"ทีทีแอนด์ที" เล็งสร้างรายได้ใหม่ต่อยอดธุรกิจ หลังสถานการณ์บริการโทรศัพท์พื้นฐานไม่สามารถสร้างรายได้จุนเจือบริษัทได้
ประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจรุนแรงยิ่งขึ้น มุ่งสู่การบริการในลักษณะมัลติเซอร์วิส
เน้นเรื่องของโทเทิ่ลโซลูชั่น พาร์ตเนอร์ ล่าสุดคว้างานการบินไทย บริการสื่อสาร
ข้อมูลรองรับการรับ-ส่ง ข้อมูลภายในองค์กร และรองรับการสำรองตั๋วโดยสารทั่วประเทศ
นายพิสิฐ ลี้อาธรรม กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่าทางบริษัทได้ร่วมลงนามในข้อตกลงการ ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมกับบริษัท
การบินไทย จำกัด(มหาชน) ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการใช้บริการสื่อสารข้อมูล เพื่อรองรับการ
รับ-ส่งข้อมูลภายในองค์กร และรองรับระบบการสำรองบัตรโดยสารเครื่องบินไทยจากทราเวลเอเยนต์ทั่วประเทศ
เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยแบ่งเป็นการให้บริการสื่อสารข้อมูล ส่วนภูมิภาคประเภท Frame
Relay จำนวน 39 แห่ง และประเภท X.25 จำนวน 220 แห่ง
ทั้งนี้ โครงการระหว่างทีทีแอนด์ทีกับการบินไทยถือเป็นการพัฒนารูปแบบการให้บริการของทีทีแอนด์ทีที่เปลี่ยนจากการให้บริการทางด้าน
เสียงเพียงอย่างเดียวไปสู่การให้บริการในรูปแบบของมัลติเซอร์วิสมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการให้บริการในลักษณะที่เรียกว่าโทเทิ่ลโซลูชั่น
พาร์ตเนอร์ ที่จะเข้าไปให้บริการลูกค้าในลักษณะครบวงจร โดยการอาศัยโครงข่ายโทรคมนาคมเคเบิลใยแก้วที่วางไว้ทั่วประเทศมา
ทำให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจสูงสุด
"เรากำลังผันตัวเองจากการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานธรรมดาไปสู่การให้บริการครบวงจร
โดยอาศัยความพร้อมทางด้านเครือข่ายเทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อให้บริการเสริมที่หลากหลาย
ทั้งบริการด้านข้อมูล วงจรเช่า ไปจนถึงการให้บริการในลักษณะของมัลติมีเดียอีกด้วย
และยังจะช่วยลูกค้าดูแลการเลือกใช้ระบบ และเครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคมที่เหมาะสม
เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า"
นายพิสิฐ กล่าวว่าการที่ทีทีแอนด์ทีมีโอกาสได้รับงานของการบินไทยถือเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การให้บริการทางด้านอื่นๆ
ของการบินไทยในอนาคต เนื่องจากที่ผ่านมาทางบริษัทมี การให้บริการด้านอื่นๆ โดยเฉพาะกับเรื่องของโทรศัพท์พื้นฐานอยู่แล้ว
และยังถือเป็นโครงการ ที่จะเป็นตัวอย่างในการพัฒนาบริการในลักษณะเช่นนี้ให้กับองค์กรอื่นๆ
ด้วย
ที่สำคัญการบริการสื่อสารข้อมูลให้กับการบินไทยยังเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของทีทีแอนด์ที
เนื่องจากในการทำงานกับการบินไทยใน เรื่องการจองตั๋วโดยสารและการสำรองที่นั่งทั่วประเทศจะต้องไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น
ทางบริษัทยืนยันว่าจะไม่มีการล่มของระบบอย่างแน่นอน ทั้งนี้ทางการบินไทยจะเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องการติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารและค่าเช่ารายเดือนตามที่ระบุไว้ในสัญญา
"จากการที่เรามุ่งเน้นไปที่การให้บริการลักษณะนี้ จะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ว่าจะเป็นกิจการ
ขนาดเล็กหรือใหญ่ และประชาชนทั่วไปได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวหน้าอย่างมีคุณภาพและมีความพึงพอใจจากการใช้บริการของทีทีแอนด์ที"
ขณะนี้ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทจึงมีความชัดเจนที่จะก้าวไปในการบริการมัลติเซอร์วิส
ซึ่งจะเป็นรายได้หลักของบริษัทในอนาคต ที่ผ่านมารายได้ส่วนใหญ่จะมาจากบริการโทรศัพท์พื้นฐานทางด้านเสียง
แต่ในปีนี้สัดส่วนได้เปลี่ยนแปลงไป ปัจจุบันสัดส่วนระหว่างรายได้วอยซ์และเดต้าน่าจะอยู่ที่ประมาณ
55:45 แต่ในสิ้นปีนี้ตัวเลขน่าจะเป็น 50:50 ช่วยให้บริษัทมีรายได้และสามารถทำกำไรได้
"ส่วนการคาดการณ์ในปีหน้าและอนาคตรายได้จากส่วนมัลติมีเดียจะขึ้นมามีสัดส่วนที่เหนือกว่าอย่างแน่นอน
เพราะในอนาคตเราจะมีบริการอย่างเรื่องของบรอดแบนด์ และบริการคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ
ที่สามารถสร้างรายได้จำนวนมากได้"
นอกจากนี้ ทีทีแอนด์ทียังให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าเดิมที่เป็นลูกค้าปัจจุบันมากกว่า
การที่จะหาลูกค้าใหม่เข้าสู่ธุรกิจ ซึ่งทางบริษัทมองว่าการให้การดูแลลูกค้าที่ดีจะมีส่วนสำคัญในการ
พัฒนาความต้องการของลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น และนำไปสู่การให้บริการที่หลากหลายของทีทีแอนด์ทีในอนาคตได้