หุ้นแบงก์วานนี้พุ่ง กว่า 5% หลังผู้ว่าฯแบงก์ชาติมีแนวคิด โอนหนี้-ทรัพย์สินเน่าของแบงก์ที่เหลือ
ขณะนี้กว่า 8 แสนล้านบาท ออกจาก ระบบแบงก์ไทยให้หมดกลางปีหน้า แถมการแก้ปัญหาทีพีไอ-ทีพีไอโพลีนฉลุย
ส่งผลกระทิงเดินหน้าต่อ พุ่งแตะ 530 จุด ด้วยมูลค่า ซื้อขายรวมเกือบ 3 หมื่นล้านบาท
ต่างชาติยังเดินหน้าซื้อสุทธิวานนี้อีก 560.48 ล้านบาท แนวโน้มหุ้นไทยยังผันผวนเดินหน้าขึ้น
หุ้น 5 กลุ่มยังน่าสน คาดปีหน้าดัชนีเดินหน้ามาก กว่า 650 จุด ขณะที่ช่วงประชุมเอเปก
ในไทย ต.ค. หากมีเหตุการณ์รุนแรง 500 จุดเอาอยู่
กระทิงยังเดินหน้าขวิดหุ้นไทยวานนี้ (21 ส.ค.) ดัชนีตลาดฯ บวกอีก 9.11 จุด เพิ่ม
1.75% เป็น 530.21 จุด มูลค่าซื้อขายรวม 29,723.12 ล้าน บาท หุ้น 3 แบงก์ กรุงเทพ
(BBL) กสิกรไทย (KBANK) กรุงศรีอยุธยา (BAY) ติด 10 อันดับมูลค่าซื้อขายสูงสุด
ขณะที่หุ้นแบงก์ทหารไทย (TMB) ติดอันดับปริมาณหุ้นสูงสุด 10 อันดับแรก ด้านหุ้นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย
(TPI) เดินหน้าต่อ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องวานนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนนี้ถึงวานนี้
รวม 14 วันทำการ ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,948.27 ล้านบาท
นางสาวอาภาพร แสวงพรรค ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส
วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่าหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวขึ้นแรง ส่งผลภาพรวมตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นดีเช่นกัน
สาเหตุที่นักลงทุนสนใจกลุ่มนี้ เนื่องจากมีข่าวธนาคารแห่งประเทศไทยจะให้หน่วยงานทางการซื้อ
NPL และ NPA ธนาคารพาณิชย์ไทย ทั้งระบบเพิ่มอีกรอบ หวังแก้ปัญหาหนี้สินทรัพย์เน่าเบ็ดเสร็จ
จึงเป็นปัจจัยสำคัญทำให้นักลงทุนมองว่า หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะได้รับผลดี จากการที่ทางการปลดภาระหนี้-สินทรัพย์เสียสำเร็จ
กลุ่มแบงก์จะเหลือแต่สินทรัพย์ดี เป็นผลให้ ธนาคารในไทยกลับมาปล่อยสินเชื่อได้เต็มที่อีกรอบ
ซึ่งจะทำให้กำไรกลุ่มแบงก์ดีขึ้น โดยไม่ต้องกังวลปัญหาหนี้-สินทรัพย์เน่าท่วมระบบ
ดังที่เป็นอยู่ขณะนี้
นอกจากนี้กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากการที่ทางการจะมีการลงทุนในโครงการต่างๆเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทำให้ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
หุ้นผันผวนขาขึ้น
แนวโน้มตลาดหุ้นจะยังคงผันผวนต่อเนื่อง แต่ ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น เธอเชื่อว่าปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง
และกำไรบริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์พิ่มขึ้น ดัชนีจะยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
ปี 2547 มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือ 650 จุด
บริษัทมองว่า ช่วงการประชุมเอเปกในไทย ต.ค. ไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง หากดัชนีอ่อนตัวช่วงนั้น
ไม่น่าต่ำกว่า 500 จุด
นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการฝ่าย วิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง
(ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดฯ ต่างประเทศแถบเอเชีย
ข่าวปรับโครงสร้างหนี้ทีพีไอสัปดาห์หน้า จะสามารถแก้ปัญหาได้ จึงทำให้ภาพรวมตลาดฯ
ดีขึ้นได้
หุ้น 5 กลุ่มยังน่าสน
หุ้นที่จะยังคงปรับตัวขึ้น ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ วัสดุก่อสร้าง พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ยานยนต์ และพลังงาน แนวต้านสำคัญ 525-536 จุด
ด้านนายเกียรติก้อง เดโช นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ซิกโก้ กล่าวว่าระยะยาว
แนวโน้ม ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ กำไรบริษัทจดทะเบียนปี
2547 คาดจะเพิ่มขึ้น ประมาณ 21.2% สัดส่วนราคาหุ้นต่อกำไร (พีอี) 8 เท่า หากมีหุ้นรัฐวิสาหกิจจดทะเบียนในตลาดหลัก-
ทรัพย์ จะทำให้ขนาดตลาดหุ้นไทยใหญ่ขึ้นได้