เซาท์คอร์ปไวน์ มั่นใจเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นแต่งตั้งบริษัท บีเจซี มาร์เก็ตติ้ง
เป็นตัวแทนจำหน่ายไวน์ 3 รสชาติ ราคาตั้งแต่ขวดละ 500-50,000 บาท หวังจับกลุ่มตลาดบน-กลาง
มั่นใจตลาดไวน์ไทยไปได้สวย คาดโต 3 เท่า ด้านบีเจซีเชื่อตลาดไวน์นำเข้ารุ่งแน่หากรัฐปรับลดภาษี
ลั่นรายได้ครึ่งปีแรกมีกำไรสูงสุดตั้งแต่ทำธุรกิจอุปโภคบริโภคกว่า 550 ล้านบาท
โตถึง 98% เล็งขยายกำลังผลิตบรรจุภัณฑ์และกระดาษทิชชู
นายเบลด คาเมอร์ ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชีย บริษัทเซาท์คอร์ปไวน์ จำกัด ผู้ผลิตไวน์ใน
ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า บริษัทได้แต่งตั้งให้บริษัท บีเจซี มาร์ เก็ตติ้ง
จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่าย ไวน์ 3 ยี่ห้อ ได้แก่ เพ็นโฟลด์,ลิน เดอแมนส์ และโรสเมาท์เอสเตท
ในประเทศไทย
เนื่องจากเล็งเห็นสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของไทยที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบอัตราการขยายตัวของตลาดไวน์ในไทยยังเติบโตได้อีกมาก
เพราะพฤติกรรมการดื่มไวน์ของคนไทยมีเพียง 0.5 ลิตรต่อคน เมื่อเทียบออสเตรเลียมีอัตราการบริโภค
20 ลิตรต่อคน ในขณะที่ตลาดในยุโรปมี 60 ลิตรต่อคน
"ที่ผ่านมาบริษัทได้จำหน่ายไวน์กว่า 35 ประเทศทั่วโลก โดยสัดส่วนยอดขายในเอเชียมีเพียง
5% ญี่ปุ่นมียอดขายเป็นอันดับ 1 ตามด้วยมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง สำหรับไทยติดอันดับ
1 ใน 10 โดย ประมาณการว่าในปีนี้ตลาดไวน์ในเอเชียมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น10% โดยเฉพาะในไทยจะเติบโตเป็น
3 เท่า" นาย คาเมอร์ กล่าวและว่าสำหรับไวน์นำเข้าทั้ง 3 ยี่ห้อนี้ถือว่าเป็นสินค้าหลักที่ทำรายได้ให้บริษัท
โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 500 บาทไปจนถึง 53,500 บาท ซึ่งแผนการทำตลาดนี้จะจับกลุ่มลูกค้าระดับ
กลาง-บน โดยทั้ง 3 ชนิดจะมีรสชาติแตกต่างกัน โดยไวน์เพ็น โฟลด์เป็นไวน์แดง มีรสชาติเข้มข้น
ลินเดอแมนส์ มีรสชาติปานกลาง ในขณะที่ โรสเมาท์เอสเตท มีรสชาตินุ่มนวล
บีเจซีเชื่อปรับลดภาษีไวน์นำเข้ารุ่ง
นายธีรศักดิ์ นาทีกาญจนลาภ กรรมการบริการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีเจซี มาร์เก็ตติ้ง
จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับตลาดไวน์ในไทย ยังคงมีผลกระทบต่อเนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจในปี
2540 โดยยอด นำเข้าไวน์ในปัจจุบันยังคงต่ำกว่ายอดนำเข้าในช่วงก่อนวิกฤติ เศรษฐกิจ
ประกอบกับไวน์เป็นสินค้าที่มีภาษีนำเข้าสูงถึง 420% รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่าง
ประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดการเติบโตของตลาดในปีที่ผ่านมามีเพียง 5% คิดเป็นจำนวน
4.9 ล้านลิตร หรือ 5.4 แสนลัง
ทั้งนี้พบว่าตลาดไวน์ระดับล่าง ซึ่งมีราคาต่ำกว่า 500 บาท มีสัด ส่วนในตลาด 50%
และมีแนวโน้มการเติบโตสูง ขณะที่ระดับกลางซึ่ง มีราคา 500 บาทขึ้นไปนั้น มีสัดส่วน 45% ส่วนระดับบนมีสัดส่วนเพียง 5%
"ในปีนี้คาดว่าตลาดไวน์จะโต 5% ซึ่งหากรัฐบาลปรับลดภาษีนำเข้า เชื่อว่าตลาดไวน์ในไทยจะเติบโตมากขึ้น
เนื่องจากพบว่าแนวโน้มคนไทยหันมานิยมดื่มไวน์ที่มียี่ห้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจว่า
ไวน์ทั้ง 3 ยี่ห้อจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างแน่น" นายธีรศักดิ์กล่าว
เบอร์ลี่ฯลั่นปีนี้ทำกำไรเป็นประวัติการณ์
นายธีรศักดิ์ กล่าวต่อถึงผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกว่า บริษัทมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจ
สินค้าอุปโภคบริโภคโดยมีกำไรกว่า 550 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 98% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
โดยสินค้าที่เติบโตสูง ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ประเภทขวด และกระดาษทิชชู เทสโต โดโซะ
ซึ่งเติบโต 2 เท่า โดย ขณะนี้มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์และกระดาษทิชชูเพิ่มขึ้น
จากที่ปัจจุบันกำลังการผลิต เต็มที่แล้ว
"ครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ ถือว่าบริษัทมีรายได้มากที่สุดในการดำเนินธุรกิจ ทำให้มั่นใจว่าครึ่ง
ปีหลังบริษัทจะเติบโตเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะมีรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน
โดยมาจากการขยายตัวของสินค้าอีกหลายประเภท" นายธีรศักดิ์ กล่าว