|
ประหยัดกว่า 10 ล้าน
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กุมภาพันธ์ 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
ยุทธศาสตร์ในการทำธุรกิจของบริษัทในปีนี้หนึ่งในหัวข้อหลักใหญ่ที่ถึงกับต้องกากบาทเอาไว้เพื่อบริหารงานอย่างระมัดระวังรอบคอบก็คือ นโยบายลดต้นทุนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทอยู่รอดได้ในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน
กลุ่มบริษัทสามารถเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีนโยบายอย่างชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายลดต้นทุนและได้ปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมมาอย่างน้อย 2 ปี
ศิริชัย รัศมีจันทร์ รองประธานกรรมการบริหารที่ร่วมงานกับบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ดูแลการเงินและบุคลากรของบริษัทมาร่วม 14 ปีมีหน้าที่โดยตรงเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายและอุดรอยรั่วให้กับองค์กร
ศิริชัยได้คิดค้นวิธีการควบคุมค่าใช้จ่ายเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาจนทำให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายทั่วไปได้ปีละ 10 ล้านบาท
เขาเริ่มจากตั้งคณะกรรมการทำงานขึ้นมา 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มดูแลค่าไฟ-น้ำ 2. กลุ่มค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน ท่องเที่ยว 3. กลุ่มค่าใช้จ่ายโทรศัพท์ 4. กลุ่มอุปกรณ์สำนักงาน
คณะกรรมการทั้งหมดจะต้องมีการประชุมอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งเพื่อทำแผนปฏิบัติการ ซึ่งศิริชัยยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ว่าการเปิดไฟในห้องที่ใช้แสงสว่างมากเกินไปสามารถถอดหลอดไฟออกบางส่วน หรือค่ายานพาหนะจะมีการกำหนดราคาอย่างชัดเจนด้วยการตรวจสอบการวิ่งของรถประจำทาง อาทิ ค่าแท็กซี่ เดินทางจากสำนักงานไปสนามบินราคาเท่าไร
บริษัทมีค่าใช้จ่ายทั่วไปประมาณปีละ 100 ล้านบาทแต่หลัง จากที่ใช้นโยบายควบคุมดูแลทำให้ลดค่าใช้จ่ายปีละ 10%
นอกจากเรื่องประหยัดค่าใช้จ่ายทั่วไปแล้วค่าใช้จ่ายทางด้านบุคลากร ค่าใช้จ่ายทำงานล่วงเวลา (โอที) ค่าคอมมิชชั่น
ศิริชัยได้มอบหมายให้หัวหน้าดูแลอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะการทำงานล่วงเวลาเพราะบางคนไม่ได้ทำงานอย่างจริงจัง ซึ่งบางคนเรียกว่า "โอทีรอแฟน"
หรือเกี่ยวกับค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายอย่างสมเหตุสมผล เพราะ บางครั้งการขายสินค้าบริษัทมีนโยบายจัดรายการส่งเสริมการขาย จึงทำให้สินค้าขายได้ง่าย ซึ่งอาจไม่ใช่การทำงานของพนักงานทั้งหมดจึงทำให้ต้องมีการพิจารณาค่าคอมมิชชั่นกันใหม่
จากการดูแลการทำงานอย่างรอบคอบมากขึ้น ทำให้สามารถลดต้นทุนในส่วนของบุคลากรได้ปีละ 5 ล้านบาท
การควบคุมค่าใช้จ่ายเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารงาน แต่สิ่งสำคัญมากที่สุดคือการประเมินการทำงานของพนักงาน ซึ่งมีการทำมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีกว่าที่ผ่านมาในตอนนั้นเรียกว่า "รื้อระบบบุคลากร" และได้ว่าจ้างที่ปรึกษาจัดโครงสร้างระบบใหม่
ศิริชัยบอกว่าเขาได้บอกกับพนักงานมาโดยตลอดเกี่ยวกับการประเมินการทำงานที่จะมีอย่างต่อเนื่องและในปีนี้จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เหมาะสม
เขาจะเริ่มตรวจสอบจำนวนพนักงานในแต่ละแผนก ตรวจ สอบการทำงานซ้ำซ้อนหรือไม่ กระตุ้นให้พนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะปัจจุบันบริษัทมีพนักงานประจำ 2,300 คนและมีพนักงานที่จ้างในรูปแบบของสัญญาอีก 2,200 คน
แม้แต่ในส่วนของผู้บริหารกลุ่มสามารถในช่วงระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมาต้องมีการรายงานความคืบหน้าของโครงการหรือรายได้ที่ได้ตั้งเป้า และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงแผนธุรกิจเพื่อให้รายได้เป็นไปตามเป้าหมาย
นโยบายที่เข้มงวดของกลุ่มสามารถที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นเพราะว่าบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมายตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาที่ตั้งเป้าจะต้องมีรายได้ถึง 3 หมื่นล้านบาทต่อปี และล่าสุดจากรายงานตัวเลขรายได้ 9 เดือน ปี 2551 มีรายได้เพียง 11,960 ล้านบาท
และปีนี้บริษัทถึงกับลดเป้าหมายรายได้ปี 2552 เหลือเพียง 23,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บอกว่า เป็นตัวเลขที่ไม่ต้องการสร้างความกดดันให้กับผู้บริหารแม้ว่ากลุ่มผู้บริหารได้ตั้งเป้ารายได้สูงกว่านี้ก็ตาม
ศิริชัย หัวหน้าใหญ่ด้านการเงินยังเอ่ยปากบอกว่า ตัวเลขรายได้ปีนี้เป็น the most realistic
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|