|
บัณฑูร ล่ำซำ ยังแข็งแรงและอารมณ์ดี
โดย
นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( ธันวาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
บรรยากาศในงานปาฐกถาประจำปีในการพบปะกับสื่อมวลชนของ บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ยังอารมณ์ดีและสุขภาพแข็งแรงเหมือนเช่นเคย
วัย 56 ปีของเขาที่ผ่านวิกฤติมาหลายรอบ และครั้งนี้แม้ว่าเหตุการณ์วิกฤติการเงินจะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรปจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง ประเทศไทยก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่ได้รับผลกระทบเพราะเศรษฐกิจโลกถูกเชื่อมโยงไว้ด้วยกัน
เพื่อความไม่ประมาทและมองสิ่งที่เกิดขึ้นให้รอบด้าน บัณฑูรได้เดินทางไปพบนักลงทุนในต่างประเทศเพื่อกรองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เห็นมิติชัดเจน และเขาก็เชื่อในคริสต์มาสปีนี้จะเป็นปีแห่งความเศร้าโศกในฝั่งอเมริกาและยุโรป จะเห็นคนตกงานเพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจทั่วโลกจะถดถอยอย่างน้อย 1 ปี
ในมิติของประเทศไทย ผลกระทบครั้งนี้จะไม่รุนแรง เพราะได้เรียนรู้จากบทเรียนเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ภาพของไทยที่จะล้มระเนระนาดจะไม่เกิดขึ้น
ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้ปล่อยสินเชื่อจำนวนมาก เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยควบคุมอย่างรัดกุม และไม่ได้ลงทุนเก็งกำไรที่ดิน
แต่สิ่งที่ไทยจะได้รับผลกระทบคือการส่งออกสินค้าจะลดลงตามความต้องการของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้น
คำพูดของบัณฑูรที่ไม่แสดงความวิตกกังวลต่อวิกฤติที่เกิดขึ้น จึงทำให้ในงานปาฐกถาครั้งนี้ของบัณฑูรเป็นการสานต่อแนวคิดเคนาว (K now) หนึ่งในแผนธุรกิจของกสิกรที่จะเห็นในปีหน้าอีกครั้ง
เคนาวเป็นแนวคิดที่ต่อยอดจากปีที่ผ่านมา และปีนี้บัณฑูรมาเล่าถึงความคืบหน้าของเคนาวหรืออาจเรียกว่าเป็นภาคสองขององค์ความรู้ต่อยอดบริการทางการเงิน
ปีที่แล้วแนวคิดดังกล่าวถูกนำเสนอออกมาเอนเอียงในแนวของเชิงนามธรรม แต่ในปีนี้กำลังเปลี่ยนสู่รูปธรรมมากขึ้น จากบทบาทของธนาคารในฐานะผู้ให้สินเชื่อได้พัฒนาการให้คำปรึกษาทางด้านการเงินให้กับลูกค้า ควบคู่กับการให้องค์ความรู้
เว็บไซต์ได้ถูกพัฒนาข้อมูลในเชิงลึกไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสินเชื่อบ้าน รับให้คำปรึกษาวางแผนด้านการเงิน ออมเงิน และบริการสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่มีทีมงานของธนาคารและกลุ่มเอาท์ซอร์สมาบริหารข้อมูลให้ทันสมัยตลอดเวลา
เคเอสเอ็มอีแคร์ (www.ksmecare.com) เป็นเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประกอบการและปัจจุบันมีสมาชิก 9,176 ราย จากที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนตุลาคม 2550
ข้อมูลพัฒนาไปพร้อมๆ กับพนักงานเพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ซึ่งปัจจุบันมี 300 คน กระจายอยู่ 150 สาขาทั่วประเทศ และบัณฑูรตั้งใจไว้ว่าทีมงานจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 550 คน
แนวคิดของเคนาวยังอยู่บนพื้นฐานของการให้บริการลูกค้า 2 กลุ่ม บุคคลและกลุ่มธุรกิจ ที่มีเป้าหมายให้ลูกค้าบุคคลมีชีวิตเอกเขนก ส่วนกลุ่มลูกค้าธุรกิจก็จะมีวิถีธุรกิจที่ไร้ขีดจำกัด
การเพิ่มองค์ความรู้เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สอดแทรกเข้าไปอยู่ทุกบริการของบริการธนาคาร โดยธนาคารได้ก่อตั้งศูนย์ความรู้ (knowledge center) เพื่อจัดอบรมที่จามจุรีสแควร์ที่จะเริ่มใช้ในต้นปีหน้า
องค์ความรู้ที่จะนำมาจัดหัวข้อเพื่ออบรม ธนาคารได้ร่วมมือกับพันธมิตร อาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กรมสรรพากร สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย
บัณฑูรไม่ได้หวังให้แนวคิดของเคนาวจะต้องสำเร็จในเวลารวดเร็ว ทว่าแนวคิดเคนาวเป็นการวางแผนการดำเนินงานในรูปแบบของน้ำซึมบ่อทรายที่เขารอคอย
เสมือนกับตรา K EXCELLENCE ที่ธนาคารกสิกรไทยได้พยายามชี้ให้ลูกค้าได้รับรู้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาว่าคือความเป็นเลิศทางการเงิน แต่หลังจากการวิจัยสอบถามคนทั่วไป พบว่าคนรู้จัก K EXCELLENCE ว่าจำได้ แต่ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร
หากมองในเชิงลึก เคนาวได้วางบทบาทเป็นศูนย์กลางการเงินที่ผสานองค์ความรู้เชื่อมโยงไปยังกลุ่มลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยทุกระดับให้เกาะเกี่ยวไปด้วยกัน และส่วนอีกด้านหนึ่งธนาคารได้เชื่อมโยงบริษัทในเครือให้สามารถทำงานสอดคล้องจากที่เป็นรูปแบบต่างคนต่างทำ
เครือข่ายที่ธนาคารกสิกรไทยสร้างขึ้น เริ่มจากเครือข่ายขนาดเล็กๆ แต่จะขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องที่บัณฑูรสามารถอดทนและรอได้
ในขณะที่เขารอความสำเร็จก็ต้องรักษาสุขภาพจิตให้แข็งแรงด้วยเช่นเดียวกัน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|