|
มูดี้ส์ลดมุมมองเครดิต"กรุงไทย" สินทรัพย์เสี่ยงพุ่ง-จี้เพิ่มทุนโปะ
ผู้จัดการรายวัน(9 ธันวาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
มูดี้ส์ปรับมุมมองอันดับเครดิตความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB ลงจาก "มีเสถียรภาพ" เป็น "เชิงลบ" ระบุคุณภาพสินทรัพย์ส่อแววทรุด เหตุรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง คาดในระยะกลางอาจต้องเพิ่มทุนเพื่อชดเชยคุณภาพสินทรัพย์ที่ลดลง
รายงานข่าวจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์อินเวสเตอร์สเซอร์วิส(มูดี้ส์)ระบุว่า มูดี้ส์ปรับลดลงมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(KTB) ซึ่งอยู่ที่ระดับ D- จาก "มีเสถียรภาพ" เป็น "เชิงลบ" เช่นเดียวกับมุมมองอันดับความเชื่อถือเงินฝากสกุลเงินในประเทศ ซึ่งอยู่ที่ระดับ A3/Prim- 1 และอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งอยู่ที่ระดับ Baa3 ได้ถูกลดมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือจาก "มีเสถียรภาพ" เป็น "เชิงลบ"ด้วย
ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น ซึ่งอยู่ที่ระดับ Prim-2 ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นางแคโรลีน ซีท รองผู้อำนวยการและนักวิเคราะห์มูดี้ส์ได้กล่าวถึงสาเหตุที่มีการปรับมุมมองอันดับเครดิตดังกล่าวว่า การลดมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวเป็นผลมาจากความวิตกที่มีต่อแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทยที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคาร
"นอกจากนี้ เรายังหวั่นเกรงเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว ในทางที่อาจส่งผลให้ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ที่รุนแรงและคาดไม่ถึงทยอยเกิดขึ้น"นางแคโรลีน ซีท กล่าว
ขณะเดียวกันมูดี้ส์ระบุว่า ปัจจัยที่น่าเป็นห่วงเพิ่มเติมคือการที่ธนาคารกรุงไทยมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย รวมถึงการที่ธนาคารมีฐานเงินทุนที่ต่ำ
อย่างไรก็ตาม หากมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติมแล้ว มูดี้ส์คาดว่าธนาคารกรุงไทยจะแจ้งอัตราส่วนทางการเงินที่ด้อยกว่าธนาคารของไทยแห่งอื่นที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากมูดี้ส์
ทั้งนี้ มูดี้ส์คาดว่า จากการประเมินข้างต้น ธนาคารกรุงไทยอาจจำเป็นต้องเพิ่มทุนเพื่อชดเชยคุณภาพสินทรัพย์ที่อาจลดลง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะกลาง
สำหรับราคาหุ้นของธนาคารกรุงไทยวานนี้ เปิดตลาดที่ระดับ 3.30 บาทเพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 3.26 บาท และปิดตลาดที่ระดับ 3.34 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือคิดเป็น 2.45% โดยมีราคาสูงสุดของวันที่ 3.38 บาท ราคาต่ำสุดของวันที่ 2.28 บาท และมีปริมาณการซื้อขายที่ 185.142 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|