โออิชิปรับพอร์ตรายได้ลดเสี่ยงปีหน้าหว่าน200ล.ผุด20สาขา


ผู้จัดการรายวัน(7 พฤศจิกายน 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

โออิชิ ปรับพอร์ตรายได้ "อาหารกับเครื่องดื่ม" เท่ากัน 50% ลดความเสี่ยง คุยโวชาเขียวยังเติบโตดี ลั่นปีนี้รายได้รวมโต 30% เกินเป้าหมาย เผยโฉมร้านไมโดะแห่งแรกที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตธันวาคมนี้ ปีหน้าทุ่ม 200 ล้านผุดทุกแบรนด์รวม 20 สาขา

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายปีหน้าของบริษัทฯจะปรับสัดส่วนรายได้ระหว่างอาหารกับเครื่องดื่ม ให้เท่ากันอยู่ที่อย่างละ 50% เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ยังคงมาจาก ธุรกิจเครื่องดื่มโดยมีชาเขียวเป็นตัวหลักมากกว่า 55% และสัดส่วนรายได้กลุ่มอาหารอยู่ที่ 45% จากรายได้รวมปีนี้ประมาณ 6,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมมากกว่า 30% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะเติบโตเพียง 20% จากรายได้รวมปีที่แล้วที่มีประมาณ 4,800 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เติบโตมากกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้ เพราะว่า เครื่องดื่มชาเขียวเป็นตัวหลักที่เติบโตอย่างมาก โดยภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชาเขียวเติบโตที่ 16% จากมูลค่าตลาดรวมที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเครื่องดื่มที่เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มตลาดเครื่องดื่มด้วยกันทั้งหมดในตลาดรวม ขณะที่ชาเขียวของโออิชิเติบโตมากกว่าตลาดรวมด้วยเนื่องจากการทำตลาดและกิจกรรมต่อเนื่อง และส่งผลให้ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 65%

นายตันกล่าวต่อว่า ในเดือนธันวาคมนี้บริษัทฯ จะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ ไมโดะสาขาแรกที่ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และวางแผนปีหน้าเปิดอีก 5 สาขา ขณะที่ภาพรวมปีหน้าลงทุนอีก 200 ล้านบาท เปิดร้านอาหารในเครือทุกแบรนด์รวมกันอีก 20 สาขา

ร้านไมโดะนั้นเดิมทีโออิชิมีแผนที่จะเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ และสาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิตเป็นสาขาที่สอง แต่เนื่องจากว่าที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์นั้นพื้นที่ที่ได้มายังไม่มีความเหมาะสมที่จะเปิดร้านจึงเลื่อนออกไป ขณะที่สาขาที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตเสร็จก่อนจึงเปิดเป็นร้านแรกแทน

ล่าสุดโออิชิโดยกลุ่มเครื่องดื่ม ได้จับมือกับ โรงหนังเอสเอฟกรุ๊ป จัดแคมเปญ "ปฏิบัติการ โออิชิ 009 ตอนสายลับ เอสเอฟ" เพื่อฉลองครบรอบ 9 ปีของโออิชิ โดยมอบบัตรชมภาพยนตร์ฟรีที่โรงหนังในเครือเอสเอฟทั้ง 11 สาขาทั่วกรุงเทพฯ เพียงนำฝาเครื่องดื่มโออิชิกรุ๊ปทั้งหมด จำนวน 9 ฝา มาแลกบัตรชมภาพยนตร์ฟรี 2 ที่นั่ง เรื่องใดก็ได้ ตามเงื่อนไข เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 ธันวาคมนี้ โดยตั้งเป้าไว้ที่ 20,000 ที่นั่ง หรือจนกว่าบัตรกำนัลจะหมด

นายสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด กล่าวว่า ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายโออิชิกับเอสเอฟคล้ายกันเป็นคนรุ่นใหม่ที่รักความบันเทิง ซึ่งได้ร่วมมือกันจัดแคมเปญนี้เป็นครั้งแรก เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจและสร้างสีสันมิติใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.