"พารากอน"งบหมื่นล.พื้นที่บาน5แสนตร.ม.


ผู้จัดการรายวัน(20 สิงหาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

สยามพารากอน เผยมูลค่าโครงการขณะนี้พุ่งหมื่นล้านบาท จากเดิมที่ประมาณการไว้ 9,000 ล้านบาท ขณะที่พื้นที่โครงการเพิ่มจาก 4.5 แสน ตร.ม.เป็น 5 แสนตร.ม. ชี้เพื่อสร้างโครงการที่ดีที่สุดระดับโลก ล่าสุดดึงบริษัท โอเชียนนิส ออสเตรเลีย กรุ๊ป เข้ามาลงทุนโครงการ "สยาม โอเชียนเวิลด์" หวังเป็นเวิลด์คลาส โอเชียนเนเรียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในเอเชีย ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท บริเวณชั้นใต้ดินสยามพารากอน เผยมีพื้นที่เด็ดอีกหลายโครงการที่ยังไม่เปิดตัวในช่วงนี้ แต่จะเน้นโครงการที่สอดรับกับนโยบายภาครัฐ เช่น เมืองแฟชั่น หรือโครงการสุดยอดสินค้าโอทอป

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการและผู้บริหารสูงสุด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่าโครงการสยามพารากอนเปิดตัวสู่สาธารณชนมาได้ 1 ปีเต็ม ปัจจุบันได้เริ่มทยอยเปิดตัวโครงการหลักที่จะเกิดขึ้นในโครง การสยามพารากอนไปเป็นจำนวนมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า พื้นที่ 50,000 ตร.ม., เดอะ พารากอน พาร์ทเมนท์ สโตร์ ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พื้นที่ 70,000 ตาราเมตร, ซูเปอร์มาร์เกต ขนาด 8,000 ตารางเมตร, ศูนย์รวมความบันเทิงขนาดใหญ่ บนพื้นที่ 60,000 ตร.ม. เช่น เดอะ พารากอน ซีเนโพลิส ที่กลุ่มเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เข้ามาบริหารโครงการ, เดอะสยามโอเปร่า พื้นที่ 8,000 ตร.ม.ที่ได้กลุ่ม เนเชอรัลปาร์ค เข้ามาบริหาร, ศูนย์ออกกำลังกาย 4,000 ตร.ม. และเอนเตอร์เทนเมนต์เซ็นเตอร์ เป็นต้น

การเปิดตัวพื้นที่โครงการในแต่ละส่วนได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นจำนวนมากที่สนใจเข้ามาเปิดร้านในสยามพารากอน นอกจากนี้ยังมีโครงการใหม่ๆที่เกิดขึ้นตามมาอีกหลายโครงการ ที่เกิดจากแนวคิดในช่วงหลังจากวางโครงการในเบื้องต้นแล้ว เช่น โครงการสยาม โอเชียนเวิลด์ บนพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม. ที่จะอยู่บริเวณชั้นใต้ ดินของโครงการ โดยก่อสร้างเป็น 2 ชั้น ด้วยงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้บริษัทตั้งใจจะให้เป็นเวิลด์คลาส โอเชียนเนเรียมที่ยิ่งใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และมีเป้าหมายจะให้เป็นโอเชียนเนเรียมระดับโลกที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เข้ามาเยี่ยมชม ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายการ เดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยได้บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการทำโอเชียนเนเรียมที่มีชื่อเสียง คือ บริษัทโอเชียนนิส ออสเตรเลีย กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาและบริหารโลกใต้น้ำเข้ามาลงทุนและบริหาร โครงการนี้ เป็นระยะเวลา 25 ปี

สำหรับโลกใต้น้ำสยามโอเชียนเวิลด์ เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นอะควาเรียมในกลางมหานครกรุงเทพฯ แห่งแรกของประเทศไทย ที่ใหญ่และพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของโลก ที่จะเหนือกว่าอะควาเรียมในออสเตรเลีย สิงคโปร์ หรือฮ่องกง ด้วยพื้นที่ขนาด 2 ชั้น มีระดับน้ำลึกกว่า 10 เมตร ภายในประกอบด้วย แท็งก์น้ำอคริลิคใสขนาดยักษ์ ที่แข็งแรงทนทาน มีความหนา 21 ซม. สามารถรับแรงน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสัตว์น้ำนานาชนิดกว่า 30,000 ชีวิต และมีสายพันธุ์ต่างๆกว่า 400 สปีชีส์

ผู้เข้าชมจะได้พบกับโซนต่างๆที่แบ่งออกเป็น 10 โซน ได้แก่ โซนโอเชียน แฟนตาซี ที่มีแมงกะพรุนหลากชนิดที่ส่งประกายแสงเรืองรองรอบตัว ปูยักษ์ขนาดใหญ่, โซนโอเชียน การ์เดนท์ ที่จะมี ดอกไม้ทะเลสวยงาม, เมน อะควาเรียม ที่ผู้เข้าชมจะดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลด้วยอุโมงค์อคริลิคใสขนาดใหญ่ ที่มองเห็นได้ถึง 270 องศา, ฟิชโบว์ วิว ใต้ทะเลในแนวกว้างถึง 360 องศา และเส้นผ่าศูนย์กลาง 10.5 เมตร ที่จะเห็นปลาทะเลนับพันตัวในน้ำลึกถึง 4.5 เมตร เป็นต้น

"สำหรับอัตราการเข้าชมสยาม โอเชียนนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้คิดค่าตั๋วว่าจะเป็นราคาเท่าใดแต่จะพยายามทำให้เป็นราคาที่สมเหตุสมผลที่สุด ซึ่งในต่างประเทศคิดค่าเข้าชมประมาณ 600 บาท แต่ สำหรับที่สยามพารากอนจะต่ำกว่า 500 บาท ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับผู้เข้าชมด้วย ซึ่งมีหลายระดับราคา เช่น ราคาสำหรับนักเรียน กรุ๊ปทัวร์ ครอบครัว หรือ สมาชิก เป็นต้น โดยจะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ 8.00-24.00 น. ส่วนโครงการคาดว่าจะเปิดบริการพร้อมๆ กับการเปิดตัวของสยามพารากอน" นางชฎาทิพ กล่าว

นางชฎาทิพ กล่าวว่าโครงการนี้ส่งผลให้มูลค่า โครงการของสยามพารากอน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประมาณการไว้ 9,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท และคาดว่าในอนาคตจะมีโครงการใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดตัวอีกหลายโครงการ รวมทั้งโครง การโรงแรมระดับ 6 ดาว ที่เชื่อว่ามูลค่าโครงการจะต้องมากกว่า 10,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ขนาดพื้นที่โครงการก็เพิ่มขึ้น จากการเปิดตัวโครงการเมื่อปีก่อน ที่โครงการสยามพารากอนมีพื้นที่ 400,000 ตร.ม. ต่อมาเพิ่มเป็น 450,000 ตารางเมตร และจนถึงขณะนี้พื้นที่โครง การเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 ตร.ม.แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากโครงการสยาม โอเชียนเวิลด์ ที่ทำให้พื้นที่โครงการเพิ่มขึ้น 10,000 ตร.ม. นอกจากนี้บริษัทยังได้ขยายขนาดของพื้นที่จอดรถเพื่อให้จำนวนรถ หมุนเวียนในโครงการได้ 25,000 คันต่อวัน

ทางด้านนางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช รองประธานกรรมการ บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ยังสามารถเพิ่มสิ่งที่ดีที่สุดและที่จะเป็นประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ของประเทศเข้าไปได้อีก ซึ่งขณะนี้ยังมีพื้นที่อีกหลายส่วนที่บริษัทยังไม่ได้เปิดตัวโครงการ และเป็นโครงการที่มีความสำคัญ เช่น พื้นที่ที่เตรียมไว้สำหรับจัดงานนิทรรศการ งานแสดงสินค้า หรืองานประชุมสัมมนาระดับนานาชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของประเทศ ที่ต้องการสนับสนุนการท่องเที่ยวของไทย ด้วยการจับกลุ่มลูก ค้าประเภทประชุมสัมมนา ระดับนานาชาติให้เพิ่มขึ้น เพื่อดึงเงินตราเข้าประเทศ และยังมีพื้นที่ส่วนอื่นๆ ที่รอไว้สำหรับทำโครงการที่จะสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล เช่น โครงการสุดยอดสินค้าโอทอป ซึ่งสยามพารากอน ก็มีพื้นที่เพื่อรองรับสินค้าโอทอป หรือการจัดทำโครงการศูนย์กลางเมืองแฟชั่น ก็ได้เตรียมพื้นที่ในอาคารสยาม ทาวเวอร์ เพื่อสร้างเป็นโรงเรียนแฟชั่นโดยเฉพาะ รวมทั้งการจัดพื้นที่ เพื่อจัดนิทรรศการแฟชั่น ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์โดย เฉพาะด้วย

"การสรรหาสิ่งที่ดีทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้สยาม พารากอน เป็นโครงการศูนย์การค้า ความบันเทิง และแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเอเชียและของโลก ที่จะสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศไทยและคนไทยทุกคน" นางสาวศุภลักษณ์ กล่าว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.