|
CRCเท400ล.พัฒนาโลจิสติกส์ ดึงเทคโนโลยีลดต้นทุน15-20%
ผู้จัดการรายวัน(23 มกราคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
เซ็นทรัล รีเทล ทุ่มกว่า 400 ล้านบาท ชูเทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพระบบโลจิสติกส์ รับมือปริมาณสินค้าซับพลายเออร์อื้อ จากการแห่ทำโปรโมชันกระตุ้นยอดขาย พร้อมศึกษาผุดศูนย์ย่อย 5 ปี ชงภาครัฐ-เอกชน ร่วมมือพัฒนาระบบโลจิสติกส์ต่างประเทศ จ่อคิวผุดที่แดนมังกร ตั้งเป้าปีนี้ลดต้นทุน 15-20%
นายดนัย คาลัสซี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายซัพพลายเชน บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัททุ่มงบกว่า 400ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 300ล้านบาท พัฒนาระบบซัพพลายเชนทั้งหมดของบริษัท เพื่อรองรับปริมาณสินค้าจากซับพลายเออร์ในปีนี้ซึ่งจะมีเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีมากนัก ทำให้ต้องเพิ่มความถี่ในการทำโปรโมชัน เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย ระบบการโลจิสติกส์จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมาก เพื่อช่วยในการลดต้นทุน
“แม้ว่าราคาน้ำมันในปีที่ผ่านมาจะลดลงแล้วก็ตาม แต่เมื่อเทียบระหว่างราคาน้ำมันในปี 2551 ก็ยังสูงว่าปี 2550 ประมาณ 5บาท ต่อลิตร ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นเช่นกัน และหลายฝ่ายประมาณการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบจะหยุดอยู่ที่ 60-80เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจุบันกว่า 40เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เรามองว่าในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในปีนี้และจำเป็นต้องใช้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน “
สำหรับศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ ที่ บางนา จากการใช้งบ 1,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการการเปิดสาขาใหม่เซ็นทรัล พัทยา และจ.ชลบุรี และขยายตัวของธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล อาทิ เซ็นทรัล โรบินสัน บีทูเอส ออฟฟิศ ดีโป ได้ถึง 5ปี ตลอดจนช่วยระบบการส่งขนสินค้าจากภาคตะวันออกจะเกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น บริษัทได้นำระบบ Radio Frequency Identification (RFI) หรือระบบการสื่อสารไร้สายในระดับขั้นสูงขึ้น จากปีที่ผ่านมาเป็นระบบพื้นฐาน ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ 20-30%
พร้อมกันนี้ยังได้พัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้า การพัฒนาระบบรับ-ส่ง ข้อมูลทางอิเล็คทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งถ่ายข้อมูล ซึ่งคาดว่าจะเริ่มระบบปลายเดือนมกราคม ประมาณ 100ราย รวมถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการทดลองระบบ และคาดว่าจะปฏิบัติงานได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ ควบคู่กับการให้ความรู้แก่ซับพลายเออร์ 80ราย
นอกจากนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา สร้างศูนย์การจัดการคลังสินค้าย่อยขึ้นมา ซึ่งอยู่ในแผนระยะยาว 5 ปี โดยเฉพาะภาคใต้ เนื่องจากการขนส่งสินค้าทางภาคใต้ที่เพิ่มขึ้น 20% จากการทำโปรโมชันกระตุ้นยอดขายของซับพลายเออร์ โดยปัจจุบันบริษัทยังมีพื้นที่อีก 2แห่ง พร้อมจะสร้างศูนย์กระจายสินค้า อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ของบริษัท ในปีนี้ตั้งเป้าลดต้นทุน 15-20% จากปีที่ผ่านมา ลดต้นทุน 15%
นายดนัย กล่าวว่า ในอนาคตยังวางแผนเปิดศูนย์กระจายสินค้าในจีน ที่ ปักกิ่ง เพราะสินค้าของเครือเซ็นทรัล นำเข้าจากจีน 50% เพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้า และประการสำคัญ คือ ลดต้นทุนจากการ ที่ เซ็นทรัล เปิดห้างสรรพสินค้า ที่ หางโจว ในปี 2553 ทำให้ต้องใช้หลังร้านเป็นคลังสินค้า ต้นทุนจึงสูงขึ้นโดยปริยาย แต่โครงการดังกล่าวจะเกิดจากขึ้นได้ ภาครัฐกับเอกชนต้องร่วมมือกันพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ซึ่งหากบริษัทสามารถสร้างศูนย์ดังกล่าว มีผลเอื้อให้การขยายสาขาเซ็นทรัลทางจีนตอนใต้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|