ลงทุนยังเสี่ยง


นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มกราคม 2552)



กลับสู่หน้าหลัก

สถาบันการเงินหลายแห่งต่างออกมาพยากรณ์เศรษฐกิจของปีนี้ต่างก็บอกพ้องเสียงเดียวกันว่าย่ำแย่ และ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ก็ออกมาแนะนำนักลงทุนให้ปรับตัว

เป็นธรรมเนียมทุกๆ สิ้นปีที่เอ็มเอฟซีจะต้องนำคณะผู้บริหารออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวสภาพเศรษฐกิจและแนะนำวิธีการลงทุน

ปลายปีที่ผ่านมาเอ็มเอฟซีได้จัดสัมมนา "Economic Outlook" มีผู้บริหาร 3 คนที่มีดีกรีระดับ ดร.นำหน้าทุกคน ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ ดร.ศุภกร สุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ และ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการมากันอย่างพร้อมเพรียง

ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมจะได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนในปีนี้หลังจากที่ผ่านมา มีสัญญาณมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนก่อนที่จะเกิดปัญหาซัพไพร์มรุนแรงเมื่อเดือนกันยายนทำให้สถาบันการเงินเลห์แมนบราเธอร์สถึงกับต้องล้มละลาย

สิ่งที่จะเห็นและมีผลกระทบกับนักลงทุนในปีนี้คือการระดมทุนที่ยากมากขึ้นและรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายทำให้นักลงทุนบางส่วนลดการลงทุนโดยเฉพาะในส่วนของการลงทุนกองทุนรวมในต่างประเทศประเภท FIF (Foreign Investment Fund และการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์

การลงทุนใน FIF และสินค้าโภคภัณฑ์ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงเพราะในตลาดต่างประเทศค่อนข้างมีความผันผวนสูงที่เกิดจากการถดถอยของสภาวะเศรษฐกิจเกิดขึ้นทั้งโลกจึงทำให้นักลงทุนไม่มีความมั่นใจ

ปีนี้จะเห็นนักลงทุนหันมาลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้นเลือกลงทุนในหุ้นหรือกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ อาทิ พันธบัตรรัฐบาล กองทุนระยะยาว กองทุนอสังหาริมทรัพย์

จากแนวทางการลงทุนที่เปลี่ยนไปจะทำให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนหันมาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับธนาคารที่มีให้บริการด้านคุ้มครองเงินต้น ประกันผลตอบ แทนขั้นต่ำ

ดร.ศุภกรบอกว่าในไตรมาสแรกนี้นักลงทุนจะปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความเสี่ยงต่ำและเขาเชื่อว่านักลงทุนจะหันไปลงทุน ในกองทุนอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะลงทุนในธุรกิจศูนย์การค้าเพราะเป็นกองทุนที่ยังไม่ได้รับผลกระทบแต่ต้องพึงระวังในส่วนของ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของโรงแรมเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ

ในไตรมาสที่สองนักลงทุนเริ่มลงทุนในส่วนของบริษัทเอกชนที่ให้ผลตอบแทนสูงเป็นบริษัทที่อยู่ในระดับเกรดเอ เพราะเอกชนจะเริ่มระดมทุนผ่านหุ้นกู้เพิ่มมากขึ้น ส่วนสภาพเศรษฐกิจโดยรวมคาดว่าจะถึงจุดต่ำสุดในรอบปี

ไตรมาสสี่หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตลาดหุ้นและตลาดทุนจะเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งและถ้าสองตลาดส่งสัญญาณดีขึ้นจะทำให้ภาพรวมในตลาดดีขึ้นเป็นสิ่งที่เอ็มเอฟซีมอง

ดร.ณรงค์ชัยให้ความเห็นเกี่ยวกับการคาดการณ์เศรษฐกิจของหน่วยงานรัฐบาล อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักเศรษฐกิจ การคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจโดยรวมของไทยจะต่ำกว่า 3 หน่วยงานที่คาดการณ์

เช่น GDP ที่อยู่ระหว่าง 3.8-5.0 การบริโภค 3.5-4.5 การลงทุน 4.8-8.3 ส่งออก 6.5-10.0 นำเข้า 6.5-10.0 อัตราแลกเปลี่ยน -3.5-4 เงินเฟ้อ 2.5-4.0

การพยากรณ์ของเอ็มเอฟซีจะแม่นขนาดฟันธงหรือไม่ ผู้ลงทุนต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะผู้ประกอบการมักจะเตือนเสมอว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.