อะโคนาติกเลื่อนเข้าตลาดหุ้นเพิ่มไลน์กลุ่มหุ่นยนต์ปั๊มยอด


ผู้จัดการรายวัน(1 ธันวาคม 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

“ไฮไฟ โอเรียนท์” เลื่อนแผนเข้าตลาดหุ้นจากเดิมต้นปีหน้า ขอดูสถานการณ์ไปก่อน เผยภาพรวมรายได้รอบ 10 เดือน ทำได้ 500 ล้านบาท โตต่ำกว่าเป้า 18% งัดกลยุทธ์เพิ่มไลน์สินค้าใหม่ปั้มยอด ล่าสุดส่ง หุ่นยนต์ไดโนเสาร์ “PREO” ล่อใจผู้บริโภคส่งท้ายปี

นายคีนัน ควอก (เคน) รองกรรมการผู้จัดการด้านบริหาร บริษัท ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มทุนไฮไฟ โอเรียนท์ ได้แบ่งบริษัทออกเป็น 2 บริษัท แยกการทำงานอย่างชัดเจน โดยไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด (มหาชน) ดูแลและทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มภาพและเสียงหรือเอวี ภายใต้แบรนด์ อะโคนาติก และอีกหนึ่งบริษัท คือ ไลฟ์ โอเรียนท์ จำกัด ดูแลแบรนด์เครื่องใช้ฟ้าในครัวเรือนหรือ เอชเอ และชิ้นเล็ก อย่าง Pensonic, Lebensstil และ Whirlpool

โดยผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สำหรับ ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย พบว่า สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 500 ล้านบาท ยังเติบโตต่ำกว่าเป้าถึง 18% หรือภายในสิ้นปีจะต้องมีรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท การเติบโตที่ 20% โดยกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้นั้น จะมีการทำโปรโมชั่นการขายให้มากขึ้น บวกกับอีก 2 เดือนที่เหลือเชื่อว่าเป็นช่วงที่จะมีการซื้อของขวัญ ยอดขายจึงน่าจะดีขึ้น หรือสามารถทำรายได้ทั้งปีเติบโตได้ 10% ตามกว่าเป้าที่วางไว้

ส่วนบริษัท ไลฟ์ โอเรียนท์ จำกัด ซึ่งดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆในหมวดเอชเอนั้น 10 เดือนที่ผ่านมา มียอดการเติบโตประมาณ 5% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านบาท จากเป้ารายได้ที่วางไว้ 360 ล้านบาท แบ่งเป็น Whirlpool 70% Pensonic20% และ Lebensstil 10%

สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ เวิร์ลพูล หลังจากที่เข้ามาทำการตลาดและการขายให้ประมาณ 2 ปี พบว่ายอดขายยังเป็นไปได้ดีอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องซักผ้าฝาหน้า ตู้เย็น และเครื่องครัวชิ้นเล็ก เหตุตลาดพรีเมี่ยมยังเติบโตดีอยู่ ตามกระแสของอสังหาริมทรัพย์ที่พบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร เกิดขึ้นมากมาย ความต้องการในสินค้าเหล่านี้จึงโตตาม

ล่าสุดช่วงปลายปีนี้ ยังได้เพิ่มแบรนด์ PREO ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ เข้ามาจำหน่ายเพิ่มด้วย ในราคา 19,900บาท ในกลุ่มห้างสรรพสินค้าเครือเดอะมอลล์ วางจำหน่ายที่ สยามพารากอน ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หรือสามารถจำหน่ายได้กว่า 400-500 ตัว ต่อเดือน

นายณัฐพันธ์ คีรีรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของ ไฮไฟฯ เดิมมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงต้นปีหน้า หลังจากที่จดทะเบียนเป็น บริษัท มหาชน เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองยังไม่เอื้อ จึงขอดูสถานการณ์ออกไปก่อน

ทั้งนี้การเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อต้องการเงินทุนมาสร้างแบรนด์ อะโคนาติกมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาสู่ตลาด โดยจะเน้นกลุ่มสินค้าเอวีเป็นหลัก จากเดิมที่มีสินค้ากลุ่มเครื่องทำน้ำอุ่นมาวางจำหน่ายนั้น ก็ได้ยกเลิกไปแล้ว เนื่องจากได้วางโพซิชั่นนิ่งสินค้าไว้ชัดเจนแล้วว่า อะโคนาติก จะมุ่งจับกลุ่มสินค้าเอวี โดยมีลูกค้าในระดับแมส ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและดีไซน์ ในราคาที่สมเหตุสมผล

อย่างไรก็ตามผลประกอบรายได้ขอบไฮไฟฯปีหน้า ได้ตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 16% เน้นกำไรเป็นหลัก ส่วนงบการตลาดคาดว่าจะใช้เท่าปีนี้ ที่ประมาณ 10% ของผลประกอบการ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.