เมื่อประมาณกลางปี 2531 บริษัทผู้ผลิตยางรายใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างบริดจสโตนก็สามารถเข้าเทคโอเวอร์บริษัทผุ้ผลิตยางคู่รักคู่แค้นไฟร์สโตนได้เป็นผลสำเร็จ
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บริษัทยางสยามของค่ายปูนใหญ่อย่างปูนซิเมนต์ไทย ต้องเกิดการปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อที่จะสามารถดำรงอยู่ได้ในวงการยางรถยนต์ที่นับวันก็เพิ่มความเข้มข้นของการแข่งขันขึ้นทุกที
การปรับตัวเพื่อเข้ารับสถานการณ์ครั้งนั้นของยางสยามอย่างหนึ่งก็คือ การเข้าร่วมมือกับบริษัทระดับโลกของการผลิตยางจากฝรั่งเศสยี่ห้อที่คนไทยเราคุ้นเคยกันมาก่อนบ้างแล้ว
นั่นคือ ยางยี่ห้อมิชลิน วิศวกรของยางสยามระดับหัวกะทิได้ถูกส่งตัวไปเรียนรู้เทคนิคต่าง
ๆ ในการผลิตจากมิชลินในฝรั่งเศสเพื่อกลับมาเป็นกำลังสำคัญในการเปิดแนวรบระดับสูงในตลาดเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง
แต่นั่นก็เป็นแผนการระยะยาวของยางสยามเพราะการสร้างบุคลากรที่มีความสามารถ
การสร้างโรงงานยางมิชลินที่แหลมฉบังต้องอาศัยเวลา ดังนั้น แผนการเร่งด่วน
เพื่อไม่ให้คู่แข่งขันเข้าตลาดได้อย่างลอยนวลนักก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาประกอบกับที่ยางสยามเองก็มีความสามารถในการผลิตยางอยู่มากพอตัว
ดังนั้น ยางยี่ห้อ "มัสแตง" จึงได้เริ่มปรากฏสู่ตลาดเมืองไทยภายใต้การผลิตจากยางสยามหรือสยามไทร์
แต่โจทย์ของปัญหาที่ยางสยามจะต้องแก้นั้น ย่อมไม่ใช่เป็นการผลิต แต่โจทย์สำคัญกลับอยู่ที่การสร้างการยอมรับในยางมัสแตงให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภค
อย่างน้อยที่สุดก็คือ การสร้าง BRAND AWARENESS ให้เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้นให้ได้ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง
"เราศึกษาจากการวิจัยหลายชิ้นถึงการสร้างการยอมรับในสินค้าให้เกิดขึ้นในเวลาอันสั้น
หนทางหนึ่งก็คือ การหาตัวแทนที่จะมาเป็นผู้ที่จะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของเราได้
ให้มาเป็น PRESENTOR ให้มาเป็น OPINION LEADER เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของเราสนใจและเชื่อถือ"
แหล่งข่าวในกลุ่มผู้รับผิดชอบแผนการตลาดของยางสยามกล่าวกับ "ผู้จัดการ"
ถึงที่มาของแผนการโฆษณายางมัสแตง
PRESENTOR ที่ยางสยามเลือกขึ้นมาสำหรับงบการโฆษณาเกือบ 2 ล้านบาทในภาพยนตร์โฆษณาเพียง
3 เรื่องก็คือ จักรพันธ์ ยมจินดา ผู้อ่านข่าวจากช่อง 7 สี และนักจัดรายการกีฬา
"เจาะสนาม" ที่รู้จักกันดี
"ก่อนที่เราจะเลือกจักรพันธ์มาร่วมงานสำคัญครั้งนี้ของเรานั้น เราพิจารณาอยู่หลายทางเลือกตั้งแต่นักขับเครื่องบิน
หมอ ไปจนกระทั่งนักกีฬา และดารา แล้วเราก็เลือกจักรพันธ์เพราะมีคุณสมบัติหลาย
ๆ อย่างที่ PRESENTOR จำเป็นต้องมี" แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวกับ "ผู้จัดการ"
PRESENTOR ที่เหมาะสมจำเป็นจะต้องเป็นคนซึ่งเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในกลุ่มเป้าหมายของสินค้า
เป็นผู้ที่สามารถนำเสนอได้โดยไม่มีภาพพจน์ของความลำเอียงให้เกิดขึ้นได้ และมีความน่าเชื่อถือที่จะสามารถมาเป็น
OPINION LEADER ให้กับผู้บริโภคได้
มัสแตงของยางสยามนั้นเป็นยางที่ออกแบบมาสำหรับรถ 2 ประเภท คือ ยางรถเก๋ง
ในชื่อรุ่นว่า "MUSTANG CHALLENGE" และยางสำหรับรถกระบะในชื่อรุ่น
"MUSTANG" โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้บริโภคที่เป็นผู้ชายที่มีอยู่ทั่วประเทศ
ซึ่งเป็นลักษณะของสินค้ายางรถยนต์ที่ผู้ชายมักจะเป็นที่ตัดสินใจในการเลือกซื้อมากกว่าผู้หญิง
และจากการวิจัยของ VERTEX MARKET RESEARCH CO., LTD. ประจำเดือนตุลาคม ได้สรุปผลออกมายว่า
"ผู้อ่านข่าวที่คนคิดว่าสามารถทำหน้าที่ได้ดีที่สุด คือ จักรพันธ์ ยมจินดา
โดยมีช่อง 7 สี เป็นสถานีโทรทัศน์ที่คนชอบดูมากที่สุด และรายการเจาะสนามที่มีพิธีกรชื่อ
จักรพันธ์ ยมจินดา ก็เป็นรายการที่ผู้ชายชอบดูเป็นอันดับ 3 ของช่อง 7 ลองจาก
ท้าพิสูจน์และวิก 07"
ซึ่งก็คงด้วยจุดสำคัญเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็น "มิสเตอร์มัสแตง"
ที่เหมาะสมที่สุด คือ "จักรพันธ์ ยมจินดา" เพราะนอกจากที่จะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของมัสแตงแล้ว
ยังมีบทบาททางหน้าที่การงานที่น่าเชื่อถือ ไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างเห็นได้ชัดเหมือนดาราหรือนักกีฬาที่จะวูบได้ง่าย
ๆ หรือมีบทบาทที่ลดลงไปได้อย่างรวดเร็ว
"โดยส่วนตัวแล้ว จักรพันธ์เองก็เป็นคนที่มีน้ำใจอย่างมาก รายได้ที่เขาได้จากการถ่ายทำโฆษณาชุดนี้เขาก็ได้บริจาคให้กับมูลนิธิสายใจไทยทั้งหมด"
ผู้รับผิดชอบโครงการกล่าวเพิ่มเติมกับ "ผู้จัดการ" แต่ไม่ได้บอกว่ารายได้จากการเป็น
PRESENTOR ครั้งนี้ จักรพันธ์ได้เท่าไร ?
ยางมัสแตงได้ออกสู่ตลาดเมืองไทยมานานร่วมปีแล้ว และยางมิชลินก็ได้เริ่มออกสู่ตลาดเมืองไทยอีกครั้งเช่นกัน
ดูเหมือนว่าสงครามยางรถยนต์ในตลาดเมืองไทยก็ได้เริ่มคุกรุ่นกันอีกครั้ง เมื่อยางทั้งสองยี่ห้อของยางสยามได้ออกสู่ตลาดทั้งในระดับทั่วไปโดยมัสแตง
ซึ่งเวลาและผู้บริโภคเท่านั้นที่จะเป็นผู้พิสูจน์บทบาทของ PRESENTOR คนใหม่ของวงการตลาดยางรถยนต์เมืองไทย
"มิสเตอร์มัสแตง" … "จักรพันธ์ ยมจินดา"