SIRIฟุ้งยอดโอนสิ้นปี1.4หมื่นล.


ผู้จัดการรายวัน(5 พฤศจิกายน 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

กลุ่มแสนสิริ โชว์ประมาณการรายได้จากยอดโอนปี51 กว่า14,000 ล้านบาท จากยอดโดน42โครงการกว่า 3,950 ยูนิต หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงในการสร้างแบรนด์สินค้า ขยายกลุ่มสินค้าครอบคลุมทุกตลาด แจงเตรียมนำเงินลงทุนโครงการใหม่ ใช้หนี้เงินกู้แบงก์ หวังสร้างความเชื่อมั่นลูกค้า สถาบันการเงินปล่อยกู้โครงการใหม่ปี52

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)SIRI กล่าวว่า หลังจากที่ แสนสิริ และบริษัทในเครือซึ่ง ประกอบด้วย บริษัทพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัท พร้อมพัฒนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และ บริษัท เรดโลตัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้เปิดตัวการขายโครงการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ทั้งโครงการบ้านจัดสรร โครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง โครงการทาวน์เฮาส์ โครงการบ้านแฝด รวมถึงโครงการวิลล่าตากอากาศ และมีการการสร้างแบรนด์ และการรับรู้ในโครงการที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง

ซึ่งส่งผลให้โครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทประสบความสำเร็จในด้านการขาย ทำให้มีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นในทุกๆปี โดยในปี51 กลุ่มบริษัทแสนสิริประมาณการยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภท ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์และพร้อมจะส่งมอบให้กับลูกค้าว่าจะมีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท จากจำนวนที่อยู่อาศัยที่จะมีการโอนให้กับลูกค้าในปีนี้รวม3,950 ยูนิต จากโครงการที่อยู่อาศัยของกลุ่มแสนสิริ และบริษัทในเครือ ขณะนี้มีทั้งอยู่ระหว่างพัฒนาและ มีจำนวนยูนิต สำหรับการขายทั้งสิ้น 42 โครงการประกอบด้วย โครงการบ้านจัดสรรจำนวน 12 โครงการ คอนโดมิเนียม จำนวน 23 โครงการ โครงการทาวน์เฮาส์รวม 7 โครงการ

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทแสนสิริ และบริษัทในเครือ มีโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และมีการสร้างเสร็จเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าเป็นจำนวน 48 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 12 โครงการ โครงการคอนโดมิเนียม 27 โครงการ และโครงการทาวน์เฮาส์ 9 โครงการ โดยในส่วนของโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จะเป็นการก่อสร้าง และส่งมอบบ้านให้กับลูกค้าที่เป็นไปตามเฟสต่างๆ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมจะเป็นโครงการที่มีการเปิดขายและขายหมดตั้งแต่ 1-2 ปีที่ผ่านมา และก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญา

“ในปีนี้กลุ่มบริษัทแสนสิริมีพันธกิจที่สำคัญ ที่จะต้องส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าตามสัญญาเป็นมูลค่าเกือบ 14,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นยอดการโอนที่สูงมากในอันดับต้นๆ ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยกลุ่มบริษัทแสนสิริเตรียมแผนที่จะนำเงินบางส่วนไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้สำหรับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเพื่อใช้ในการรองรับการขยายกิจการทั้งในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ รวมทั้งโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ที่จะครอบคลุมแบบครบวงจรมากขึ้นด้วย”นายเศรษฐา กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการที่กลุ่มบริษัทแสนสิริแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในความเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการใช้ประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาธุรกิจทำให้สถาบันการเงินมีความสนใจและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนด้านการเงินร่วมกับแสนสิริในลำดับต่อไป


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.