"สอนเอ็มบีเอก็ต้องเดินสาย"


นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2531)



กลับสู่หน้าหลัก

จุดขายของโปรแกรมเอ็มบีเอที่ 9 สถาบัน ใน 14 โปรแกรมที่เปิดสอนในประเทศ คือ วิทยากรหรือที่เรียกกันว่าอาจารย์

หลายคนคงจะคิดว่าคนที่เดินสายสอนหลายแห่งคงจะเป็น อาจารย์พิเศษ เพราะว่ามีประสบการณ์มาก ๆ สถาบันต่าง ๆ อยากเชิญไปสอนเพื่อถ่ายทอดวิทยายุทธทางธุรกิจแก่นักศึกษาที่หลายคนพิสมัยอยากเป็นผู้ประกอบการ

แต่จริง ๆ แล้วอาจารย์ที่เป็น "ยอดนิยม" ของโครงการเอ็มบีเอทั้งหลายกลับไม่ใช่บรรดา "มืออาชีพ" กลับเป็นอาจารย์ประจำ และไม่ใช่อาจารย์บจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ หรือนิด้าอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่อาจารย์จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีหรือเศรษฐศาสตร์ แต่กลับเป็นอาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ดร. พิชิต สุขเจริญพงษ์คืออาจารย์คนนั้น (นับจากจำนวนแห่งที่สอนมิใช่จำนวนชั่วโมงมาสอน)

พิชิต จบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ (เกียรตินิยม) จากจุฬาฯ และสำเร็จปริญญาโทและดอกเตอร์จากเอไอทีทางด้าน INDUSTRIAL MANAGEMENT ไม่เคยจบเมืองนอกด้วยซ้ำ แต่เขาเดินสายสอนถึง 8 แห่ง ตั้งแต่

เอ็มบีเอ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เอ็มบีเอ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

เอ็มบีเอ นิด้า

เอ็มบีเอ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

มินิเอ็มบีเอ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เอ็มเอ็มพี จุฬาฯ และมินิเอ็มบีเอ เกษตร มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตก็ทาบทามให้เขาไปสอน และหอการค้าก็ขอให้เขาไปเป็นอาจารย์พิเศษ

สิ่งที่น่าสนใจคือว่าทำไมเขาจึงเป็นที่นิยมเอามาก ๆ?

"ผมว่าอาจจะเป็นเพราะวิธีการสอนของผมก็ได้มั้งที่เป็นจุดเด่น" พิชิต สุขเจริญพงษ์พูดถึงจุดเด่นหรือ "จุดขาย" ของเขาตามแบบฉบับธุรกิจมิผิดเพี้ยนในวันที่เขาต้องอบรมเรื่องคอมพิวเตอร์ให้กับพนักงานกสิกรไทย

"ดร. พิชิต สอนเก่ง เข้าใจง่าย พูดง่าย แกสอนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ๆ ได้ และเด็ก ๆ ตามแกทัน" นักเรียนมินิเอ็มบีเอรุ่น 18 ของธรรมศาสตร์ให้ความเห็น

ดูวิชาที่เขาสอนก็พอจะบ่งบอกถึงความเป็นที่นิยมได้

วิชาเกี่ยวกับเอ็มบีเอโดยทั่วไปจะแบ่งเป็นวิชาทางด้านการเงิน การตลาด การบริหารงานบุคคล และการผลิต ที่สำคัญคือวิชาที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่กำลังทวีบทบาทอย่างสูงในปัจจุบัน

วิชาที่หาคนสอนได้ยากก็คือวิชาด้านการผลิตและคอมพิวเตอร์ "ที่จริงไม่ใช่ว่าหาคนสอนได้ยากหรอก แต่ว่าหาคนถ่ายทอดเก่ง ๆ ยาก" คนวงการศึกษาเล่า

พิชิตเข้ามาเสริมในช่องว่างตรงนี้ วิชาที่เขาสอนแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม ด้านการผลิต คอมพิวเตอร์และวิทยาการจัดการ

นอกจากนี้เขายังเป็นที่ปรึกษาอีกสามบริษัทล็อกซเล่ย์ โตชิบ้า และบูติคนิวซิตี้ "ผมเป็นที่ปรึกษาทางด้านการวางระบบงาน" พิชิตบอกกับ "ผู้จัดการ"

วันนี้พิชิตต้องเดินสายสอนอย่างหนัก เพราะการขาดแคลนบุคลากรด้านนี้ และต้องต่อสู้กับการนินทาของคนนอกที่จับตาดูอยู่ว่าจะเป็นการผูกขาดการสอนและจะคงรักษาคุณภาพไว้ได้มากแค่ไหน

"ผมว่าคุณภาพมันก็ขึ้นอยู่กับคนที่มาเรียนด้วยนะ ผมสอนที่ มธ. เป็นหลักเลย RESOURCE เขาดี" พิชิตว่า

ภารกิจอันหนักหน่วงของเขาเป็นการพัฒนาบุคลากรทางธุรกิจ วันนี้เขายังคงไม่ย่อท้อต่อบทบาทด้านนี้ "ผมรักการเป็นครู เวลาสอนผมทุ่มเทมาก" เขาโฆษณาสรรพคุณตัวเอง

แปลว่าเขาจะเดินสายหนักยิ่งขึ้นหรือเปล่า??



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.