"เราเสนอซื้อตะวันออกฯด้วยราคาสูงสุดชนิดที่ไม่มีใครกล้าสู้"

โดย ภัชราพร ช้างแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2532)



กลับสู่หน้าหลัก

คู่คิดของนักเลงโบราณโกศล ไกรฤกษ์ผู้นี้เป็นชาวอินเดียถือกำเหนิด ในอังกฤษ อายุเพียง37 ปี แต่มีความรู้ความชำนาญในการตลาดเงินและตลาดหุ้นทั่วโลก ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการคลังให้กับธนาคารไทยหลายแห่ง ล่าสุดเพิ่งให้คำปรึกษาเรื่องการออกพันธบัตรให้แก่ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด แต่เผอิญเจอปัญหาเงินเฟ้อเสียก่อน การออกพันธบัตรจึงเลือนไปอย่างไม่มีกำหนด

ปัจจุบันหนุ่มสองสัญชาติผู้นั่งอยู่ที่ THE ASIANPACIFIC GROUP ในตำแหน่ง CHEF OPERATING OFFICER ดิเอเชียนแปซิฟิกลุ๊ปเป็นกลุ่มนักลงทุนในลักษณะโฮมดิ้ง คัมปะนี และจะร่วมทุนถือหุ้นในกลุ่มที่เสนอซื้อตะวันออกฟายแน้นซ์ด้วย

ราเกชเปิดเผยกับ " ผู้จัดการ " ว่าแรกเริ่มเดิมทีเขารู้จักกับนักเลงโบราณก็เพราะมีความสนิทสนมกับจุติและ พิกุลแก้ว ลูกชายและลูกสาวของโกศล ไกรฤกษ์ หลังจากนั้นมีธุรกิจร่วมกันหลายโครงการ เช่น PHIYSANULOK FARM & DAIRY COMPANY LIMITED และทำธุรกิจเรียลเอสเตทที่พัทยา เป็นต้น

บทบาทของราเกชในการทำแผนเสนอซื้อตะวันออกฟายแน้นซ์นั้นว่าเขาเป็นตัวหลักในการทำแผนเลยทีเดียวก็ว่าได้ เพราะเข่ทำการวางแผนหลักในการเสนอซื้อ ทำแผนการต่อติดประสานงานกับนักลงทุนต่างชาติ และวางแผนการจัดการปัญหาหนี้ของบริษัท ฯ ในส่วนของสภาบันการเงินของต่างประเทศที่ราเกชติดต่อนั้น แรกเริ่มมีถึง 5-6 รายต่อมาก็เจรจาตกลงกันได้ 2 รายซึ่งจะต้องทำการเลือกเอารายใดรายหนึ่งให้เขามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เท่านั้น

2 รายสุดท้ายที่ตอบตกลงสนใจจะถือหุ้นด้วยคือ เอลเดอร์ส ฟายแน้นซ์ (ELDERSFINANCE GROUPLTD ) จาก AUSTRALIA ส่วนอีกรายคือ ASIAN OCEANIC GROUP LTD จาก HONGKONG

ในส่วนของเอลเดอร์สนั้นมีภาษาดีกว่า เพราะเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียประเภทที่ไม่ใช่ธนาคาร และเข้ามาเป็นที่รู้จักคุ้นในเมืองไทย เมื่อเป็นที่ปรึกษาในการลงทุน และเป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นกองทุนใหม่ล่าสุด THE THAI ASSET FUND ที่กองทุนรวมเพิงจะนำเข้าจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกงและออสเตรเลีย

โครงการผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมในการซื้อตะวันออกฟายแน้นซ์มีดังนี้คือ เอลเดอร์ส ฟายแน้นซ์ กรุ๊ป ประมาณ 35 % เอเชียน แปซิฟิค กรุ๊ป 30 % กลุ่มโกศล 20 % และธนาคารในประเทศซึ่งคาดว่าจะเป็นสหธนาคารร่วมด้วยอีก 10 % ที่เหลือเป็นนักลงทุนรายย่อย

ราเกชอาจจะเข้านั่งเป็นกรรมการผู้จัดการประมาณ 3 - 4 เดือน แรกจนกว่าสจะมีกรรมการผู้จัดการคนไทยขึ้นมานั่งแทน ซึ่งในขณะนี้มีคนสมัครเข้ามา 2 คนแล้วเป็นคนจากธนาคารและสถาบันการเงิน ซึ่งยังไม่เปิดเผย

ในส่วนของซื้อบริษัทคาดว่าจะมีการเปลี่ยนใหม่ แต่ทั่งนี้ยังไม่มีการกำหนดที่แน่ชัด ขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นฝ่ายต่างประเทศ ราเกชเปิดเผยว่าในส่วนของกรรมการและพนักงานชุดเดิมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในบางดคด้วยสาเหตุที่ว่า " หากดคนเก่า ๆ เหล่านี้เป็นคนดีแล้วบริษัทย่อมไม่น่าเจ๊งได้ "

ทางด้านการซื้อหนี้สินทั้งหมดของตะวันออกฟายแน้นซ์นั้น ราเกชเปิดเผยกับ "ผู้จัดการ " ว่ามีมูลค่าทั้งสิน 1,100 ล้านบาท หนี้สินเหล่านี้เมื่อเจรจารต่อรองกับฝ่ายเขาและแบงก์ชาติแล้วได้มีการตีค่าออกมาดังนี้

- 400 ล้านบาทเป็นค่าใบอนุญาต 9 ใบคือทางด้านหลักทรัพย์ 4 ใบ เงินทุน 4 ใบ และเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์อีก 1 ใบ

- 250 ล้านบาทเป็นการต่ออายุเงินซอฟท์โลนออกไปอีก 6 ปี

- 300 ล้านบาทเป็นค่าอนุญาตให้เปิดสาขาทั้งใน กทม. และต่างจังหวัดรวม 14สาขา และใบอนุญาตทำกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย

- 335 ล้านบาท เป็นเงินจดทะเบียนที่ราเกชและโกศลต้องนำเงินสดเข้าเพิ่มทุน แต่ไม่ต้องเสียค่าพรีเมียม

หนี้สินทั้งหมดเมื่อนำมาแลกกับใบอนุญาตทั้งหลายที่ได้มาในครั้งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่คุ้มจริง ๆ ยิ่งกว่าคุ้ม เพราะเป็นที่รู้จักกันดีว่าธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์นั้นไม่ใช่ว่าจะขอมาง่าย ๆ ถึงขอก็ไม่ได้

ราเกชเขาเล่าว่าราคาที่เขาเสนอนี้เป็นราคาที่สูงที่สุดและไม่มีใครกล้าสู้งเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นซิตี้แบงก์ หรือแบงก์อินโดสุเอซก็ตาม ซึ่งสถาบันการเงินในประเทศไม่ต้องพูดถึง และเป็นราคาที่เสนอครั้งแรก โดย ไม่มีการต่อรองแต่อย่างใด เขาเผยเคล็ดลับว่าถ้าเสนอราคาถูกต้องเหมาะสม ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการเจรจากับแบงก์ชาติ

ราเกซตั้งเป้าหมายไว้จะสามารถทำกำไรจากธุรกิจนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในปีแรก และในช่วง 5 ปีต่อไปจะทำได้ในระหว่าง 500 - 700 ล้านบาทโดยเน้นธุรกิจทางด้านค้าหลักทรัพย์ การออกตั๋วแลกเงินและเงินทุนต่าง ๆ

เขาคาดหมายด้วยว่ารัฐมนตรีคลัง ประมวล สภาวสุ จะเซ็นอนุมัติให้กลุ่มเขาเข้าไปดำเนินการฟื้นฟูเร็ว ๆ นี้ และเมื่อสำเร็จจากตะวันออกฟายแน้นซ์แล้วเขายังมาโครงการที่จะซื้อทรัรต์อื่นอีกในโครงการ 4 เมษา ฯ ด้วย

มันคงเป็นเรื่องง่าย ๆ เมื่อเขาเคล็ดลับอย่างนี้แล้ว !



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.