|
เดินสายชี้แจงยังแข็งแรง
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( ธันวาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
ฮานส์ แวน เดอ นอร์ดา ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการจัดการการลงทุนและประกันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต้องเดินสายเพื่อชี้แจงทิศทางธุรกิจของกลุ่มไอเอ็นจีหลังจากที่รัฐบาลกลางเนเธอร์แลนด์นำเงินจำนวน 1 หมื่นล้านยูโร เข้ามาเสริมสภาพคล่องเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากได้รับผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา
นอร์ดา บอกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาได้รับคำถามมากมายจากผู้สื่อข่าวทั่วโลกเกี่ยวกับเงินทุนที่ได้รับมาจากรัฐบาลว่าจะนำไปทำอะไร
เขาบอกว่าเงินช่วยเหลือส่วนหนึ่งจะถูกนำไปขยายธุรกิจที่มีโอกาสและไอเอ็นจีกรุ๊ปมีเป้าหมายเลือกลงทุนในกลุ่มละตินอเมริกา ประเทศเกิดใหม่ และเอเชียแปซิฟิก
กลุ่มภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะ ประเทศจีน อินเดีย และไทย เป็นกลุ่มที่ไอเอ็นจีค่อนข้างให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินของสหรัฐอเมริกาน้อย
จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประธานกรรมการบริหารไอเอ็นจีกรุ๊ปต้องเดินทางมาเมืองไทยเป็นเวลา 2 วัน (ระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน) ชี้แจงต่อผู้บริหารและทีมงานคนไทยอีก 400 คน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยืนยันว่าไอเอ็นจีจะยังลงทุนในประเทศไทยต่อไป
นอร์ดาเดินทางไปพบกับบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย เพื่อยืนยันถึงความแข็งแรงของไอเอ็นจี แต่เขาไม่ได้เปิดเผยว่าได้คุยอะไรบ้าง
ธุรกิจของไอเอ็นจีที่อยู่ในประเทศไทยมี 3 ธุรกิจหลัก บริษัทไอเอ็นจีประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนประเทศไทย และธุรกิจธนาคารพาณิชย์ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารทหารไทยจำนวน 24.6%
การขยายธุรกิจของไอเอ็นจีในไทยที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มก่อตั้งบริษัทประกันชีวิตเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา และขยายธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จวบจนกระทั่งธนาคารทหารไทยตัดสินใจเปิดทางให้ไอเอ็นจีกรุ๊ปเข้าถือหุ้นในธนาคารเมื่อปีที่ผ่านมา
จึงเห็นได้ว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การทำธุรกิจของไอเอ็นจีที่จะสร้างรายได้และผลกำไรในระยะยาว
ในวันแถลงข่าวพบปะสื่อมวลชนไทย นอร์ดาบอกว่าเขาพึงพอใจการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตที่ขายบริการผ่านธนาคารทหารไทยโตถึง 20% จากเดิม 0% ในขณะที่บลจ.ไอเอ็นจี ประเทศไทย โต 15% และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้น (ณ กันยายน 2551) ประมาณ 202,296 ล้านบาท ในตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2552 จะเติบโต 244,000 ล้านบาท
ในบรรยากาศงานแถลงข่าว (13 พฤศจิกายน) บนชั้น 25 อาคารเลอคองคอร์ด บนถนนรัชดาภิเษก ไม่ใช่มีแต่เพียงผู้สื่อข่าวเท่านั้น แต่ได้มีพนักงานและตัวแทนขายประกันชีวิตจำนวนหนึ่งของไอเอ็นจีเข้าร่วมรับฟังกว่า 50 คน เพื่อร่วมรับฟังทิศทางธุรกิจของไอเอ็นจีในประเทศไทย
การทำธุรกิจในปีหน้าของไอเอ็นจีจะระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะในธุรกิจของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจะเน้นออกตราสารหนี้ระยะสั้นและชะลอการลงทุนในตลาดทุนในปีหน้าเนื่องจากเห็นว่ายังมีความเสี่ยง
กลยุทธ์การทำตลาดของไอเอ็นจีที่จะเห็นในปีหน้าจะเน้นรวมผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครือมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Unit Link เป็นการรวมผลิตภัณฑ์ของประกันชีวิตและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่คุ้มครองชีวิตและลงทุนได้พร้อมๆ กัน และเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะเห็นในกลางปีหน้า
ไอเอ็นจียืนยันขันแข็งและมองว่าวิกฤติการเงินที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสสำหรับไอเอ็นจี
หากมองย้อนการเข้ามาของไอเอ็นจีในประเทศไทยจะพบว่าเข้ามาในช่วงวิกฤติทุกครั้ง เริ่มตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งจวบกระทั่งล่าสุดเข้าไปลงทุนในธนาคารไทยที่อยู่ในภาวะแย่ที่สุดเมื่อปีที่ผ่านมา
ไอเอ็นจีได้ลงทุนธุรกิจในเมืองไทยไปแล้วราว 600 ล้านยูโร และเชื่อว่าการเมือง เศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาวไม่มีปัญหา
สิ่งที่ไอเอ็นจีบอกว่าวิกฤติจะเป็นโอกาสสำหรับองค์กร หรือ “โอกาส” จะกลายเป็นวิกฤติ ยังไม่มีบทสรุปชัดเจนเพราะในโลกของธุรกิจไม่มีอะไรที่แน่นอน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|