|
แกรมมี่ต่อยอดธุรกิจขุดทองตปท. ผนึก"Orchard"บุกยุโรป-ตั้งบ.ในลาว
ผู้จัดการรายวัน(12 พฤศจิกายน 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
"อากู๋" ไม่หวั่นพิษเศรษฐกิจปีหน้า ตะลุยต่างประเทศบุกยุโรปและอเมริกา จีบบ.ต่างชาติ เป็นดิสทริบิวเตอร์ช่วยกระจายคอนเท้นท์ผ่านโมเดลธุรกิจดิจิตอลดาวน์โหลด ส่วนย่านเอเชีย ขอกรุยทางต่อ ล่าสุดซุ่มขุดทองในลาว ผุด "ลาว จีเอ็มเอ็ม" โกอินเตอร์ร่วม คาดรายได้ดิจิตอลมีกำไรกว่า 50% ในปีหน้า พร้อมโกยรายได้ที่มากกว่าปีนี้แน่
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปีหน้า ทางบริษัทฯจะเน้นธุรกิจต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ล่าสุดได้มีการเซ็นสัญญากับบริษัทต่างชาติที่ชื่อ Orchard เพื่อเป็นดิสทริบิวเตอร์เข้าไปทำธุรกิจเพลงให้ในกลุ่มประเทศยุโรปและอเมริกา ในลักษณะของการขายคอนเท้นท์เพลงให้กับทางบริษัทด้านเทเลคอมในแต่ละประเทศ เพื่อนำคอนเม้นท์นั้นไปให้บริการดาวน์โหลดต่อไป ซึ่งกลุ่มเป้าหมายแรกของตลาดต่างประเทศนี้จะเน้นเป็นหกลุ่มคนไทยและคนลาวซึ่งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน
"การบุกตลาดต่างประเทศแถบยุโรปและอเมริกานี้ แถบจะไม่มีการลงทุนเพิ่มเติมแต่อย่างไร เพราะเรามีคอนเท้นท์อยู่ในมือ ซึ่งได้มีการลงทุนมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นการทำตลาดต่างประเทศ รุกกลุ่มธุรกิจดิจิตอลดาวน์โหลดนี้ เบื้องต้นจะมีการนำศิลปินไปแสดงโชว์ เพื่อให้ลูกค้าเกิดการรับรู้และมีการดาวน์โหลดเพลงต่อไป"
สำหรับการนำศิลปินไปแสดงโชว์ในต่างประเทศนั้น ถือเป็นกลยุทธ์ที่ถูกนำไปใช้ในการธุรกิตต่างประเทศในย่านเอเชียอยู่แล้ว ซึ่งประเทศในเอเชียที่บริษัทฯเข้าไปทำธุรกิจนั้น จะเป็นการเข้าไปร่วมกับพาร์ทเนอร์ในแต่ละประเทศเอง ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือญี่ปุ่น
ล่าสุดทางบริษัทฯได้ร่วมกับทางสมาคมเกี่ยวกับธุรกิจบันเทิงและเพลงในประเทศลาว ก่อตั้งบริษัท ชื่อลาวจีเอ็มเอ็ม โดยทางจีเอ็มเอ็ม มีหุ้นอยู่ 49% ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อที่จะยกระดับมาตรฐานเพลงลาวรวมไปถึงร่วมกันแก้ไขปัญหาการธุรกิจเพลงของลาวให้สามารถทำราคาได้ดีกว่านี้ ซึ่งจะมีการดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดียวกับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเพลง นักร้อง ซึ่งเป็นทั้งนักร้องลาว รวมถึงการนำคอนเท้นท์เพลงไทยเข้าไปทำตลาดด้วย นอกจากนี้บริษัทฯจะนำเอาคอนเท้นท์เพลงลาวมาเป็นส่วนหนึ่งของการนำไปทำตลาดต่างประเทศในยุโรปและอเมริกาด้วย
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า จะเห็นว่าในปีหน้าบริษัทฯจะรุกหนักในธุรกิจด้านคอนเท้นท์ดิจิตอล โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ซึ่งมองว่ารายได้ที่จะมาจากด้านดิจิตอลคอนเท้นท์ จะมีกำไรมากถึง 50% จากรายได้รวมดิจิตอล บวกกับในปีหน้าที่จะรุกหนักเกี่ยวกับทีวีดาวเทียมที่จะเริ่มทยอยเปิดให้ครบทั้ง 5 ช่องตามแผนที่วางไว้ เชื่อว่าจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่จะทำให้ภาพรวมของแกรมมี่ดีกว่าปีนี้ ถึงแม้ว่าหลายฝ่ายจะกังวลในเรื่องของมีเดีย หรือเรื่องของงบโฆษณาในปีหน้าที่อาจจะน้อยลงจากการที่บริษัทข้ามชาติงดใช้เงินนั้น เชื่อว่าคอนเท้นท์รายการทีวีที่มีอยู่ ถือเป็นรายการที่ติดลำดับต้นๆที่มีผู้ชมให้ความสนใจ ดังนั้นจึงมองว่าโฆษณาในแต่ละรายการยังจะดีอยู่
อย่างไรก็ตามในส่วนของทีวีดาวน์เทียม พบว่าหลังจากเปิดช่องแรก คือ แฟนทีวีไปแล้วกว่า 1 เดือนเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาสามารถทำรายได้คุ้มทุน กล่าวคือรายรับและรายจ่ายเท่ากัน โดยในเดือนพ.ย.นี้มองว่าจะมีรายได้จากโฆษณาและดาวน์โหลดกว่า 2-3 ล้านบาท จากลูกค้าหลายราย เช่น โอสถสภา และเอไอเอส ซึ่งแผนระยะต่อไปของช่องแฟนทีวี ช่วงกลางเดือนธ.ค.จะเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆเข้ามาในช่อง เช่นโปรแกรมอินเตอร์เน็ตเว็บแคม เชื่อว่าจะเป็นการต่อยอดเพื่อเพิ่มช่องทางหารายได้ได้มากขึ้น
ทั้งในเรื่องของรายได้ที่คาดว่าจะสูงกว่าปีนี้ รวมถึงกำไรที่น่าจะมากกว่าปีนี้เช่นกัน ซึ่งรายได้รวมปีนี้ของแกรมมี่ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีที่มีการเติบโตของรายได้สูงสุด ตามที่คาดการณ์ไว้ว่า รายได้รวมปีนี้เกินเป้าที่วางไว้กว่า 8,000 ล้านบาท กำไรสูงสุด 700 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|