"อมรเทพ ดีโรจนวงศ์ มือขายตรงเปลี่ยนทางเดิน"


นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2531)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อเอ่ยถึงอมรเทพ ดีโรจนวงศ์ สิ่งที่คู่กันมาก็คือเอวอน นับแต่นี้ อมรเทพกับเอวอนก็เหลือเป็นเพียงความทรงจำของกันและกันเท่านั้น เมื่ออมรเทพได้ลาออกจากเอวอนเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา (31 ธันวาคม 2530)

อมรเทพมีประสบการณ์ด้านการตลาดอย่างครบกระบวนยุทธ ตั้งแต่การเป็นเซลส์แมน ผู้บริหารงานขาย โฆษณา งานวิจัยตลาดจนมาเป็นผู้กุมทิศทางใหญ่ของเอวอนไทย หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชาแล้วก็ไปเรียนต่อทางด้านการบริหารและการตลาดที่มหาวิทยาลัยยังส์ทาวน์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ พร้อมกับทำงานเป็นเซลส์แมนที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งจนเรียนจบก็เข้าทำงานกับบริษัทโคคา-โคล่าเอ็กซ์ปอร์ตที่สหรัฐฯ ในตำแหน่งพนักงานฝ่ายบริหารการขายและการตลาดเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่จะกลับมารับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายโฆษณาภูมิภาคของโคคา-โคล่า ประเทศไทยเป็นเวลา 3 ปี ปี 2512 เขาย้ายไปร่วมงานกับบริษัทริชาร์ดสัน เมอร์เรลล์ (ประเทศไทย) ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดจนถึงปี 2516 ก่อนที่จะหันมาประกอบธุรกิจส่วนตัวอยู่ปีหนึ่ง ที่ทำงานสุดท้ายของอมรเทพก่อนจะมาอยู่ที่เอวอนคือ บริษัท คอนสตัคชั่น แมททีเรียล มาร์เก็ตติ้ง ในฐานะหัวหน้าฝ่ายวิจัยการตลาดเป็นเวลา 2 ปี

อมรเทพเริ่มงานกับเอวอนในปี 2520 ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย และได้เลื่อนเป็นกรรมการผู้จัดการในปี 2523 นับจนถึงวันที่เขาลาออกก็เป็นเวลา 10 ปีเต็ม เป็นเวลาที่ไม่น้อยเลย แต่ถ้าเทียบเอวอนเมื่อ 10 ปีที่แล่ว ที่ยอดขายเป็นศูนย์กับเอวอนในวันนี้ที่มีส่วนแบ่งตลาด 1 ใน 4 ของตลาดเครื่องสำอางของไทย ทำยอดขายต่อปีเกือบ 1,000 ล้านบาท เฉพาะปีนี้ยอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 20% มีกำไรเกือบ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 40% ก็ต้องยกให้อมรเทพเป็นนักการตลาดมือเซียนคนหนึ่ง

เอวอนเข้ามาเมืองไทยเมื่อปี 2520 ในตอนนั้นวิธีขายแบบไดเร็คเซลส์ยังไม่แพร่หลายในเมืองไทย มีสินค้าไม่กี่อย่างที่ใช้วิธีขายแบบนี้เช่น หนังสือเอ็นไซโคลปีเดียโพลาเป็นเครื่องสำอางรายแรกที่นำระบบขายตรงมาใช้ แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จักกันมากนักเพราะโพลาวางตำแหน่งสินค้าในระดับสูง เอวอนเป็นผู้ที่ทำให้ระบบนี้โดดเด่นขึ้นมาและเป็นที่ยอมรับว่าใช้ได้สำหรับเมืองไทย ความสำเร็จของเอวอนนั้นส่วนหนึ่งมาจากชื่อเสียงของบริษัทแม่ในสหรัฐฯ ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของโลก มีการแลกเปลี่ยนบทเรียน ความสำเร็จและล้มเหลวระหว่างเครือข่ายเหล่านี้อยู่เสมอ ส่วนที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือฝีมือของอมรเทพที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทแม่ให้ดูแลกิจการในไทย

อมรเทพให้เหตุผลในการลาออกจากเอวอนว่า ต้องการออกไปประกอบธุรกิจส่วนตัวเพราะรู้สึกจำเจกับงานที่ทำมา 10 ปี ธุรกิจส่วนตัวนั้นคือ การตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางด้านไดเร็คเซลส์ และเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย อมรเทพบอกว่าเขาอาจจะไปบริหารงานให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งก็ได้ เพราะขณะนี้มีอยู่หลายแห่งที่ทาบทามมา



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.