี้ ในกรณีของข้อมูลทางราชการที่ถูกปกปิดมาตลอดในช่วงรัฐบาลเก่า หลังจากเหตุการณ์ 11 กันยายน ค.ศ.2001 โอบามามีความเห็นว่าควรเปิดเผยให้มากขึ้น ภายใต้กฎเสรีภาพแห่งข้อมูลข่าวสารที่สาธารณชนควรมีสิทธิในการรับรู้ผ่านตัวแทนสมาชิกรัฐสภา ซึ่งทางทีมงานที่เกี่ยวข้องภายใต้การนำของ Eric Holder รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะเป็นผู้ศึกษาความเป็นไปได้และเสนอร่างปฏิบัติการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน เป็นคู่มือ "open government" ภายใน 120 วัน "ในเมืองนี้มีความลับมากเกินไปเป็นเวลานาน... ยุคของการปกปิดได้จบไปแล้ว" โอบามากล่าวถึงอำนาจบริหารที่เป็นอภิสิทธิ์ ในอดีตที่อดีตรองประธานาธิบดี Dick Cheney เคยใช้ในการไม่อนุญาตให้เปิดเผย ข้อมูลเอกสารต่อคณะสมาชิกรัฐสภา ซึ่งถือ ว่าเป็นการละเมิดกฎหมายได้จบสิ้นลงแล้ว
ภารกิจสำคัญอีกอย่างที่โอบามาได้ปฏิบัติในวันแรกของการเริ่มต้นรัฐบาล คือ การโทรศัพท์หาผู้นำตะวันออกกลาง 4 ประเทศ ได้แก่ ประธานาธิบดี Hosni Mubarack แห่งอียิปต์ นายกรัฐมนตรี Ehud Olmet แห่งอิสราเอล กษัตริย์ Abdulah แห่งจอร์แดน และ Mahmoud Abbas ผู้นำแห่งปาเลสไตน์ ต่อกรณีฉนวนกาซา เพื่อเป็นการแสดงว่ารัฐบาลเขาให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดและต้องการหาทางสร้างความสงบให้แก่ภูมิภาคโดยเร็ว เป็นการเริ่มต้นกระบวนการแสวงหาสันติภาพระหว่างอาหรับและอิสราเอลอีกครั้ง
โอบามาพยายามกู้ภาพพจน์ของประเทศในสายตาชาวโลก ด้วยการประกาศ กระบวนการปิดค่ายกักกันเชลยศึก ณ Guantanamo Bay ในคิวบา เขาประกาศ ยับยั้งการสอบสวนผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ยังคงค้างคาอยู่เป็นเวลา 120 วัน ขณะที่เขาและทีมจะทำการตรวจสอบกระบวนการจัดการกับเหล่าผู้ต้องสงสัยอย่างละเอียด โดยคาดว่าค่ายกักกันเชลยศึก นี้จะถูกปิดภายใน 1 ปีนับจากนี้ นอกจากนี้ เขายังแต่งตั้งอดีตวุฒิสมาชิก George Mitchell เข้ารับตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง และอดีตทูต Richard Holbrook เข้ารับตำแหน่งทูตพิเศษสหรัฐฯประจำปากีสถานและอินเดีย
ภารกิจที่เกิดขึ้น ณ วันแรกของการทำงานของรัฐบาลโอบามา เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นวัฒนธรรมการทำงานใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เข้าสู่ยุคของความโปร่งใส มีจรรยาบรรณและสอดคล้องกับสถานการณ์ เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ต้องประหยัด เพื่อเป็นการกอบกู้ความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมา
"เราต้องไม่ลืมว่า เราอยู่ที่นี่ในฐานะผู้รับใช้ประชาชน" เป็นอีกคำกล่าวหนึ่งที่ได้ยินบ่อยครั้งจากปากของประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ นับจากวันนี้ยังมีภารกิจอีกมากมายที่ผู้นำคนใหม่ต้องเร่งสะสาง...ต้องติดตามกันต่อไป
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|