ทอท.สะกดธรรมาภิบาลไม่เป็นลั่นจะเดินหน้าจ่ายโบนัสบอร์ด


ผู้จัดการรายวัน(30 มกราคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

ทอท.ตะแบงจะจ่ายโบนัสกรรมการคนละ 1.3 ล้านบาทตามมติผู้ถือหุ้น อ้างทำตามหลักกฎหมายมหาชน บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่เกี่ยวกับมติ ครม. ไม่รอคำสั่งศาลให้หยุดหลังผู้ถือหุ้นรายย่อยยื่นศาลปกครอง ขู่อีกกรรมการมีสิทธิ์ฟ้องเช่นกันหากไม่จ่าย ขณะที่สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยทำหนังสือถึงคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติ-ตลาดหลักทรัพย์ ร้องเรียนซ้ำ ด้าน “บินไทย” รับจ่ายโบนัส พนง. อ้างทำงานทุ่มเทไม่ใช่กำไร แต่ชะลอการจ่ายไปจนกว่าสถานะการเงินของบริษัทจะดีขึ้น

นางสุภาภรณ์ บุรพกุศลศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานแผนงานและการเงิน) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 อนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 2.58 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่12 ก.พ. 52 เนื่องจากปี 2551 ทอท.มีกำไรสุทธิ 7,321.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 571.80 %

ส่วนกรณีที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินโบนัสกรรมการประจำปี 2551 ในอัตราคนละ 1.3 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 17.164 ล้านบาท และขณะนี้มีผู้ถือหุ้นรายย่อยยื่นศาลปกครองขอคุ้มครองให้ระงับการดำเนินการจ่ายเงินโบนัสดังกล่าว โดยระบุว่า เป็นการดำเนินการที่ขัดมติคณะรัฐมนตรีและพ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจนั้น นางสุภาภรณ์กล่าวว่า กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ชี้แจงชัดเจนแล้วว่า การจ่ายเงินโบนัสให้กรรมการนั้นทอท.ยึดตามหลักกฎหมายมหาชน เพราะทอท.เป็นรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และได้รับการยกเว้นจากมติครม.ว่าการจ่ายโบนัสให้กรรมการขึ้นอยู่กับที่ประชุมผู้ถือหุ้น

ต่างจากรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่หากมีผลกำไรจากการดำเนินงานและได้รับการประเมินผลคะแนนจากทริสแล้ว การพิจารณาจ่ายโบนัสให้กรรมการอยู่ที่กระทรวงการคลัง ซึ่งก็มีระเบียบกำหนดอยู่ว่าคะแนนเท่าไรจะได้รับโบนัสเท่าไร นอกจากนี้ ในส่วนของพ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจนั้นก็ไม่ได้ระบุรายละเอียดจำนวนผลตอบแทนกรรมการ

นางสุภาภรณ์ กล่าวว่า ในความเป็นบริษัทมหาชนทอท.จะต้องปฎิบัติตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนการที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยยื่นศาลปกครองขอคุ้มครองให้ระงับการจ่ายโบนัสกรรมการนั้น ขณะนี้ทอท.ก็ยังไม่ได้รับคำสั่งใดๆ จากศาลดังนั้นทอท.ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป เพราะหากมีการหยุดดำเนินการในการจ่ายโบนัส ทอท.ก็เสี่ยงที่จะถูกกรรมการฟ้องเช่นกัน ซึ่งทอท.ได้พิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบแล้ว

โดยตามข้อเท็จจริงจากผลการดำเนินการของทอท.ในปี 2549 ซึ่งเป็นปีที่เปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินโบนัสกรรมการทอท.ชุดที่มีนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธานคนละ 1.2 ล้านบาท ส่วนปี 50 ผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินโบนัสกรรมการทอท.ชุดที่มีพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นประธานคนละ 2 แสนบาท เนื่องจาก ทอท.มีกำไรลดลงเหลือประมาณ 1,000 ล้านบาทเท่านั้นเนื่องจากมีปัญหาข้อพิพาทกับบริษัทบริษัทคิงเพาเวอร์ จำกัด

ไม่ปฎิเสธกำไรมาจากเงินคดีคิงเพาเวอร์

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (29 ม.ค.) ทอท.ได้ชี้แจงว่า ปีงบประมาณ 2551 คณะกรรมการทอท.ต้องทำงานอย่างหนัก ทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของสนามบินสุวรรณภูมิ การพิจารณาโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 เพื่อรองรับการเติบโตของเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องรวมถึงแก้ไขปัญหาในเงื่อนไขต่างๆ ทำให้ข้อพิพาทระหว่าง ทอท. กับบริษัทเอกชนสองราย (คิง เพาเวอร์ ) ซึ่งได้รับสัมปทานให้ประกอบการโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ จนทั้ง 2 รายยอมถอนฟ้องคดี ทอท. ทั้งหมด เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2551 และวันที่ 27 พ.ย.2551

ทอท. จึงมีการบันทึกรายได้ค่าทดแทนตามคำสั่งศาลจากสัญญาจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและกิจการเชิงพาณิชย์ จำนวน 8,331.53 ล้านบาทเป็นผลจากเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2551 และวันที่ 25 เม.ย. 2551 ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาให้ ทอท. สามารถรับเงินค่าทดแทนจากบริษัทเอกชน 2 รายได้ โดยให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของค่าเสียหาย หากต่อไปภายหน้าศาลมีคำพิพากษาว่าสัญญาไม่มีผูกพัน ทอท. จึงได้บันทึกการรับรู้รายได้ของบริษัทเอกชน 2 ราย ไว้ในหมวด “รายได้อื่น” ในงบการเงินประจำปี 2551 ตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่งศาล ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานบัญชี และได้รับการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว

ในขณะที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยทอท.ที่ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองระงับการจ่ายเงินโบนัสกรรมการทอท.คนละ 1.3 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่า จะดำเนินการคัดค้านเรื่องการจ่ายโบนัสกรรมการทอท.จนถึงที่สุด เพราะถือว่าเป็นการปฎิบัติที่ไม่ถูกต้องในการที่กรรมการซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวแทนจากกระทรวงการคลังซึ่งถือหุ้นใหญ่ในทอท. เสนอขอขึ้นโบนัสให้ตัวเองกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งที่ไม่ได้ทำผลงานให้ทอท. เลย

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อย ได้แสดงให้เห็นว่า หากตัดรายได้เหล่านี้ออกไปฐานะของทอท.ที่แท้จริงอาจไม่มีกำไร หรือ ขาดทุน มิหนำซ้ำการไกล่เกลี่ยคคีไม่ใช่การชี้ขาดว่าใครถูกหรือผิดหากอนาคตคดีถูกรื้อฟื้นมาใหม่ การจ่ายโบนัสก็จะมีปัญหา และ คำถามสำคัญถึงจริยธรรม โดยวานนี้ (29ม.ค.)สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยยังได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติ ร้องเรียนกรณีที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT อนุมัติจ่ายโบนัสให้กับกรรมการ ผู้บริหาร ว่า ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน มีความเหมาะสมทางด้านจริยธรรมและธรรมาภิบาลหรือไม่ เนื่องจากในที่ประชุมผู้ถือหุ้น มีผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่เห็นด้วย แต่ไม่สามารถจะคัดค้านได้ เพราะคะแนนเสียงไม่มากพอจะคัดค้านเสียงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้

ยื่นของบชดเชยปัญหาเสียงสุวรรณภูมิ1.1หมื่นล้าน.

วานนี้ (29 ม.ค.) ทอท.ยังได้มอบเงินค่าชดเชยเพื่อการปรับปรุงอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แก่วัดลาดกระบัง พื้นที่ NEF 30-40 เพื่อปรับปรุงอาคาร และติดตั้งครื่องปรับอากาศ เป็นเงิน 16,830,515.80 บาท และร.ต.ผ่อน ธูปผึ้ง และนางฉวี ธูปผึ้ง เจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ NEF มากกว่า 40 เป็นเงิน 445,984.77 บาท โดยมีนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหามลภาวะทางเสียงโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นประธานมอบ

นายสุรชัย กล่าวว่า ได้เสนอเรื่องการของบประมาณชดเชยปัญหาเสียงจำนวน 11,233 ล้านบาทต่อนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมเพื่อเสนอขออนุมัติคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งหากได้รับงบประมาณคาดว่าทอท.จะสามารถดำเนินการจ่ายชดเชยให้ผู้เดือดร้อนได้เดือนละ 700 หลัง นอกจากนี้ ยังได้มีการทำบ้านตัวอย่างที่ปรับปรุงให้สามารถป้องกันเสียงรบกวนได้ในส่วนของอาคารที่ได้รับผลกระทบ NEF 30-40 ผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจะเร่งจ้างที่ปรึกษาสำรวจประเมินราคาในการปรับปรุงเพื่อชดเชยกับผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

สุวรรณภูมิตื่นอบรมคุมฝูงชนในกรณีฉุกเฉิน

วานนี้ (29 ม.ค. ) นาวาอากาศโท ประทีป วิจิตรโท รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ) ได้เปิดโครงการฝึกอบรมการควบคุมฝูงชน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมี พล.ต.ต. ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และ พ.ต.อ. สัมพันธ์ เบญจศิริรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมโดยน.ท.ประทีป กล่าวว่า สุวรรณภูมิร่วมมือกับตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสุวรรณภูมิและเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรราชาเทวะและเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 300 คน เพื่อให้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักสูตรการควบคุมฝูงชนในเบื้องต้น และเรียนรู้หลักวิธีการเตรียมความพร้อมป้องกันเหตุการณ์ชุมนุมต่างๆ ตลอดจนการฝึกภาคสนามเพื่อใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมกลุ่มคนที่มีจำนวนมาก

ที่ผ่านมา สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสถานที่เป้าหมายของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต้องการเรียกร้องปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาทางด้านการเมือง สังคม หรือปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง

บินไทยไม่สนฐานะง่อนแง่นแจกโบนัส

วันเดียวกัน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีกระแสข่าวสภาพคล่องและฐานะการเงินไม่ดีนัก แต่บริษัทจะดำเนินการจ่ายเงินโบนัส

พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สำนักเลขานุการบริษัทฯ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการพิจารณาจ่ายเงินรางวัลประจําปีให้พนักงาน ว่า เป็นผลจากการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบาย (Executive meeting Management: EMM) เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่สรุปว่า ควรพิจารณาเรื่องเงินรางวัลประจำปี (โบนัส) ของพนักงานที่มีผลงานดีทำงานเพื่อบริษัทด้วยความทุ่มเทในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งความหมายของเงินโบนัสในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงว่าพนักงานจะต้องได้รับจากผลประกอบการของบริษัทที่มีกำไรเท่านั้นแต่เป็นการพิจารณาจากผลการทำงานเป็นหลัก

ส่วนการจ่ายโบนัสให้พนักงานในขณะนี้ ไม่สามารถทำได้เพราะผลประกอบการของบริษัทประสบกับการขาดทุน จึงให้ชะลอการจ่ายออกไปจนกว่าบริษัทจะมีสถานะการเงินที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นหลักการปกติการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ ที่จะจ่ายเงินรางวัลประจำปีให้พนักงานจากผลงานที่ทำ ซึ่งบางบริษัทอาจจะต้องกู้เงินมาจ่ายเงินรางวัลประจำปีให้พนักงานก็ได้

สาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการของบริษัทขาดทุนในปี 2551 เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งราคาน้ำมัน ปัญหาการเมือง เหตุการณ์ปิดสนามบิน และสุดท้ายวิกฤติการเงินโลก ไม่ได้เกิดจากการทำงานของพนักงาน แต่ผลที่เกิดขึ้นคือ รายได้ของบริษัทหายไป โดยเฉพาะเหตุการณ์ปิดสนามบิน ซึ่งฝ่ายบริหารเห็นว่า ควรมีรางวัลตอบแทนให้พนักงานที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อประเทศ ซึ่งในหลักการไม่สามารถประเมินเป็นรายบุคคลได้จึงพิจารณาให้รางวัลประจำปีแก่พนักงานทุกคน

พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า จะนำข้อสรุปเรื่องการเงินรางวัลประจำปีดังกล่าวรายงานที่ประชุมบอร์ดในวันที่ 11 ก.พ.นี้ด้วย ซึ่งตามขั้นตอน ในอนาคตบริษัทมีสถานะการเงินที่ดีขึ้นก็จะต้องมีการพิจารณารายละเอียดอีกครั้งหนึ่งและต้องเสนอบอร์ดพิจารณาอีกและขออนุมัติที่ประชุมผุ้ถือหุ้น

“ฝ่ายบริหารเห็นว่าหลักการควรจ่ายเงินรางวัลให้พนักงาน แต่จะจ่ายอย่างไร จำนวนเท่าไร ต้องดูสถานการณ์ด้านการเงินของบริษัทด้วย ตราบใดที่ยังไม่มีเงินก็ยังไม่จ่าย”พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ กล่าว

นายรัช ตันตนันตา ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.การบินไทย กล่าวชี้แจงกรณีที่มีข่าวคณะกรรมการบริษัทมีมติให้จ่ายโบนัสแก่พนักงานขั้นต่ำ 6.5 เดือน และสูงสุด 7 เดือน ว่า บริษัทฯ ได้แจ้งต่อพนักงานทราบว่ากําลังพิจารณาจ่ายเงินรางวัลประจําปี สําหรับการทํางานของพนักงานตลอดปี 2551 แต่ยังไม่กำหนดจำนวน และเวลาในการจ่ายเงิน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุมัติของคณะกรรมการบริษัท

พร้อมกันนี้ บริษัทได้มีการพิจารณาการขึ้นเงินเดือนให้พนักงานตามมติคณะรัฐมนตรี โดยกําหนดหลักเกณฑ์การเลื่อนขั้นเงินเดือนตามคู่มือการกํากับการดําเนินงานของรัฐวิสาหกิจ ด้านกฎหมายและระเบียบรัฐวิสาหกิจ สํานักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังว่า รัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน วงเงินสําหรับการเลื่อนขั้นประจําปี กําหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 6.5 ของจำนวนเงินเดือนค่าจ้างของพนักงานและลูกจ้างที่มีสิทธิเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี

ปธ.บอร์ดฯโบ้ยยังไม่เคยหารือจ่ายโบนัส

ด้านนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทยกล่าวว่า ที่ผ่านมาบอร์ดฯยังไม่เคยหารือ หรือพิจารณาเรื่องการจ่ายโบนัสให้พนักงานข่าวที่ออกมาเป็นการตัดสินใจของผู้บริหารเท่านั้น ซึ่งการจะจ่ายหรือไม่ สุดท้ายจะต้องผ่านการพิจารณาของบอร์ดฯด้วย โดยที่ผ่านมาบอร์ดฯได้สั่งการให้ฝ่ายบริหารทำแผนเพื่อปรับปรุงและแก้ปัญหาให้บริษัทดีขึ้น

“ประธานบอร์ด คงจะให้ความเห็นเรื่องจ่ายโบนัสไม่ได้ เนื่องจากต้องให้ที่ประชุมบอร์ดทั้งหมดพิจารณาก่อน ว่าจะมีแนวทางอย่างไร อย่างไรก็ตามในวันนี้ (30 ม.คง) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยจะเข้าหารือด้วย ซึ่งที่ผ่านมาสหภาพฯต้องการเข้าพบ ทั้งประธานบอร์ด และรมว.คมนาคม แต่ก็ยังไม่ได้คุยกัน โดยจะเป็นการคุยกันแบบภายใน” นายสุรชัย กล่าว

สำหรับกรณีที่ระบุว่า การบินไทยจะถูกปฏิเสธในการดำเนินขอกู้เงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศ นั้น นายสุรชัย กล่าวว่า เชื่อว่าเป็นการสร้างแรงกดดันจากทางสถาบันการเงินที่ต้องการให้การบินไทยเกิดการตื่นตัว ในการปรับปรุง การบริหารงานให้มีคุณภาพมากขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.