สหธนาคาร


นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2532)



กลับสู่หน้าหลัก

ศึกชิงแบงก์สหธนาคารที่ยืดเยื้อกันมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน จนถึงวันนี้มีทีท่าว่าจะต้องยืดออกไปอีก เมื่อกลุ่มชลวิจารณ์พลิกสถานการณ์จากการตกเป็นฝ่ายรับขึ้นมายันการรุกของกลุ่มพันธมิตรสามฝ่ายคือ "เพ็ญชาติ-อัศวินวิจิตร-เอบีซี" ไว้ได้

หมากที่ทำให้กลุ่มพันธมิตรสามฝ่ายต้องตกเป็นฝ่ายแก้เกมทั้ง ๆ ที่เตรียมรุกฆาตเปิดประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญเพื่อเปลี่ยนแปลงผู้บริหารแล้วก็คือการที่ปิยะบุตร ชลวิจารณ์ กรรมการผู้จัดการสหธนาคารตัดสิทธิธนาคารอาหรับหรือ เอบีซี ไม่ให้ซื้อหุ้นใหญ่ 500,000 หุ้นของหุ้นเพิ่มทุน 2 ล้านหุ้นที่คณะกรรมการบริหารสหธนาคารนำออกขายเมื่อเดือนมิถุนายน

ปิยะบุตรอ้างว่า เอบีซีซึ่งถือหุ้นผ่านตัวแทนนิติบุคคล 5 รายและบุคคลธรรมดาอีก 6 ราย รวมกันเกิน 25% ทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2522 มาตรา 5 ทวิ ที่กำหนดไว้ว่า บุคคลใดจะถือหุ้นธนาคารพาณิชย์เกินร้อยละ 5 ของจำนวหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดไม่ได้

การถูกตัดสิทธิ์ในการซื้อหุ้นใหม่จะทำให้สัดส่วนหุ้นในสหธนาคารของเอบีซี ลดลง และอาจทำให้แผนการไล่ชลวิจารณ์ออกจากสหธนาคารของกลุ่มพันธมิตรยากลำบากยิ่งขึ้น

ผู้ถือหุ้น 11 รายที่ปิยะบุตรอ้างว่าถือหุ้นแทนเอบีซี จึงยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งให้ระงับการขายหุ้นใหม่ 2 ล้านหุ้นไว้ก่อน และให้สหธนาคารคืนสิทธิในการซื้อหุ้นใหม่คือให้กับผู้ซื้อหุ้นทั้ง 11 ราย

คำร้องข้อแรกศาลปฏิเสธเพราะเป็นการทำให้สิทธิของผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ เสียหาย แต่เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ถือหุ้นทั้ง 11 รายตามคำร้องข้อที่ 2 ศาลจึงสั่งให้กันหุ้นที่ทั้ง 11 ราย มีสิทธิที่จะซื้อไว้ก่อนไม่ให้นำออกขาย จนกว่าคดีจะสิ้นสุด

แผนรุกไล่ชลวิจารณ์ของกลุ่มพันธมิตรจึงต้องหยุดขะงักลง และฝ่ายชลวิจารณ์ก็มีเวลาเตรียมรับมือหาทางออกนานขึ้น จนกว่าศาลจะตัดสินวา ผู้ถือหุ้นทั้ง 11 รายเป็นตัวแทนของเอบีซี ในการถือหุ้นสหธนาคารหรือไม่ กรณีนี้เป็นครั้งแรกที่มีการยกเอามาตรา 5 ทวิ ขึ้นมาสู้กันในศาล คำตัดสินของศาลในคดีจะเป็นบรรทัดฐานที่ถูกนำมาใช้เป็นเทคนิคอันหนึ่งของการต่อสู้แย่งชิงอำนาจบริหารธนาคารอื่นๆ ถ้าจะมีในวันข้างหน้า

และถ้าคำตัดสินออกมาว่า ผู้ถือหุ้นทั้ง 11 รายถือเป็นผู้ถือหุ้นตัวแทนของเอบีซี ทำให้เอบีซี ถือหุ้นเกิน 5% แล้ว จะพิจารณาการถือหุ้นของตระกูลใหญ่ ๆ ในธนาคารอื่น ๆ ที่ล้วนเกินกว่า 5% อย่างไร

ข้อความตอนท้ายของมาตรา 5 ระบุไว้ว่าถ้ามีผู้ถือหุ้นคนใดถือหุ้นเกินกว่า 5% ส่วนที่เกินจาก 5% ผู้ถือหุ้นดังกล่าวไม่มีสิทธิรับเงินปันผลและไม่สามารถออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นได้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.